วันนี้ (18 ก.พ. 68) นางปิยนันท์ สิงห์ทอง รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด รักษาราชการแทน ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ปฏิบัติหน้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นางสาวภพภร ทองคณารักษ์ ผู้อำนวยการกองผังเมือง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ในโอกาสลงพื้นที่ติดตามการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย และความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย ณ ด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา บริเวณหลักเขตแดนที่ Bp23/9 ในการประชุม ครม.สัญจร พัทลุง-สงขลา โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โอกาสนี้ นางสาวภพภร ทองคณารักษ์ ผู้อำนวยการกองผังเมือง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้นำเสนอข้อมูลถึงความคืบหน้าของโครงการฯ แก่นายกรัฐมนตรีอีกด้วย
ตามที่ รัฐบาลได้ประกาศเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 10 จังหวัด โดยในส่วนของจังหวัดสงขลาครอบคลุมพื้นที่อำเภอสะเดา 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลสำนักขาม ตำบลสำนักแต้ว ตำบลปาดังเบซาร์ ตำบลสะเดา (พื้นที่ 345,187 ไร่) ทั้งนี้ ภาครัฐได้กำหนดพัฒนาพื้นที่รองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา จำนวน 1,069-2-21 ไร่ ในตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประกอบกับด่านศุลกากรสะเดา มีมูลค่าสินค้านำเข้าปี พ.ศ.2567 จำนวน 405,093.71 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุดในประเทศไทย จังหวัดสงขลา โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2568 เพื่อนำไปพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงด่านศุลกากรสะเดา จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย ส่วนที่ 2 ระยะทาง 300 เมตร งบประมาณก่อสร้าง 28 ล้านบาท เพื่อเชื่อมต่อด้านทั้งสองเข้าด้วยกัน 2. โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4 กับทางหลวงสายพรุเตียว-ด่านสะเดา แห่งที่ 2 ระยะทาง 1.15 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 70 ล้านบาท เพื่อให้การคมนาคมในพื้นที่ด่านสะเดานั้นครบวงจร อีกทั้ง ที่นี่เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมสงขลา-สะเดา เมื่อเปิดจุดผ่านแดนใหม่ รถสินค้าที่จะเข้า-ออก ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางที่แยกพรุเตียว ซึ่งใช้ระยะทางเพิ่มขึ้นกว่า 12 กิโลเมตร หากถนนเส้นนี้ดำเนินการแล้วเสร็จก็จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนอีกทางหนึ่งด้วย
“ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่สร้างเสร็จในปี 2562 แต่ยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้เนื่องด้วยยังไม่มีเส้นทางเข้า-ออก ทางไทยจึงผลักดันให้เกิดการก่อสร้างถนนเพื่อรอการเชื่อมต่อ และจากการประชุมร่วมกันที่ด่านศุลกากรสะเดา เมื่อปลายปี 2566 ได้บรรลุความตกลงร่วมกันเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทางเชื่อมให้แล้วเสร็จ ปัจจุบันทางมาเลเซียได้รับงบประมาณก่อสร้างตั้งแต่ช่วงต้นปี และได้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีกำหนดแล้วเสร็จตามแผนในเดือนตุลาคม 2568” ดังนั้น หากฝั่งไทยได้รับการจัดสรรงบประมาณทันภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก็จะสามารถสรรหาผู้รับจ้างและดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งทันกับช่วงเวลาที่ฝ่ายมาเลเซียจะส่งมอบพื้นที่ให้ทีมช่างไทยเข้าไปก่อสร้างถนนคอนกรีตเชื่อมต่อกับฝั่งมาเลเซียตามที่ได้ตกลงร่วมกัน และฝั่งไทยก็จะสามารถก่อสร้างได้เสร็จตามแผนที่กำหนดได้ทันพร้อมกันกับทางมาเลเซียในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จังหวัดสงขลา โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2568 จำนวน 98 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงบประมาณที่จะนำเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป.
ภาพ/ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ อบจ.สงขลา
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
August 14, 2025
August 13, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
อบจ.สงขลา ร่วมให้การต้อนรับ “นายกอิ๊งค์” ในโอกาสลงพื้นที่ติดตามการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย และความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่)
วันนี้ (18 ก.พ. 68) นางปิยนันท์ สิงห์ทอง รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด รักษาราชการแทน ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ปฏิบัติหน้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นางสาวภพภร ทองคณารักษ์ ผู้อำนวยการกองผังเมือง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ในโอกาสลงพื้นที่ติดตามการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย และความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย ณ ด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา บริเวณหลักเขตแดนที่ Bp23/9 ในการประชุม ครม.สัญจร พัทลุง-สงขลา โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โอกาสนี้ นางสาวภพภร ทองคณารักษ์ ผู้อำนวยการกองผังเมือง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้นำเสนอข้อมูลถึงความคืบหน้าของโครงการฯ แก่นายกรัฐมนตรีอีกด้วย
ตามที่ รัฐบาลได้ประกาศเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 10 จังหวัด โดยในส่วนของจังหวัดสงขลาครอบคลุมพื้นที่อำเภอสะเดา 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลสำนักขาม ตำบลสำนักแต้ว ตำบลปาดังเบซาร์ ตำบลสะเดา (พื้นที่ 345,187 ไร่) ทั้งนี้ ภาครัฐได้กำหนดพัฒนาพื้นที่รองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา จำนวน 1,069-2-21 ไร่ ในตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประกอบกับด่านศุลกากรสะเดา มีมูลค่าสินค้านำเข้าปี พ.ศ.2567 จำนวน 405,093.71 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุดในประเทศไทย
จังหวัดสงขลา โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2568 เพื่อนำไปพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงด่านศุลกากรสะเดา จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย ส่วนที่ 2 ระยะทาง 300 เมตร งบประมาณก่อสร้าง 28 ล้านบาท เพื่อเชื่อมต่อด้านทั้งสองเข้าด้วยกัน
2. โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4 กับทางหลวงสายพรุเตียว-ด่านสะเดา แห่งที่ 2 ระยะทาง 1.15 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 70 ล้านบาท เพื่อให้การคมนาคมในพื้นที่ด่านสะเดานั้นครบวงจร
อีกทั้ง ที่นี่เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมสงขลา-สะเดา เมื่อเปิดจุดผ่านแดนใหม่ รถสินค้าที่จะเข้า-ออก ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางที่แยกพรุเตียว ซึ่งใช้ระยะทางเพิ่มขึ้นกว่า 12 กิโลเมตร หากถนนเส้นนี้ดำเนินการแล้วเสร็จก็จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนอีกทางหนึ่งด้วย
“ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่สร้างเสร็จในปี 2562 แต่ยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้เนื่องด้วยยังไม่มีเส้นทางเข้า-ออก ทางไทยจึงผลักดันให้เกิดการก่อสร้างถนนเพื่อรอการเชื่อมต่อ และจากการประชุมร่วมกันที่ด่านศุลกากรสะเดา เมื่อปลายปี 2566 ได้บรรลุความตกลงร่วมกันเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทางเชื่อมให้แล้วเสร็จ ปัจจุบันทางมาเลเซียได้รับงบประมาณก่อสร้างตั้งแต่ช่วงต้นปี และได้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีกำหนดแล้วเสร็จตามแผนในเดือนตุลาคม 2568”
ดังนั้น หากฝั่งไทยได้รับการจัดสรรงบประมาณทันภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก็จะสามารถสรรหาผู้รับจ้างและดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งทันกับช่วงเวลาที่ฝ่ายมาเลเซียจะส่งมอบพื้นที่ให้ทีมช่างไทยเข้าไปก่อสร้างถนนคอนกรีตเชื่อมต่อกับฝั่งมาเลเซียตามที่ได้ตกลงร่วมกัน และฝั่งไทยก็จะสามารถก่อสร้างได้เสร็จตามแผนที่กำหนดได้ทันพร้อมกันกับทางมาเลเซียในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จังหวัดสงขลา โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2568 จำนวน 98 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงบประมาณที่จะนำเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป.
ภาพ/ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ อบจ.สงขลา
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอมจัดโครงการเพิ่มประชากรสัตว์น้ำจืดกว่า 500,000 ตัว พร้อมพัฒนาแหล่งน้ำผุด มุ่งสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนและสิ่งแวดล้อม
August 14, 2025
ร่วมเปิดประสบการณ์ “ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์”
“สงขลา เมืองป้อมปราการ สู่มรดกโลก”
August 14, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่เปิดโครงการ AOT พี่อาสา กิจกรรม “First Aid ปลอดภัยเรื่องใกล้ตัว” ...
August 13, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่มและพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม ...
August 13, 2025