วันนี้  (5ก.ย.55) ที่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการบรรยายสรุปเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แก่นักศึกษาหลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 72 โดยมีคณาจารย์และนักศึกษาเข้าร่วมรับฟัง จำนวนกว่า 140 คน

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุความไม่สงบบ่อยครั้ง กล่าวกับนักศึกษานายอำเภอว่า ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ได้เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นจำนวนมากจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวนกว่า 5,000 คน และมีข้าราชการฝ่ายปกครองได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตตั้งแต่ระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดอำเภอไล่ลงมา จำนวน 27 ราย ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากสาเหตุหลายประการ อาทิ การมีความคิดอุดมการณ์ที่รุนแรง ความไม่เป็นธรรม ยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย การเมืองท้องที่/การเมืองท้องถิ่น การทุจริตคอรัปชั่นในโครงการต่างๆ ความขัดแย้งส่วนตัว ฯลฯ ดังนั้นการที่นักศึกษานายอำเภอทุกคน ซึ่งกำลังจะเป็นนายอำเภอในอนาคตอันใกล้ จะต้องปฏิบัติงานโดยการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัว มาแก้ไขปัญหาในพื้นที่ตามสถานการณ์และเหตุการณ์ด้วยความจริงใจ โดยจะต้องมีจิตสำนึกของการเป็นนายอำเภอด้วยความเข้มแข็ง อดทน ยึดมั่นในประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ดำเนินงานตามเบื้องพระยุคลบาทอย่างแท้จริง และจะต้องศึกษาให้เข้าใจในวัฒนธรรม ประเพณีของแต่ละศาสนาที่มีความหลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันภาคราชการได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวควบคู่กันไปทั้งงานด้านความมั่นคงและงานด้านการพัฒนา สำหรับประสบการณ์ที่ผ่านมาในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้ดำเนินการให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมตามโครงการยะลาเข้มแข็ง การสนับสนุนราษฎรให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส การกำหนดวิธีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ใช้กฎหมายพิเศษ การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบซึ่งจะต้องมีการดำเนินการเยียวยาอย่างรวดเร็ว

นายกฤษฎา บุญราช กล่าวเน้นย้ำในช่วงสุดท้ายของการบรรยายว่า ขอให้ว่าที่นายอำเภอทุกคนยึดการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่างในการทำงาน โดยมีจิตสำนึกที่ดี ตั้งสติ ยึดเจตนาสุจริต พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกฝ่ายทั้งเพื่อนร่วมงานและประชาชน ปฏิบัติตนอยู่ในความพอเพียง และยึดมั่นในการทำความดีต่อไปโดยไม่หวั่นไหว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์และความสุขของพี่น้องประชาชนต่อไป.

ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ : สุทธิดา พฤกษ์อุดม