วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 ณ โรงแรมบุรีศรีภู หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ จัดเสวนาเรื่อง “ความจำเป็นของโครงข่ายมือถือยุค 3G กับการพัฒนาท้องถิ่น” เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสื่อสารในระบบ 3G ไปพัฒนาเศรษฐกิจของภาคใต้ เพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่น พร้อมทั้งสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และความปลอดภัยของคลื่นจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ตอกย้ำบทบาทเครือข่ายคลื่น 3G ในการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและบริการสาธารณสุขชุมชน เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับคนไทยในทุกพื้นที่ของประเทศ

ดร.อรรถปรีชา รักษาชาติ ผู้บริหารจากสำนักมาตรฐานและเทคโนโลยีโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า “เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมในยุค 3G ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วทุกพื้นที่ กสทช.ในฐานะองค์กรที่มีบทบาทหน้าที่ในการจัดสรรคลื่นความถี่และส่งเสริมให้มีบริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญและส่งเสริมให้มีการขยายโครงข่ายโทรคมนาคม 3G เพื่อเพิ่มสัญญาณการใช้งานโทรศัพท์มือถือให้ครอบคลุมมากที่สุด อันจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ และเป็นที่น่ายินดีที่ทุกภาคส่วนต่างร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการขยายตัวของเทคโนโลยีที่นอกจากจะยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ยังทำให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ก้าวทัดเทียมนานาประเทศทั่วโลกอีกด้วย”

ด้านนายบวร มากนาคา ผู้บริหารจากสำนักมาตรฐานและเทคโนโลยีโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า “อีกหน้าที่สำคัญของ กสทช. คือการกำกับดูแล กำหนดค่ามาตรฐาน และตรวจวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบสถานีฐาน และจากการตรวจวัดค่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐาน จำนวน 40 สถานี ในพื้นที่ 5 ภูมิภาค พบว่ามีค่าต่ำกว่าขีดจำกัดตามที่มาตรฐานกำหนดไว้มาก ซึ่ง กสทช.ได้กำหนดค่ามาตรฐานความแรงของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าย่านความถี่คลื่น 900 MHz. ความแรงต้องไม่เกิน 41 โวลท์ต่อเมตร ย่านความถี่ 1800 MHz. ความแรงต้องไม่เกิน 58 โวลท์ต่อเมตร และย่านความถี่ 2100 MHz. ความแรงต้องไม่เกิน 61 โวลท์ต่อเมตร ดังนั้นการแผ่คลื่นจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือจึงปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้โครงสร้างของเสาสัญญาณจะต้องออกแบบและมีการติดตั้งที่แข็งแรง พร้อมรองรับปัญหาน้ำท่วมหรือสถานการณ์แผ่นดินไหว โดยผู้ประกอบการทุกรายต่างได้นำเข้าอุปกรณ์และเทคโนโลยีจากผู้ผลิตซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากลจากไอทียู”

ส่วนนายสมพร สิริโปรณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “สงขลาเป็นจังหวัดที่ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน และการส่งออกในอาเซียน ดังนั้นการขยายโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะโครงข่ายโทรคมนาคมจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันให้คนในท้องถิ่น ยิ่งไปกว่านั้นการขยายโอกาสให้มีการเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3G ได้อย่างทั่วถึง จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจในชุมชนระดับท้องถิ่น เข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต ส่งข้อมูลผ่านทางมัลติมีเดีย การดาวน์โหลดและอัพโหลดไฟล์เอกสารต่าง ๆ รวมทั้งยังสามารถซื้อขายสินค้าผ่านการทำธุรกรรมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสมาร์ทโฟน ได้ทุกที่ทุกเวลาทั้งยังเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารเผยแพร่สินค้าและโฆษณา รวมถึงบริการต่าง ๆ ของธุรกิจในชุมชนไปถือมือผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และไม่ต้องเดินทาง ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนจะต้องเรียนรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์หรือประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นของชุมชนต่อไป”

ภาพ/ข่าว  สุจินต์  ชูแสง

ผู้สื่อข่าวพิเศษ หนังสือพิมพ์บ้านข่าว