สุราษฎร์ธานี 28 พฤศจิกายน 2567 – บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “โคคา-โคล่า” ใน 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดโรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แสดงศักยภาพผู้นำตลาดเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้ พร้อมเปิดสายการผลิตขวดแก้วใหม่ที่ทันสมัยและผสานนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐานระดับโลกของ “โคคา-โคล่า” ตอกย้ำพันธกิจที่มุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจเคียงคู่การพัฒนาสังคมของภาคใต้อย่างยั่งยืนตลอด 55 ปี
จุดเริ่มต้นของการส่งมอบความสดชื่นให้กับภาคใต้ของหาดทิพย์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2512 ด้วยปรัชญาองค์กรที่ยึดมั่นในการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ในปัจจุบัน หาดทิพย์มีโรงงานสองแห่งคือ โรงงานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และโรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพนักงานมากกว่า 2,000 คน ในสาขา 19 แห่งที่ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้
จอห์น เบเนเดตตี รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส – ซัพพลายเชน บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ของภาคใต้มากว่า 55 ปี หาดทิพย์เดินหน้ายกระดับกระบวนการและเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวล้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผสานความยั่งยืนในกระบวนการผลิต เช่น เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ และการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงล่าสุดคือการเปิดสายการผลิตขวดแก้วใหม่เพื่อส่งเสริมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน นี่คือก้าวสำคัญที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาซัพพลายเชนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของภาคใต้”
นันทิวัต ธรรมหทัย รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ – องค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “เพราะภาคใต้คือบ้านของหาดทิพย์ นอกจากการพัฒนาความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ เรายังเดินหน้าพัฒนาชุมชนเพื่อเติบโตเคียงคู่ไปกับพี่น้องชาวใต้ เราเชื่อมั่นว่าความสำเร็จทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินไปพร้อมกัน พนักงานหาดทิพย์ทุกคนจึงภาคภูมิใจที่ได้ส่งมอบความสดชื่นและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชนร่วมกับพี่น้องชาวใต้”
โรงงานผลิตระดับโลกพร้อมสายการผลิตขวดแก้วอันทันสมัย
โรงงานพุนพิน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 315 ไร่ เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2556 เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจและให้บริการผู้บริโภคในภาคใต้ตอนบนได้ดียิ่งขึ้น ภายในโรงงานประกอบด้วยสายการผลิตที่ทันสมัยจำนวน 6 สาย ซึ่งได้มาตรฐานระดับโลกของ “โคคา-โคล่า” และได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล ของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
สำหรับสายการผลิตขวดแก้วใหม่ที่เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน มีกำลังการผลิตขวดแก้วสูงสุดถึง 800 ขวดต่อนาที และผลิตได้ทั้งขวดแก้วชนิดคืนขวดและไม่คืนขวด หลังจากนี้ จะมีการทยอยปรับการผลิตเครื่องดื่มใน บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วจากที่โรงงานหาดใหญ่มายังโรงงานพุนพิน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2567 นอกจากขวดแก้วใหม่แล้ว หาดทิพย์ยังออกแบบลังบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยป้องกันการกระแทก ทำให้ขวดแก้วใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น รวมทั้งใช้ฉลากกระดาษที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติอีกด้วย
สายการผลิตขวดแก้วใหม่นี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของหาดทิพย์ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วชนิดคืนขวดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร และภัตตาคารในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งผู้บริโภคนิยมดื่มเครื่องดื่มภายในร้าน อีกทั้งยังเป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่หาดทิพย์มีศักยภาพในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่ง และยังช่วยเสริมความสามารถในการบริหารต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้นด้วย
การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
โรงงานพุนพินได้รับการออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยกระบวนการที่ลดการใช้และหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำได้ 100% ในการผลิตที่ไม่ใช่ส่วนประกอบของเครื่องดื่ม โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่
ลดการใช้น้ำในการผลิต โดยตั้งเป้าลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต จากปัจจุบัน 1.54 ลิตรต่อหน่วยการผลิต ให้เหลือ 1.39 ลิตรต่อหน่วยการผลิต ภายในปี 2573 ผ่านการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การปรับขนาดหัวฉีดล้างขวดแก้ว การติดตั้งเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบแผ่น และการติดตั้งระบบล้างรถอัตโนมัติที่ใช้น้ำจากการหมุนเวียน โครงการ UF Recover Backwash โดยเปลี่ยนมาใช้ไส้กรอง Ultrafiltration ซึ่งสามารถนำน้ำสะอาดกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้ถึง 44,513 ลูกบาศก์เมตรต่อปีเมื่อเทียบกับระบบเดิมในปี 2565 ช่วยลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้ถึง 9% ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อปรับเสถียร บนพื้นที่ 26 ไร่ ซึ่งใช้พลังงานต่ำ โดยใช้แบคทีเรียที่ไม่ต้องการอากาศ (Anaerobic) ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย สามารถรองรับน้ำทิ้งได้เพียงพอกับกำลังการผลิตของโรงงาน และมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ร่วมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หาดทิพย์ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยมุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน และการใช้พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด โดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารผลิต และแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ จำนวนมากกว่า 9,000 แผง ที่โรงงานพุนพิน ซึ่งสามารถผลิตพลังงานทดแทนมาใช้ภายในโรงงานได้ถึง 19% ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในโรงงานได้ถึง 28% ก่อนสิ้นปี 2568 การใช้พลังงานทดแทน เช่น เพิ่มการใช้รถยกไฟฟ้าในคลังสินค้า จำนวน 29 คัน และใช้รถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิง NGV จำนวน 8 คัน นอกจากนี้ โรงงานพุนพินยังติดตั้งหม้อไอน้ำที่ใช้เชื้อเพลิง LPG รวมถึงระบบหมุนเวียนความร้อนกลับมาใช้ใหม่
หาดทิพย์มีการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมขององค์กรเป็นประจำทุกปี เพื่อพัฒนาการดำเนินงาน และขอการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรและผลิตภัณฑ์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยในปี 2567 บริษัทฯ ได้ขอการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของหน่วยสินค้าจำนวน 83 ประเภท
ส่งเสริมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน
หาดทิพย์มุ่งมั่นใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้บรรจุภัณฑ์หมุนเวียน พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภค โดยมีการดำเนินงาน เช่น
พัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อลดปริมาณและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ โดยตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา หาดทิพย์สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ลงถึง 911 ตัน และลดการใช้อะลูมิเนียมลง 404 ตัน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 4,670 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่วนในปี 2567 บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ลงให้ได้ 800 ตัน โดยล่าสุดสามารถลดน้ำหนักพลาสติกที่ใช้ผลิตฝาขวดน้ำอัดลมจาก 2.45 กรัม เหลือ 1.75 กรัม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการใช้พลาสติกที่ลดลงถึง 28% เพิ่มบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน หาดทิพย์ส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว เพื่อลดการใช้พลาสติก และใช้ฉลากกระดาษที่ย่อยสลายได้ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ “โคคา-โคล่า” ในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก PET รีไซเคิล หรือ rPET 100% (ไม่ร่วมฉลากและฝา) ในผลิตภัณฑ์ “โคคา-โคล่า” สูตรออริจินัล และ “โคคา-โคล่า” สูตรไม่มีน้ำตาล ขนาด 1 ลิตร
สนับสนุนการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาแปรรูปใช้ใหม่ โดยร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดเก็บขวดพลาสติกและกระป๋องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมทั้งร่วมกับภาครัฐ เอกชน และองค์กรต่าง ๆ เช่น ในแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในจังหวัดภูเก็ตและสงขลา และโครงการประกวดชั้นวางสินค้าจากวัสดุรียูส รวมถึงจัดโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานจากฝาขวดพลาสติกร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และกระตุ้นให้ผู้บริโภคร่วมลดและแยกขยะอย่างจริงจัง
จากการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้หาดทิพย์ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน “SET ESG Ratings” ประจำปี 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และเป็น 1 ใน 5 บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับเรตติ้ง AA ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทยจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารล่าสุดของหาดทิพย์ ได้ที่เฟซบุ๊ค “หาดทิพย์” หรือ www.haadthip.com/th/home.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 4, 2024
December 3, 2024
December 1, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
หาดทิพย์ เดินหน้ายกระดับการผลิตเครื่องดื่มที่ยั่งยืน ขยายนวัตกรรมสายการผลิตขวดแก้วที่ทันสมัย ณ โรงงานพุนพิน มุ่งมั่นเติบโตเคียงข้างชาวใต้ตลอด 55 ปี
สุราษฎร์ธานี 28 พฤศจิกายน 2567 – บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “โคคา-โคล่า” ใน 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดโรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แสดงศักยภาพผู้นำตลาดเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้ พร้อมเปิดสายการผลิตขวดแก้วใหม่ที่ทันสมัยและผสานนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐานระดับโลกของ “โคคา-โคล่า” ตอกย้ำพันธกิจที่มุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจเคียงคู่การพัฒนาสังคมของภาคใต้อย่างยั่งยืนตลอด 55 ปี
จุดเริ่มต้นของการส่งมอบความสดชื่นให้กับภาคใต้ของหาดทิพย์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2512 ด้วยปรัชญาองค์กรที่ยึดมั่นในการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ในปัจจุบัน หาดทิพย์มีโรงงานสองแห่งคือ โรงงานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และโรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพนักงานมากกว่า 2,000 คน ในสาขา 19 แห่งที่ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้
จอห์น เบเนเดตตี รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส – ซัพพลายเชน บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ของภาคใต้มากว่า 55 ปี หาดทิพย์เดินหน้ายกระดับกระบวนการและเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวล้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผสานความยั่งยืนในกระบวนการผลิต เช่น เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ และการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงล่าสุดคือการเปิดสายการผลิตขวดแก้วใหม่เพื่อส่งเสริมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน นี่คือก้าวสำคัญที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาซัพพลายเชนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของภาคใต้”
นันทิวัต ธรรมหทัย รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ – องค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “เพราะภาคใต้คือบ้านของหาดทิพย์ นอกจากการพัฒนาความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ เรายังเดินหน้าพัฒนาชุมชนเพื่อเติบโตเคียงคู่ไปกับพี่น้องชาวใต้ เราเชื่อมั่นว่าความสำเร็จทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินไปพร้อมกัน พนักงานหาดทิพย์ทุกคนจึงภาคภูมิใจที่ได้ส่งมอบความสดชื่นและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชนร่วมกับพี่น้องชาวใต้”
โรงงานผลิตระดับโลกพร้อมสายการผลิตขวดแก้วอันทันสมัย
โรงงานพุนพิน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 315 ไร่ เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2556 เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจและให้บริการผู้บริโภคในภาคใต้ตอนบนได้ดียิ่งขึ้น ภายในโรงงานประกอบด้วยสายการผลิตที่ทันสมัยจำนวน 6 สาย ซึ่งได้มาตรฐานระดับโลกของ “โคคา-โคล่า” และได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล ของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
สำหรับสายการผลิตขวดแก้วใหม่ที่เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน มีกำลังการผลิตขวดแก้วสูงสุดถึง 800 ขวดต่อนาที และผลิตได้ทั้งขวดแก้วชนิดคืนขวดและไม่คืนขวด หลังจากนี้ จะมีการทยอยปรับการผลิตเครื่องดื่มใน บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วจากที่โรงงานหาดใหญ่มายังโรงงานพุนพิน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2567 นอกจากขวดแก้วใหม่แล้ว หาดทิพย์ยังออกแบบลังบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยป้องกันการกระแทก ทำให้ขวดแก้วใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น รวมทั้งใช้ฉลากกระดาษที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติอีกด้วย
สายการผลิตขวดแก้วใหม่นี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของหาดทิพย์ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วชนิดคืนขวดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร และภัตตาคารในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งผู้บริโภคนิยมดื่มเครื่องดื่มภายในร้าน อีกทั้งยังเป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่หาดทิพย์มีศักยภาพในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่ง และยังช่วยเสริมความสามารถในการบริหารต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้นด้วย
การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
โรงงานพุนพินได้รับการออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยกระบวนการที่ลดการใช้และหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำได้ 100% ในการผลิตที่ไม่ใช่ส่วนประกอบของเครื่องดื่ม โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่
ลดการใช้น้ำในการผลิต โดยตั้งเป้าลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต จากปัจจุบัน 1.54 ลิตรต่อหน่วยการผลิต ให้เหลือ 1.39 ลิตรต่อหน่วยการผลิต ภายในปี 2573 ผ่านการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การปรับขนาดหัวฉีดล้างขวดแก้ว การติดตั้งเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบแผ่น และการติดตั้งระบบล้างรถอัตโนมัติที่ใช้น้ำจากการหมุนเวียน
โครงการ UF Recover Backwash โดยเปลี่ยนมาใช้ไส้กรอง Ultrafiltration ซึ่งสามารถนำน้ำสะอาดกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้ถึง 44,513 ลูกบาศก์เมตรต่อปีเมื่อเทียบกับระบบเดิมในปี 2565 ช่วยลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้ถึง 9%
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อปรับเสถียร บนพื้นที่ 26 ไร่ ซึ่งใช้พลังงานต่ำ โดยใช้แบคทีเรียที่ไม่ต้องการอากาศ (Anaerobic) ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย สามารถรองรับน้ำทิ้งได้เพียงพอกับกำลังการผลิตของโรงงาน และมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ร่วมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หาดทิพย์ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยมุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน และการใช้พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด โดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารผลิต และแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ จำนวนมากกว่า 9,000 แผง ที่โรงงานพุนพิน ซึ่งสามารถผลิตพลังงานทดแทนมาใช้ภายในโรงงานได้ถึง 19% ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในโรงงานได้ถึง 28% ก่อนสิ้นปี 2568
การใช้พลังงานทดแทน เช่น เพิ่มการใช้รถยกไฟฟ้าในคลังสินค้า จำนวน 29 คัน และใช้รถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิง NGV จำนวน 8 คัน นอกจากนี้ โรงงานพุนพินยังติดตั้งหม้อไอน้ำที่ใช้เชื้อเพลิง LPG รวมถึงระบบหมุนเวียนความร้อนกลับมาใช้ใหม่
หาดทิพย์มีการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมขององค์กรเป็นประจำทุกปี เพื่อพัฒนาการดำเนินงาน และขอการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรและผลิตภัณฑ์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยในปี 2567 บริษัทฯ ได้ขอการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของหน่วยสินค้าจำนวน 83 ประเภท
ส่งเสริมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน
หาดทิพย์มุ่งมั่นใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้บรรจุภัณฑ์หมุนเวียน พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภค โดยมีการดำเนินงาน เช่น
พัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อลดปริมาณและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ โดยตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา หาดทิพย์สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ลงถึง 911 ตัน และลดการใช้อะลูมิเนียมลง 404 ตัน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 4,670 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่วนในปี 2567 บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ลงให้ได้ 800 ตัน โดยล่าสุดสามารถลดน้ำหนักพลาสติกที่ใช้ผลิตฝาขวดน้ำอัดลมจาก 2.45 กรัม เหลือ 1.75 กรัม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการใช้พลาสติกที่ลดลงถึง 28%
เพิ่มบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน หาดทิพย์ส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว เพื่อลดการใช้พลาสติก และใช้ฉลากกระดาษที่ย่อยสลายได้ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ “โคคา-โคล่า” ในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก PET รีไซเคิล หรือ rPET 100% (ไม่ร่วมฉลากและฝา) ในผลิตภัณฑ์ “โคคา-โคล่า” สูตรออริจินัล และ “โคคา-โคล่า” สูตรไม่มีน้ำตาล ขนาด 1 ลิตร
สนับสนุนการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาแปรรูปใช้ใหม่ โดยร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดเก็บขวดพลาสติกและกระป๋องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมทั้งร่วมกับภาครัฐ เอกชน และองค์กรต่าง ๆ เช่น ในแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในจังหวัดภูเก็ตและสงขลา และโครงการประกวดชั้นวางสินค้าจากวัสดุรียูส รวมถึงจัดโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานจากฝาขวดพลาสติกร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และกระตุ้นให้ผู้บริโภคร่วมลดและแยกขยะอย่างจริงจัง
จากการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้หาดทิพย์ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน “SET ESG Ratings” ประจำปี 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และเป็น 1 ใน 5 บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับเรตติ้ง AA ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทยจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารล่าสุดของหาดทิพย์ ได้ที่เฟซบุ๊ค “หาดทิพย์” หรือ www.haadthip.com/th/home.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
OR เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ มอบความช่วยเหลือรวมกว่า 1.25 ล้านบาท
December 4, 2024
อำเภอขนอมเข้าตรวจสอบกรณีมีข้อพิพาทในที่ดิน ปัญหาก่อกำแพงบ้านเหลื่อมล้ำ
December 3, 2024
มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือ “ม.ครุศาสตร์ไห่หนาน” นำ นศ. “ค.บ.ภาษาจีน” ...
December 3, 2024
“รมช.เดชอิศม์” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอำเภอเทพา-จะนะ มอบยาสนับสนุนเบื้องต้นและหาแนวทางช่วยเหลือระยะยาว เยี่ยมนักเรียนที่ติดน้ำท่วมกลับบ้านไม่ได้
December 1, 2024