เมื่อเร็วๆ นี้ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) ร่วมกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปีที่ 7” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์แก่เยาวชน 100 คน จากทั่วประเทศ ณ โรงแรมคุ้มไทรงาม แอนด์ รีสอร์ท และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา
นายเดชชนะ ภิญโญตระกูล ผู้จัดการศูนย์ซ่อมบำรุงบนฝั่ง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “เชฟรอนได้สนับสนุนโครงการ ‘ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล’ มาตั้งแต่ปี 2560 และจัดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายโอกาสการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชน ได้นำองค์ความรู้ไปต่อยอดขยายผลในการเรียนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียนได้ รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชนนักดาราศาสตร์ ที่จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์และวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งจากการเรียนรู้ผ่านการบรรยายจากวิทยากร และการปฏิบัติจริงผ่านการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ เช่น การวัดมุม การติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ การสังเกตดวงดาวและดวงอาทิตย์ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเชฟรอน ในการส่งเสริมการเรียนรู้ในสาขาสะเต็ม โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ให้กับเยาวชนและประชาชนในพื้นที่สงขลา เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่อไป”
นายธีรยุทธ์ ลอยลิบ หัวหน้าหอดูดาวภูมิภาคสงขลา หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา กล่าวว่า “หอดูดาวฯ สงขลา จัดค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล มาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เป็นปีที่ 7 แต่รวมทั้งหมดมี 8 ครั้ง เพราะในปีแรกได้รับความสนใจจากเยาวชนทั่วประเทศจำนวนมาก จึงได้มีการจัดกิจกรรมขึ้นถึง 2 ครั้ง ทำให้ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนผ่านการเข้าร่วมค่ายนี้แล้วกว่า 800 คน ซึ่งเด็กค่ายส่วนใหญ่ที่จบจากค่ายนี้ ยังคงอยู่ในวงการวิทยาศาสตร์และหลายคนกลับมาช่วยงานค่าย โดยค่ายนี้ไม่ได้มุ่งผลิตนักดาราศาสตร์โดยตรง แต่ต้องการให้เด็ก ๆ ชื่นชอบการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านกิจกรรมดาราศาสตร์ที่สนุกสนาน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมบางคนได้รับแรงบันดาลใจและไปศึกษาต่อด้านฟิสิกส์และเลือกทำวิทยานิพนธ์ด้านดาราศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น บางคนได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หลายคนกลายเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์เป็นพิเศษ รวมถึงเด็กค่ายที่เติบโตไปเรียนระดับมหาวิทยาลัย ได้กลับมาเป็นอาสาสมัครช่วยงานค่ายและงานกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความผูกพันของเครือข่ายเยาวชนนักดาราศาสตร์ที่เติบโตไปจากค่ายนี้”
ด้าน น้องวีย์ – นายมูฮัมหมัดดาลาวีย์ สาเระ นักศึกษาปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ สาขาดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมาร่วมค่ายครั้งนี้ในฐานะ “พี่ค่าย” เล่าว่า “เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.5 ซึ่งเป็นปีแรกที่หอดูดาวและเชฟรอนจัดค่ายนี้ขึ้น ซึ่งการได้เข้าร่วมค่ายฯ ครั้งนั้น ได้ช่วยจุดประกายฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้ตัดสินใจเลือกเส้นทางอนาคตไปทางด้านดาราศาสตร์ โดยได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี สายวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาโท สาขาดาราศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยได้รับทุน พสวท. หรือ ‘ทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี’ ซึ่งเป็นทุนการศึกษาที่ให้สำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมให้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ผมได้รับโอกาสมากมายจากการร่วมกิจกรรมด้านดาราศาสตร์ทั้งที่หอดูดาวฯสงขลา หอดูดาวฯ เชียงใหม่ ได้เป็นพี่เลี้ยงค่าย และเป็นผู้ช่วยวิทยากรบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นประสบการณ์สำคัญมาก การที่ผมเลือกเรียนด้านดาราศาสตร์ เพราะตั้งใจที่จะได้นำความรู้และและประสบการณ์ไปทำงานสร้างคุณประโยชน์เพื่อทดแทนบุญคุณบ้านเกิดของตนในอนาคตต่อไป”
ขณะที่ น้องกอมี – นายนิติศาสตร์ บำรุง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอัรรอยยานพิทยานุสรณ์ อำเภออ่าวนาง จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า “ปกติผมตื่นตอนฟ้าใกล้รุ่งเพื่อละหมาด และชอบออกมายืนมองท้องฟ้า มองดูดวงดาว ที่ผ่านมา เคยมาเข้าร่วมค่ายโรงเรียนดูดาวที่หอดูดาวฯ สงขลาจัดขึ้น ในครั้งนั้นผมมากับครูและเพื่อนที่โรงเรียน ทำให้รู้สึกชื่นชอบและสมัครมาร่วมค่ายในครั้งนี้ สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในค่ายนี้คือการได้รับแรงบันดาลใจในการเรียนวิทยาศาสตร์ ทำให้ชื่นชอบด้านดาราศาสตร์มากขึ้น ในอนาคตตั้งใจแล้วว่าถ้ามีโอกาส ผมจะไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านดาราศาสตร์อย่างแน่นอน”
ส่วน น้องฟาน – นายอิรฟาน ศรีเหมาะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า “สมัครเข้าร่วมค่ายนี้เพราะรุ่นพี่และอาจารย์แนะนำว่าเป็นค่ายที่ดี ได้เรียนรู้เรื่องการดูดาว การทัศนศึกษา และได้เพื่อนใหม่ ผมมองว่าดาราศาสตร์ไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับดวงดาว แต่ยังเชื่อมโยงกับศาสนาอิสลามในการกำหนดเวลาละหมาดและการถือศีลอด สิ่งที่ได้รับจากค่ายนี้คือได้เพื่อนใหม่จากทั่วประเทศ และได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะการได้เรียนรู้เรื่องกล้องดูดาวหลายประเภท ทั้งแบบหักเหและสะท้อน รวมถึงวิธีการติดตั้งกล้องด้วยตนเอง ผมประทับใจค่ายนี้ เพราะไม่ใช่แค่การอบรมที่นั่งฟังอย่างเดียว แต่มีการทำกิจกรรมหลากหลายที่ทำให้ไม่รู้สึกง่วงและได้เรียนรู้มากมาย กิจกรรมสันทนาการก็ยอดเยี่ยมและช่วยให้ทุกคนมีพลัง อยากให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ต่อไป เพราะเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับเด็กต่างจังหวัด ในอนาคตผมอยากเป็นครูสอนดาราศาสตร์เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้ผู้อื่นด้วย”
ในส่วนของ น้องมีมี่ – นางสาววัลญา แหละหลี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนส่งเสริมวิทยามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา บอกเล่าความรู้สึกจากการเข้าร่วมค่ายในครั้งนี้ ว่า “ส่วนตัวเป็นคนชอบเข้าร่วมกิจกรรม ที่ผ่านมามีโอกาสไปร่วมค่ายมาหลายที่ แต่รู้สึกประทับใจมากเป็นพิเศษกับค่ายนี้ กิจกรรมดูดาว เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและประทับใจ รู้สึกว่ามันอาจจะเปลี่ยนความคิดเรื่องอาชีพไปเลย กิจกรรมสันทนาการก็ดีมากและมีการแบ่งช่วงเวลาชัดเจน รวมทั้งในฐานะที่เป็นคนสงขลา ภูมิใจมากที่เพื่อนๆ ที่มาร่วมค่าย ซึ่งมาจากต่างถิ่นรู้สึกประทับใจเมืองสงขลาจนอยากจะมาเที่ยวอีก สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเชฟรอนที่สนับสนุนกิจกรรมนี้ รู้สึกว่าคุ้มค่ามากที่ได้มา และจะนำความรู้ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณพี่ๆ วิทยากร ขอบคุณหอดูดาวฯสงขลา ที่ทุ่มเทให้กับกิจกรรมอย่างเต็มที่ ทำให้น้อง ๆ ที่มาร่วมค่ายได้รับทั้งความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่ามากมาย”
ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ค่ายเยาวชนคนดูดาวเท้าติดทะเลได้ดำเนินมา มี “ดาว” หลายดวงที่ได้เปล่งประกายเจิดจรัสในวงการดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของไทยอย่างโดดเด่น และอีกหลายดวงก็กำลังเริ่มฉายแสง ของตัวเอง เราเชื่อมั่นว่าในอนาคต เยาวชนเหล่านี้จะเติบโตขึ้นเป็นบุคลากรที่สำคัญและเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนวงการวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ของไทยต่อไป.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
เชฟรอน – หอดูดาวฯ สงขลา และ สดร. จัด “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล” ปีที่ 7 จุดประกายฝัน ปั้น “นักดาราศาสตร์รุ่นใหม่” ให้ประเทศ
เมื่อเร็วๆ นี้ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) ร่วมกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปีที่ 7” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์แก่เยาวชน 100 คน จากทั่วประเทศ ณ โรงแรมคุ้มไทรงาม แอนด์ รีสอร์ท และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา
นายเดชชนะ ภิญโญตระกูล ผู้จัดการศูนย์ซ่อมบำรุงบนฝั่ง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “เชฟรอนได้สนับสนุนโครงการ ‘ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล’ มาตั้งแต่ปี 2560 และจัดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายโอกาสการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชน ได้นำองค์ความรู้ไปต่อยอดขยายผลในการเรียนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียนได้ รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชนนักดาราศาสตร์ ที่จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์และวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งจากการเรียนรู้ผ่านการบรรยายจากวิทยากร และการปฏิบัติจริงผ่านการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ เช่น การวัดมุม การติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ การสังเกตดวงดาวและดวงอาทิตย์ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเชฟรอน ในการส่งเสริมการเรียนรู้ในสาขาสะเต็ม โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ให้กับเยาวชนและประชาชนในพื้นที่สงขลา เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่อไป”
นายธีรยุทธ์ ลอยลิบ หัวหน้าหอดูดาวภูมิภาคสงขลา หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา กล่าวว่า “หอดูดาวฯ สงขลา จัดค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล มาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เป็นปีที่ 7 แต่รวมทั้งหมดมี 8 ครั้ง เพราะในปีแรกได้รับความสนใจจากเยาวชนทั่วประเทศจำนวนมาก จึงได้มีการจัดกิจกรรมขึ้นถึง 2 ครั้ง ทำให้ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนผ่านการเข้าร่วมค่ายนี้แล้วกว่า 800 คน ซึ่งเด็กค่ายส่วนใหญ่ที่จบจากค่ายนี้ ยังคงอยู่ในวงการวิทยาศาสตร์และหลายคนกลับมาช่วยงานค่าย โดยค่ายนี้ไม่ได้มุ่งผลิตนักดาราศาสตร์โดยตรง แต่ต้องการให้เด็ก ๆ ชื่นชอบการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านกิจกรรมดาราศาสตร์ที่สนุกสนาน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมบางคนได้รับแรงบันดาลใจและไปศึกษาต่อด้านฟิสิกส์และเลือกทำวิทยานิพนธ์ด้านดาราศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น บางคนได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หลายคนกลายเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์เป็นพิเศษ รวมถึงเด็กค่ายที่เติบโตไปเรียนระดับมหาวิทยาลัย ได้กลับมาเป็นอาสาสมัครช่วยงานค่ายและงานกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความผูกพันของเครือข่ายเยาวชนนักดาราศาสตร์ที่เติบโตไปจากค่ายนี้”
ด้าน น้องวีย์ – นายมูฮัมหมัดดาลาวีย์ สาเระ นักศึกษาปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ สาขาดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมาร่วมค่ายครั้งนี้ในฐานะ “พี่ค่าย” เล่าว่า “เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.5 ซึ่งเป็นปีแรกที่หอดูดาวและเชฟรอนจัดค่ายนี้ขึ้น ซึ่งการได้เข้าร่วมค่ายฯ ครั้งนั้น ได้ช่วยจุดประกายฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้ตัดสินใจเลือกเส้นทางอนาคตไปทางด้านดาราศาสตร์ โดยได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี สายวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาโท สาขาดาราศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยได้รับทุน พสวท. หรือ ‘ทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี’ ซึ่งเป็นทุนการศึกษาที่ให้สำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมให้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ผมได้รับโอกาสมากมายจากการร่วมกิจกรรมด้านดาราศาสตร์ทั้งที่หอดูดาวฯสงขลา หอดูดาวฯ เชียงใหม่ ได้เป็นพี่เลี้ยงค่าย และเป็นผู้ช่วยวิทยากรบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นประสบการณ์สำคัญมาก การที่ผมเลือกเรียนด้านดาราศาสตร์ เพราะตั้งใจที่จะได้นำความรู้และและประสบการณ์ไปทำงานสร้างคุณประโยชน์เพื่อทดแทนบุญคุณบ้านเกิดของตนในอนาคตต่อไป”
ขณะที่ น้องกอมี – นายนิติศาสตร์ บำรุง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอัรรอยยานพิทยานุสรณ์ อำเภออ่าวนาง จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า “ปกติผมตื่นตอนฟ้าใกล้รุ่งเพื่อละหมาด และชอบออกมายืนมองท้องฟ้า มองดูดวงดาว ที่ผ่านมา เคยมาเข้าร่วมค่ายโรงเรียนดูดาวที่หอดูดาวฯ สงขลาจัดขึ้น ในครั้งนั้นผมมากับครูและเพื่อนที่โรงเรียน ทำให้รู้สึกชื่นชอบและสมัครมาร่วมค่ายในครั้งนี้ สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในค่ายนี้คือการได้รับแรงบันดาลใจในการเรียนวิทยาศาสตร์ ทำให้ชื่นชอบด้านดาราศาสตร์มากขึ้น ในอนาคตตั้งใจแล้วว่าถ้ามีโอกาส ผมจะไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านดาราศาสตร์อย่างแน่นอน”
ส่วน น้องฟาน – นายอิรฟาน ศรีเหมาะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า “สมัครเข้าร่วมค่ายนี้เพราะรุ่นพี่และอาจารย์แนะนำว่าเป็นค่ายที่ดี ได้เรียนรู้เรื่องการดูดาว การทัศนศึกษา และได้เพื่อนใหม่ ผมมองว่าดาราศาสตร์ไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับดวงดาว แต่ยังเชื่อมโยงกับศาสนาอิสลามในการกำหนดเวลาละหมาดและการถือศีลอด สิ่งที่ได้รับจากค่ายนี้คือได้เพื่อนใหม่จากทั่วประเทศ และได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะการได้เรียนรู้เรื่องกล้องดูดาวหลายประเภท ทั้งแบบหักเหและสะท้อน รวมถึงวิธีการติดตั้งกล้องด้วยตนเอง ผมประทับใจค่ายนี้ เพราะไม่ใช่แค่การอบรมที่นั่งฟังอย่างเดียว แต่มีการทำกิจกรรมหลากหลายที่ทำให้ไม่รู้สึกง่วงและได้เรียนรู้มากมาย กิจกรรมสันทนาการก็ยอดเยี่ยมและช่วยให้ทุกคนมีพลัง อยากให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ต่อไป เพราะเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับเด็กต่างจังหวัด ในอนาคตผมอยากเป็นครูสอนดาราศาสตร์เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้ผู้อื่นด้วย”
ในส่วนของ น้องมีมี่ – นางสาววัลญา แหละหลี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนส่งเสริมวิทยามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา บอกเล่าความรู้สึกจากการเข้าร่วมค่ายในครั้งนี้ ว่า “ส่วนตัวเป็นคนชอบเข้าร่วมกิจกรรม ที่ผ่านมามีโอกาสไปร่วมค่ายมาหลายที่ แต่รู้สึกประทับใจมากเป็นพิเศษกับค่ายนี้ กิจกรรมดูดาว เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและประทับใจ รู้สึกว่ามันอาจจะเปลี่ยนความคิดเรื่องอาชีพไปเลย กิจกรรมสันทนาการก็ดีมากและมีการแบ่งช่วงเวลาชัดเจน รวมทั้งในฐานะที่เป็นคนสงขลา ภูมิใจมากที่เพื่อนๆ ที่มาร่วมค่าย ซึ่งมาจากต่างถิ่นรู้สึกประทับใจเมืองสงขลาจนอยากจะมาเที่ยวอีก สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเชฟรอนที่สนับสนุนกิจกรรมนี้ รู้สึกว่าคุ้มค่ามากที่ได้มา และจะนำความรู้ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณพี่ๆ วิทยากร ขอบคุณหอดูดาวฯสงขลา ที่ทุ่มเทให้กับกิจกรรมอย่างเต็มที่ ทำให้น้อง ๆ ที่มาร่วมค่ายได้รับทั้งความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่ามากมาย”
ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ค่ายเยาวชนคนดูดาวเท้าติดทะเลได้ดำเนินมา มี “ดาว” หลายดวงที่ได้เปล่งประกายเจิดจรัสในวงการดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของไทยอย่างโดดเด่น และอีกหลายดวงก็กำลังเริ่มฉายแสง ของตัวเอง เราเชื่อมั่นว่าในอนาคต เยาวชนเหล่านี้จะเติบโตขึ้นเป็นบุคลากรที่สำคัญและเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนวงการวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ของไทยต่อไป.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025