ตามที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการแข่งรถในทาง การขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามมาตรการและนโยบายการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง ให้มีประสิทธิภาพ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยไม่มุ่งเน้นเฉพาะการจับกุมเท่านั้น ยังเน้นการป้องกันเหตุและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเด็กแว้น หรือเด็กที่ยังมีทัศนคติ หรือมีค่านิยมที่ผิด ๆ ให้เลิกพฤติกรรมขับขี่แข่งรถ จับกลุ่มแว้น ขับขี่กวนเมือง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สังคมรังเกียจ ให้กลับกลายมาเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของสังคมและประเทศชาติ ดังนั้น เพื่อให้เกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีหนังสือที่ ๐๐๐๗.๒๒/๓๔๗๕ ลงวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ แจ้งให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติและระดมกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ในห้วง ๑๑ – ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ โดยให้รองผู้บัญชาการ และรองผู้บังคับการ ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง กำกับ ดูแล และควบคุมการปฏิบัติด้วยตนเอง ในส่วนของตำรวจภูธรภาค ๙ ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค ๙ ทั้ง ๗ จังหวัด ดำเนินการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องในห้วง ๑๑ – ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ สรุปผลการปฏิบัติได้ ดังนี้ o ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถโดยไม่คำนึงความปลอดภัย ๗๙๒ ราย o ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บิดามารดา หรือผู้ปกครองของเด็กหรือเยาวชนที่กระทำผิด ตามความในข้อ ๒ ขอคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ ๒๒/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๒ ก.ค.๕๘ จำนวน ๕๔ ราย o ตรวจค้น และประชาสัมพันธ์ กับร้านขายอุปกรณ์หรือดัดแปลงสภาพรถ ๒,๖๔๑ ราย o ตรวจพบท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน ๓๒ ราย o ตรวจยึดรถยนต์ ๒๑ คัน รถจักรยานยนต์ 1,๔๕๕ คัน o จัดทำประวัติผู้กระทำความผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทาง ๙๒๔ ราย o เปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้และใช้รถนั้น ๕๙๐ ราย o ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร ๑๒๖ ราย o ขับรถประมาทหรือน่าหวาดเสียว ๘๒ ราย o ขับรถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัย ๙๘ ราย o ขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ๑,๗๔๙ ราย o ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถของตน ๕๗ ราย o ใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน ๖๑๕ ราย o ใช้รถที่ยังมิได้จดทะเบียน ๓๑ ราย สรุปมีผลการปฏิบัติ รวมทั้งสิ้น ๓,๓๔๘ ราย ขอเรียนว่าตำรวจภูธรภาค ๙ มีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มวัยรุ่น บิดามารดา ผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่น ร้านดัดแปลงสภาพรถ ตลอดจนพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน ตลอดจนไม่สนับสนุนให้มีการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นการสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงขอย้ำเตือนว่าผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางจะถูกดำเนินคดีทั้งแอดมินเพจ ผู้แข่งขัน ไปจนถึงผู้สนับสนุน หรือ กองเชียร์ และหากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ก็จะเชิญผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บนทุกราย หากพบว่ามีการกระทำความผิดซ้ำอีกจะพิจารณาดำเนินคดีกับบิดามารดา หรือผู้ปกครอง ทั้งนี้ หากพบเบาะแส สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือ สามารถส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีเงินรางวัล 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ตำรวจภูธรภาค ๙ แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดที่เกี่ยวข้อง ในห้วง ๑๑ – ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ตามที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการแข่งรถในทาง การขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามมาตรการและนโยบายการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง ให้มีประสิทธิภาพ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยไม่มุ่งเน้นเฉพาะการจับกุมเท่านั้น ยังเน้นการป้องกันเหตุและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเด็กแว้น หรือเด็กที่ยังมีทัศนคติ หรือมีค่านิยมที่ผิด ๆ ให้เลิกพฤติกรรมขับขี่แข่งรถ จับกลุ่มแว้น ขับขี่กวนเมือง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สังคมรังเกียจ ให้กลับกลายมาเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของสังคมและประเทศชาติ
ดังนั้น เพื่อให้เกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีหนังสือที่ ๐๐๐๗.๒๒/๓๔๗๕ ลงวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ แจ้งให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติและระดมกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ในห้วง ๑๑ – ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ โดยให้รองผู้บัญชาการ และรองผู้บังคับการ ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง กำกับ ดูแล และควบคุมการปฏิบัติด้วยตนเอง
ในส่วนของตำรวจภูธรภาค ๙ ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค ๙ ทั้ง ๗ จังหวัด ดำเนินการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องในห้วง ๑๑ – ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ สรุปผลการปฏิบัติได้ ดังนี้
o ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถโดยไม่คำนึงความปลอดภัย ๗๙๒ ราย
o ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บิดามารดา หรือผู้ปกครองของเด็กหรือเยาวชนที่กระทำผิด ตามความในข้อ ๒ ขอคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ ๒๒/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๒ ก.ค.๕๘ จำนวน ๕๔ ราย
o ตรวจค้น และประชาสัมพันธ์ กับร้านขายอุปกรณ์หรือดัดแปลงสภาพรถ ๒,๖๔๑ ราย
o ตรวจพบท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน ๓๒ ราย
o ตรวจยึดรถยนต์ ๒๑ คัน รถจักรยานยนต์ 1,๔๕๕ คัน
o จัดทำประวัติผู้กระทำความผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทาง ๙๒๔ ราย
o เปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้และใช้รถนั้น ๕๙๐ ราย
o ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร ๑๒๖ ราย
o ขับรถประมาทหรือน่าหวาดเสียว ๘๒ ราย
o ขับรถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัย ๙๘ ราย
o ขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ๑,๗๔๙ ราย
o ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถของตน ๕๗ ราย
o ใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน ๖๑๕ ราย
o ใช้รถที่ยังมิได้จดทะเบียน ๓๑ ราย
สรุปมีผลการปฏิบัติ รวมทั้งสิ้น ๓,๓๔๘ ราย
ขอเรียนว่าตำรวจภูธรภาค ๙ มีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มวัยรุ่น บิดามารดา ผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่น ร้านดัดแปลงสภาพรถ ตลอดจนพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน ตลอดจนไม่สนับสนุนให้มีการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นการสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงขอย้ำเตือนว่าผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางจะถูกดำเนินคดีทั้งแอดมินเพจ ผู้แข่งขัน ไปจนถึงผู้สนับสนุน หรือ กองเชียร์ และหากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ก็จะเชิญผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บนทุกราย หากพบว่ามีการกระทำความผิดซ้ำอีกจะพิจารณาดำเนินคดีกับบิดามารดา หรือผู้ปกครอง ทั้งนี้ หากพบเบาะแส สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือ สามารถส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีเงินรางวัล 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024