วันนี้(14ก.ย.55) ที่ โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อ.สิงหนคร จ.สงขลา กระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดให้มีการแถลงข่าวการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาแบบเข้มในสถานศึกษาของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย นายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ , นายวินัย สะมะอุน คณะทำงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย , นายสุริยา ปันจอร์ สมาชิกวุฒิสภา จ.สตูล และ นายอาไซ่น่า อับดุลเลาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านจะแนะ
นายอำนาจ วิทยานุวัติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษ เนื่องจากความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้น ดังนั้นการศึกษาจึงต้องมีความสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิตและความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 80 นับถือศาสนาอิสลามและใช้ภาษามลายูเป็นส่วนใหญ่ ทางรัฐบาลจึงให้ความสำคัญและกำหนดจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษที่จะต้องดำเนินนโยบายในการพัฒนาและแก้ปัญหา ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน โดยกำหนดให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ประกอบด้วย จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ,อ.เทพา,อ.สะบ้าย้อย และอ.นาทวี)
และเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2549 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้ชื่อการจัดการศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “การจัดการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้” กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายในการจัดการศึกษาสำหรับพื้นที่ดังกล่าว โดยยึดหลักเชิงบูรณาการกับวิถีชีวิต ความต้องการของท้องถิ่นที่มีลักษณะเฉพาะพื้นฐานของหลักศาสนา ซึ่งสามารถสนองตอบความต้องการของผู้ปกครองและชุมชนที่มีการเรียกร้องให้รัฐดำเนินการเปิดสอนอิสลามศึกษาแบบเข้มในสถานศึกษาของรัฐทำนองเดียวกับโรงเรียนปอเนาะ คือ สัปดาห์ละ 8-12 ชั่วโมง เพื่อส่งเสริมศาสนาอิสลาม พร้อมกันนั้นได้มีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนอิสลามเพิ่มเติมในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาโดยมีการนำร่องในบางโรงเรียนตั้งแต่ปี 2547 และขยายหลักสูตรดังกล่าวเป็น 350 โรงเรียนในปัจจุบัน ซึ่งผลการประเมินพบว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ จึงถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกทางการศึกษา ทำให้นักเรียนสามารถเรียนอิสลามศึกษาในโรงเรียนได้อย่างต่อเนื่อง เพราะศาสนาอิสลามให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอิสลามศึกษาที่สามารถนำความรู้มาปฏิบัติศาสนกิจในชีวิตประจำวันและยึดมั่นในหลักคำสอนของศาสนาอิสลามเป็นหลักในการดำรงชีวิตได้อย่างสันติสุขในพื้นที่ต่อไป.
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าวการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาแบบเข้มในสถานศึกษาของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
วันนี้(14ก.ย.55) ที่ โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อ.สิงหนคร จ.สงขลา กระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดให้มีการแถลงข่าวการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาแบบเข้มในสถานศึกษาของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย นายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ , นายวินัย สะมะอุน คณะทำงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย , นายสุริยา ปันจอร์ สมาชิกวุฒิสภา จ.สตูล และ นายอาไซ่น่า อับดุลเลาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านจะแนะ
นายอำนาจ วิทยานุวัติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษ เนื่องจากความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้น ดังนั้นการศึกษาจึงต้องมีความสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิตและความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 80 นับถือศาสนาอิสลามและใช้ภาษามลายูเป็นส่วนใหญ่ ทางรัฐบาลจึงให้ความสำคัญและกำหนดจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษที่จะต้องดำเนินนโยบายในการพัฒนาและแก้ปัญหา ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน โดยกำหนดให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ประกอบด้วย จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ,อ.เทพา,อ.สะบ้าย้อย และอ.นาทวี)
และเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2549 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้ชื่อการจัดการศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “การจัดการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้” กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายในการจัดการศึกษาสำหรับพื้นที่ดังกล่าว โดยยึดหลักเชิงบูรณาการกับวิถีชีวิต ความต้องการของท้องถิ่นที่มีลักษณะเฉพาะพื้นฐานของหลักศาสนา ซึ่งสามารถสนองตอบความต้องการของผู้ปกครองและชุมชนที่มีการเรียกร้องให้รัฐดำเนินการเปิดสอนอิสลามศึกษาแบบเข้มในสถานศึกษาของรัฐทำนองเดียวกับโรงเรียนปอเนาะ คือ สัปดาห์ละ 8-12 ชั่วโมง เพื่อส่งเสริมศาสนาอิสลาม พร้อมกันนั้นได้มีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนอิสลามเพิ่มเติมในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาโดยมีการนำร่องในบางโรงเรียนตั้งแต่ปี 2547 และขยายหลักสูตรดังกล่าวเป็น 350 โรงเรียนในปัจจุบัน ซึ่งผลการประเมินพบว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ จึงถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกทางการศึกษา ทำให้นักเรียนสามารถเรียนอิสลามศึกษาในโรงเรียนได้อย่างต่อเนื่อง เพราะศาสนาอิสลามให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอิสลามศึกษาที่สามารถนำความรู้มาปฏิบัติศาสนกิจในชีวิตประจำวันและยึดมั่นในหลักคำสอนของศาสนาอิสลามเป็นหลักในการดำรงชีวิตได้อย่างสันติสุขในพื้นที่ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
There is no related posts.