ทีมบ้านพรุก้าวหน้า
สุจริต เที่ยงธรรม นำความก้าวหน้า พัฒนาท้องถิ่น
นโยบาย 6 เมืองน่าอยู่
1. บ้านพรุเมืองกีฬา
– สนับสนุนและพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาอย่างหลากหลาย
นำกีฬาสู่ความเป็นเลิศ
– ปรับปรุงสนามกีฬา 18 ไร่ ให้ได้มาตรฐาน (Sport
Complex)
– ปรับปรุงสนามกีฬาภาษีเจริญ (ด้านในและนอกอาคาร)
– เครื่องเล่นกีฬา/เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง
– ค่ายเยาวชนกีฬาภาคฤดูร้อน
2. บ้านพรุเมืองสุขภาพดี
– จัดหน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ตรวจสุขภาพในชุมชน
– จัดทำศูนย์ฟอกไต (หมอและพยาบาลเฉพาะทาง)
– โครงการ 100 เตียง ร้อยใจ สูงวัยไร้กังวล (หมอถึงบ้าน
พยาบาลถึงเรือน)
– จัดพยาบาล เข้าถึงผู้ป่วยติดเตียง
– โครงการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อดูแลคุณภาพชีวิต
ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้มีภาวะพึ่งพิง
– ให้บริการจองคิวล่วงหน้า
– ปรับปรุงที่พักอาศัย ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้มีภาวะพึ่งพิง
3. บ้านพรุเมืองการศึกษาดี
– ยกระดับการศึกษาโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองบ้านพรุให้
ก้าวหน้าในโลกปัจจุบัน(โรงเรียนอนุบาลอัจฉริยะ)
– ส่งเสริมการจัดการเรียนทางด้านภาษา
– ส่งเสริมกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ (ห้องเรียนวิทยาศาสตร์)
– เพิ่มโอกาสการศึกษาจัดหาทุนการศึกษาเด็กเรียนดีแต่ยากจน ต่อยอดโรงเรียนระดับประถมศึกษา
– ส่งเสริมการเรียนรู้ในอุทยานการเรียนรู้บ้านพรุ
(TK. Park) จัดสอน จัดกิจกรรมภาษาต่างประเทศ
– กิจกรรมเข้าค่ายภาษา/เข้าค่ายวิทยาศาสตร์
– พัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งใน-นอกระบบ
ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเช่นการทำอาหาร ดนตรี
การแสดง ฯลฯ
– โครงการ Tutor Connect (เด็กด้อยโอกาส)
– ติดตั้งอินเตอร์เน็ตฟรี ครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่งเสริมการเรียนรู้
– สนามเด็กเล่นได้มาตรฐาน (จุดหมายตลาดน้ำบ้านพรุ)

4. บ้านพรุเมืองปลอดภัย
– ติดตั้ง CCTV จุดเสี่ยงรอบเขตเทศบาล
– โครงการอาสาสมัครรักษาเมืองเมืองรุ่นเยาว์ (Young City
Guard)
– ยกระดับและพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของ อปพร.
– จัดระเบียบเมืองให้น่าอยู่และปลอดภัย
– จัดระเบียบการจอดรถยนต์ในเขตเทศบาล
– จัดระเบียบสายสื่อสาร
– ตีเส้นจราจร
– ฝาปิดคูระบายน้ำ
– ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างถนนและที่สาธารณะอย่างทั่วถึง
– บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดให้เป็นคนดีของสังคม
สู่สังคมปลอดภัย
5. บ้านพรุเมืองสิ่งแวดล้อมดี
– พัฒนาสวนสาธารณะพรุค้างคาวให้เป็นปอดใหญ่ของเมืองบ้านพรุ
– ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม สถานที่พักผ่อน
สถานที่ออกกำลังกาย จุดเช็คอินต้อนรับนักท่องเที่ยว
– โครงการถนนไร้ฝุ่น
– เมืองปลอดขยะ คัดแยกขยะจากต้นทาง
การบริหารจัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะ
– พัฒนา คู คลอง ระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

6. บ้านพรุเมืองเศรษฐกิจดี
– ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กลุ่มอาชีพ และสินค้า OTOP
สร้างความเป็นเลิศ นำสินค้าสู่ตลาด
– ส่งเสริมการตลาด (ถนนคนเดิน2ฝั่งถนนบ้านพรุธานี)
และตลาดน้ำบ้านพรุ/ตลาดชุมชน
– ส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน สร้างจุดเช็คอิน
สู่บ้านพรุเมืองต้องแวะ
7. บ้านพรุเมือง AI/smart city
– เป็นเมืองที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ
– เกิดความคล่องตัว
เชื่อมโยงความร่วมมือและการประยุกต์ใช้นวัตกรรม
– สามารถใช้นวัตกรรมกับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างชาญฉลาด ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี
– การเพิ่มและขยายเครือข่ายแก่ชุมชนให้เข้าถึงการสื่อสารได้สะดวก
– ลดค่าใช้จ่าย
– เป็นแหล่งข้อมูลในการเรียนรู้

8. บ้านพรุเมืองโครงสร้างพื้นฐานดี
– ถนนหนทาง คูระบายน้ำดี
– ไฟฟ้า ประปา ทั่วถึง
9. บ้านพรุเมืองบริหารการจัดการที่ดี บริหารตามหลักธรรมาภิบาล
– หลักนิติธรรม
– หลักคุณธรรม
– หลักการมีส่วนร่วม
– หลักความรับผิดชอบ
– หลักความโปร่งใส
– หลักความคุ้มค่า

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
1. เกิดประโยชน์สูงสุดของประชาชน
2. เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
3. มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
4. ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติติงานเกินความจำเป็น
5. มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์
6. ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบสนอง
ความต้องการ
7. มีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ
บ้านพรุเมือง AI / Smart City
Smart City คืออะไร ?
สมาร์ทซิตี้คือเมืองที่ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเมืองเหล่านี้พึ่งพาเครื่องมือที่ล้ำสมัย เช่น AIในการบริหารทรัพยากร ลดการใช้พลังงาน จัดการระบบขนส่งและเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะในประเทศไทย สมาร์ทซิตี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาในเขตเมือง เช่นการจราจรที่ติดขัด ปัญหาสิ่งแวดล้อม
AI ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์สมาร์ทซิตี้ของไทยอย่างไร
1. ปรับปรุงการจัดการจราจร
ปัญหาระบบจราจรที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์จากกล้องและเซ็นเซอร์ในการวิเคราะห์การ
จราจรและปรับเปลี่ยนเวลาสัญญาณไฟให้เหมาะสม
2. เพิ่มความปลอดภัยสาธารณะ
ความปลอดภัยเป็นองค์ประกอบสำคัญของสมาร์ทซิตี้ AI
ช่วยในการป้องกันอาชญากรรมและการจัดการภัยพิบัติผ่านเทคโนโลยี
ต่างๆ เช่น :
● ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ: กล้องที่ใช้ AI สามารถตรวจจับ
กิจกรรมผิดปกติหรือเหตุฉุกเฉินและแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ได้ทันที
● การรับมือภัยพิบัติ: AI วิเคราะห์ข้อมูลจากการพยากรณ์
อากาศและเซ็นเซอร์ เพื่อคาดการณ์น้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว
ช่วยให้สามารถดำเนินการเชิงรุกได้
3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสมาร์ทซิตี้มุ่งเน้นความยั่งยืน โดย AI ช่วยตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิ
ภาพการใช้พลังงาน
● โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ: ใช้ AI
ในการบริหารจัดการความต้องการและการจ่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
● อาคารประหยัดพลังงาน: AI วิเคราะห์รูปแบบการใช้พลังงาน เพื่อลดการสูญเสียพลังงานในบ้านและสำนักงาน
AI กับการบริการภาครัฐรัฐบาลไทยกำลังใช้ AI เพื่อยกระดับบริการสาธารณะให้มีความชาญฉลาด รวดเร็ว และเข้าถึงง่ายขึ้น การดูแลสุขภาพ AI กำลังปฏิวัติระบบสาธารณสุขของประเทศไทยด้วย เครื่องมือที่ช่วยลดช่องว่างด้านการเข้าถึงและคุณภาพบริการ ดังนี้
● แชทบอทขับเคลื่อนด้วย AI : แชทบอทเสมือนจริงให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพ ช่วยนัดหมายแพทย์ และตอบคำถามที่พบบ่อย โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ การบริหารภาครัฐ (E-Governance)
AI ปรับปรุงกระบวนการทำงานของภาครัฐ ทำให้การบริการประชาชนมีความราบรื่นและโปร่งใสมากขึ้น
● การตรวจสอบเอกสาร: ระบบ AI สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารราชการ เช่น บัตรประชาชน ใบอนุญาตหรือใบอนุมัติได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาในการดำเนินการ
การศึกษาที่เสริมด้วย AI:
สถานศึกษาจะสามารถใช้แพลตฟอร์มที่ใช้ AI ในการประเมินลักษณะการเรียนรู้ ความแข็งแกร่ง และจุดอ่อนของนักเรียน เพื่อออกแบบแผนการเรียนที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละคน นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยครูในการจัดการงานด้านการบริหารและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความก้าวหน้าของนักเรียน ซึ่งจะช่วยให้ครูสามารถมุ่งเน้นไปที่การสอนมากขึ้น วิธีการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลนี้สามารถช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาและลดความไม่เสมอภาคในการศึกษาได้
การท่องเที่ยวอัจฉริยะ:ประเทศไทยที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลายและอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวที่เฟื่องฟู สามารถใช้ AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวได้ โดยระบบ AI เช่น แชทบอทที่รองรับหลายภาษา จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถสื่อสารและขอข้อมูลได้สะดวกขึ้นในภาษาของตนเอง.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน