คืบหน้าผลพิสูจน์ DNA เหตุคนร้ายปล้นทองกลางห้างในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยืนยันผลพิสูจน์ DNA เป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่บางกลุ่มกล่าวอ้าง
คืบหน้าผลพิสูจน์ DNA เหตุคนร้ายปล้นทองกลางห้างในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยืนยันผลพิสูจน์ DNA เป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่บางกลุ่มกล่าวอ้าง
คืบหน้าผลพิสูจน์ DNA เหตุคนร้ายปล้นทองกลางห้างในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยืนยันผลพิสูจน์ DNA เป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่บางกลุ่มกล่าวอ้าง
จากเหตุคนร้ายปล้นทองกลางห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลต่อผลกระทบจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน นับเป็นการกระทำเยี่ยงโจร สะท้อนเจตนาที่ชัดเจนของผู้ก่อเหตุในการใช้ความรุนแรงเพื่อหวังประโยชน์ทางการเงิน เพื่อมาหล่อเลี้ยงกลุ่มขบวนการ แต่ยังมีบางกลุ่มกล่าวอ้างและพยายามบิดเบือนข้อมูล สร้างความเข้าใจผิด ว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยคืบหน้าล่าสุด ผลการตรวจสอบหลักฐานซึ่งเป็นรถยนต์ที่พบจอดทิ้งไว้บริเวณบ้านตอออ หมู่ที่ 1 ตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 คัน ตรงกับรถยนต์ที่ผู้เสียหาย 2 ราย แจ้งความว่าถูกปล้นรถยนต์ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ณ สถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ก่อนคนร้ายจะนำมาใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุปล้นทองกลางห้างในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ทราบรายละเอียดดังนี้
-คันที่ 1 รถยนต์ กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน กค 6521 นราธิวาส ซึ่งเป็นรถของนายมะอูเซ็ง แจ๊ะมะ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 หมู่ที่ 4 ต.ปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
– คันที่ 2 รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บท 7187 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถของนายการี เต็ง อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/4 หมู่ที่ 5 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
นอกจากนี้ DNA ที่เก็บได้ ระบุได้ชัดว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง เพราะผลพิสูจน์ DNA ในรถที่เกิดเหตุ พบว่าตรงกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงและจะได้ติดตามเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
ทั้งนี้หากมีความคืบหน้า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะแจ้งให้ทราบต่อไป และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือวัตถุต้องสงสัยหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามผู้ก่อเหตุ สามารถแจ้งเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร.1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง และย้ำว่า ผู้สนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง ซ่อนตัว หรือจัดหาเสบียง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025