“ผศ.ฐิติมาพร ศรีรักษ์” สาขาวิชาคหกรรมฯ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มรภ.สงขลา จดทะเบียนอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์ข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกง ชูรสชาติเอกลักษณ์อาหารภาคใต้ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ผลิตได้ทั้งระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่
ผศ.ฐิติมาพร ศรีรักษ์ ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ผลงานวิจัย “ข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกง” ที่ตนจัดทำขึ้นได้รับการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งวัตถุประสงค์ของการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบที่มีกลิ่นและรสชาติของข้าวยำเครื่องแกงของภาคใต้ ถือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารว่างไทย และช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้อีกทางหนึ่ง
ผศ.ฐิติมาพร กล่าวว่า การผลิตข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกงที่มีส่วนผสม (ingredients) ประกอบด้วย วัตถุดิบสำหรับการผลิตข้าวเกรียบ ได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ เนื้ออกไก่บด เกลือป่น กระเทียมบด พริกไทยป่น น้ำร้อน และ น้ำมันปาล์ม วัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องข้าวยำเครื่องแกงข้าวยำบดละเอียด ได้แก่ กุ้งแห้งป่น ตะไคร้ ขมิ้น หอมแดง พริกไทยป่น พริกขี้หนูแห้งป่น เกลือป่น กะปิ และวัตถุดิบสำหรับผักข้าวยำซอยอบแห้ง ได้แก่ ใบชะพลู ใบมะกรูด ใบพาโหม ใบขมิ้น ใบบัวบก และใบยอ ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตโดยการนำวัตถุดิบทั้ง 3 ส่วนมาปั่นผสมให้ละเอียด นวดจนเข้ากัน ขึ้นรูปเป็นแท่งทรงกระบอก นึ่งสุก แช่เย็นให้คงตัว นำมาหั่นแผ่นบาง อบลมร้อนหรือตากแดดจนแห้งสนิท และทอดในน้ำมัน จนฟูกรอบ โดยมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนมาก สามารถผลิตได้ทั้งในระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่
สำหรับกรรมวิธีการผลิตข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกง มีขั้นตอนดังนี้ 1. นำเนื้ออกไก่ กระเทียมบด เกลือป่น และพริกไทยป่น ปั่นผสมให้เข้ากัน 2. นำแป้งมันสำปะหลัง และแป้งสาลีเอนกประสงค์ ปั่นผสมกับส่วนผสมในข้อ 1 ค่อย ๆ ใส่น้ำร้อน 3. นำเครื่องแกงข้าวยำบดละเอียด และผักข้าวยำซอยอบแห้ง นวดผสมกับส่วนผสมในข้อ 2 4. แบ่งส่วนผสมก้อนละ 100 กรัม ขึ้นรูปทรงกระบอกขนาดยาว 12 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร นึ่งด้วยไฟปานกลางนาน 30 นาที 5. นำไปแช่เย็นอุณหภูมิ 5-7 องศาเซลเซียส นาน 10-12 ชั่วโมง 6. หั่นแผ่นข้าวเกรียบขนาด 1-2 มิลลิเมตร ตากแดดหรืออบลมร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส นาน 4-5 ชั่วโมง 7. ทอดในน้ำมันอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 วินาที จะได้ข้าวเกรียบที่มีรสชาติของข้าวยำเครื่องแกง ที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของอาหารภาคใต้ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนั้น เมื่อไม่นานมานี้คณาจารย์ประจำหลักสูตรหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ ได้รับการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่ รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ จากผลงานวิจัยข้าวเกรียบถั่วขาว ผศ.พรชัย พุทธรักษ์ จากผลงานวิจัยขนมหม้อแกงจากเมล็ดจำปาดะ และ ผศ.วิภาวรรณ วงศ์สุดาลักษณ์ จากผลงานวิจัยขนมทองพับจำปาดะ.
ภาพ/ข่าว มรภ.สงขลา
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
April 19, 2024
April 18, 2024
April 17, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
“ผศ.ฐิติมาพร ศรีรักษ์” อาจารย์สาขาคหกรรม มรภ.สงขลา จดอนุสิทธิบัตรข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกง
“ผศ.ฐิติมาพร ศรีรักษ์” สาขาวิชาคหกรรมฯ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มรภ.สงขลา จดทะเบียนอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์ข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกง ชูรสชาติเอกลักษณ์อาหารภาคใต้ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ผลิตได้ทั้งระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่
ผศ.ฐิติมาพร ศรีรักษ์ ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ผลงานวิจัย “ข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกง” ที่ตนจัดทำขึ้นได้รับการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งวัตถุประสงค์ของการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบที่มีกลิ่นและรสชาติของข้าวยำเครื่องแกงของภาคใต้ ถือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารว่างไทย และช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้อีกทางหนึ่ง
ผศ.ฐิติมาพร กล่าวว่า การผลิตข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกงที่มีส่วนผสม (ingredients) ประกอบด้วย วัตถุดิบสำหรับการผลิตข้าวเกรียบ ได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ เนื้ออกไก่บด เกลือป่น กระเทียมบด พริกไทยป่น น้ำร้อน และ น้ำมันปาล์ม วัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องข้าวยำเครื่องแกงข้าวยำบดละเอียด ได้แก่ กุ้งแห้งป่น ตะไคร้ ขมิ้น หอมแดง พริกไทยป่น พริกขี้หนูแห้งป่น เกลือป่น กะปิ และวัตถุดิบสำหรับผักข้าวยำซอยอบแห้ง ได้แก่ ใบชะพลู ใบมะกรูด ใบพาโหม ใบขมิ้น ใบบัวบก และใบยอ ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตโดยการนำวัตถุดิบทั้ง 3 ส่วนมาปั่นผสมให้ละเอียด นวดจนเข้ากัน ขึ้นรูปเป็นแท่งทรงกระบอก นึ่งสุก แช่เย็นให้คงตัว นำมาหั่นแผ่นบาง อบลมร้อนหรือตากแดดจนแห้งสนิท และทอดในน้ำมัน จนฟูกรอบ โดยมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนมาก สามารถผลิตได้ทั้งในระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่
สำหรับกรรมวิธีการผลิตข้าวเกรียบรสข้าวยำเครื่องแกง มีขั้นตอนดังนี้ 1. นำเนื้ออกไก่ กระเทียมบด เกลือป่น และพริกไทยป่น ปั่นผสมให้เข้ากัน 2. นำแป้งมันสำปะหลัง และแป้งสาลีเอนกประสงค์ ปั่นผสมกับส่วนผสมในข้อ 1 ค่อย ๆ ใส่น้ำร้อน 3. นำเครื่องแกงข้าวยำบดละเอียด และผักข้าวยำซอยอบแห้ง นวดผสมกับส่วนผสมในข้อ 2 4. แบ่งส่วนผสมก้อนละ 100 กรัม ขึ้นรูปทรงกระบอกขนาดยาว 12 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร นึ่งด้วยไฟปานกลางนาน 30 นาที 5. นำไปแช่เย็นอุณหภูมิ 5-7 องศาเซลเซียส นาน 10-12 ชั่วโมง 6. หั่นแผ่นข้าวเกรียบขนาด 1-2 มิลลิเมตร ตากแดดหรืออบลมร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส นาน 4-5 ชั่วโมง 7. ทอดในน้ำมันอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 วินาที จะได้ข้าวเกรียบที่มีรสชาติของข้าวยำเครื่องแกง ที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของอาหารภาคใต้ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนั้น เมื่อไม่นานมานี้คณาจารย์ประจำหลักสูตรหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ ได้รับการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่ รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ จากผลงานวิจัยข้าวเกรียบถั่วขาว ผศ.พรชัย พุทธรักษ์ จากผลงานวิจัยขนมหม้อแกงจากเมล็ดจำปาดะ และ ผศ.วิภาวรรณ วงศ์สุดาลักษณ์ จากผลงานวิจัยขนมทองพับจำปาดะ.
ภาพ/ข่าว มรภ.สงขลา
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร่วมสืบสานประเพณีอันยิ่งใหญ่ “พีธีลอดซุ้มประตูป่า” วัดห้วยหลาด ปีที่ 69
April 19, 2024
เปลี่ยนขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า
April 19, 2024
บฟข.ร่วมกับ สถานีตำรวจน้ำ๔ กองกำกับการ๖ กองบังคับการตำรวจน้ำ อ.ขนอม จ.นครศรีฯ จัดโครงการจิตอาสา ...
April 18, 2024
อบจ.สงขลา เดินหน้า “สงขลาเมืองเกษตรอินทรีย์” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงทางด้านทรัพยากรชุมชน อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก
April 17, 2024