ตามที่พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาได้มีหนังสือตอบข้อสอบถามไปยังนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเกี่ยวกับการดำเนินการสอบสวนและเห็นควรสั่งฟ้องบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัดโดยนายอิทธิพล ดวงเดือน ในฐานะนิติบุคคลผู้ต้องหาที่ 1 นายอิทธิพล ดวงเดือน ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2 และนางสาวศศิธร ตั้งตรงคิด กรรมการบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยกีดกันมีให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานรัฐหรือโดยการเอาเปรียบหน่วยงานรัฐอันมีใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๒๖๔ และ ๒๖๘ และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา ๔, ๑๔(๒) และมาตรา ๑๔ วรรคสาม
โดยทางผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผู้กำกับ สภ.เมืองสงขลา เพื่อติดต่อสอบถามเพิ่มเติมจึงได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกไปยังผู้ต้องหาทั้ง 2 รายข้างต้นแล้ว โดยให้มารายงานตัวเพื่อส่งฟ้อง ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาแต่ผู้ต้องหามิได้มาตามหมายเรียกมีเพียงหนังสือแจ้งพร้อมใบรับรองแพทย์เพื่อขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากมีอาการป่วย ซึ่งโดยกระบวนการต่อจากนี้จะมีการออกหมายเรียกอีก 2 ครั้งหากผู้ต้องหามิได้มาพบพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายจับต่อไป
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีและโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 ได้ให้ความเห็นว่า ทราบว่าจะมีการส่งสำนวนเรื่องเกี่ยวกับการปลอมเอกสารเกี่ยวการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งสำนวนนั้นจะไม่เกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตภาค 9 เพราะว่าทางเรารับสำนวนจากที่ ป.ป.ช.ไต่สวนมาและส่งสำนวนมาให้อัยการพิจารณา ส่วนเรื่องที่กำลังจะส่งอีกสำนวนเป็นการกล่าวหาเกี่ยวกับกระบวนการปลอมเอกสาร ซึ่งไม่ได้อยู่ในสำนวนทุจริต แต่ในส่วนของอัยการปราบปรามทุจริตฯ ภาค 9 สำนวนทำเสร็จแล้วและอธิบดีฯ ได้ลงนามและกราบเรียนไปยังอัยการสูงสูดที่กรุงเทพฯแล้ว เป็นอำนาจของท่านอัยการสูงสุดสั่งการ
เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างสำนวนที่มีการฮั๊วประมูลและปลอมเอกสารกับคดีของนายนิพนธ์ บุญญามณีที่ถูก ปปช.ชี้มูลความผิดไว้แล้วนั้น นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ในตอนไต่สวนที่ ปปช.ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาสามารถที่จะชี้แจงและส่งให้ ปปช.ได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะแยกสำนวนได้ และเป็นคนละการกระทำกัน
นายโกศลวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ถูกกล่าวหาในสำนวน ปปช.ก็สามารถหยิบยกเรื่องการปลอมเอกสารและฮั๊วประมูลให้ ปปช.ขึ้นพิจารณาในชั้นไต่สวนตั้งแต่ต้นได้อยู่แล้วหรือจะนำมาใช้ต่อสู้ในชั้นศาลหากสำนวนนี้มีการนำเข้าสู่ศาลสามารถจะนำไปต่อสู้ต่อได้
ซึ่งในกรณีนี้มีความเชื่อมโยงกับสำนวนที่ยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. ที่มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา (ปัจจุบันเป็น รมช.มหาดไทย) กรณีละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ มิได้อนุมัติงบประมาณเบิกจ่ายเงินให้กับบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,850,000 บาท ทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2556 ซึ่งขณะนี้สำนวนได้มีมีการพิจารณาของสำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 และส่งความเห็นไปยังสำนักอัยการสูงสุดเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามหาก ป.ป.ช. มีการหยิบยกสำนวนในคดีร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา ของบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัดโดยนายอิทธิพล ดวงเดือน และ นางสาวศศิธร ตั้งตรงคิด กรรมการบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด มาพิจารณาหรือแม้ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ได้มีการโต้แย้งและหยิบยกเรื่องนี้มาใช้ในการต่อสู่ในชั้นศาล ก็มีโอกาสที่จะส่อแววว่าคดีนี้อาจจะพลิกก็เป็นได้.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
“ส่อแววคดีพลิก” ตร.เมืองสงขลา สรุปสำนวนส่งฟ้องบ.พลวิศว์ ปลอมเอกสารประมูลรถซ่อมบำรุง อบจ. ฯ
ตามที่พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาได้มีหนังสือตอบข้อสอบถามไปยังนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเกี่ยวกับการดำเนินการสอบสวนและเห็นควรสั่งฟ้องบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัดโดยนายอิทธิพล ดวงเดือน ในฐานะนิติบุคคลผู้ต้องหาที่ 1 นายอิทธิพล ดวงเดือน ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2 และนางสาวศศิธร ตั้งตรงคิด กรรมการบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยกีดกันมีให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานรัฐหรือโดยการเอาเปรียบหน่วยงานรัฐอันมีใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๒๖๔ และ ๒๖๘ และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา ๔, ๑๔(๒) และมาตรา ๑๔ วรรคสาม
โดยทางผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผู้กำกับ สภ.เมืองสงขลา เพื่อติดต่อสอบถามเพิ่มเติมจึงได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกไปยังผู้ต้องหาทั้ง 2 รายข้างต้นแล้ว โดยให้มารายงานตัวเพื่อส่งฟ้อง ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาแต่ผู้ต้องหามิได้มาตามหมายเรียกมีเพียงหนังสือแจ้งพร้อมใบรับรองแพทย์เพื่อขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากมีอาการป่วย ซึ่งโดยกระบวนการต่อจากนี้จะมีการออกหมายเรียกอีก 2 ครั้งหากผู้ต้องหามิได้มาพบพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายจับต่อไป
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีและโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 ได้ให้ความเห็นว่า ทราบว่าจะมีการส่งสำนวนเรื่องเกี่ยวกับการปลอมเอกสารเกี่ยวการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งสำนวนนั้นจะไม่เกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตภาค 9 เพราะว่าทางเรารับสำนวนจากที่ ป.ป.ช.ไต่สวนมาและส่งสำนวนมาให้อัยการพิจารณา ส่วนเรื่องที่กำลังจะส่งอีกสำนวนเป็นการกล่าวหาเกี่ยวกับกระบวนการปลอมเอกสาร ซึ่งไม่ได้อยู่ในสำนวนทุจริต แต่ในส่วนของอัยการปราบปรามทุจริตฯ ภาค 9 สำนวนทำเสร็จแล้วและอธิบดีฯ ได้ลงนามและกราบเรียนไปยังอัยการสูงสูดที่กรุงเทพฯแล้ว เป็นอำนาจของท่านอัยการสูงสุดสั่งการ
เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างสำนวนที่มีการฮั๊วประมูลและปลอมเอกสารกับคดีของนายนิพนธ์ บุญญามณีที่ถูก ปปช.ชี้มูลความผิดไว้แล้วนั้น นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ในตอนไต่สวนที่ ปปช.ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาสามารถที่จะชี้แจงและส่งให้ ปปช.ได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะแยกสำนวนได้ และเป็นคนละการกระทำกัน
นายโกศลวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ถูกกล่าวหาในสำนวน ปปช.ก็สามารถหยิบยกเรื่องการปลอมเอกสารและฮั๊วประมูลให้ ปปช.ขึ้นพิจารณาในชั้นไต่สวนตั้งแต่ต้นได้อยู่แล้วหรือจะนำมาใช้ต่อสู้ในชั้นศาลหากสำนวนนี้มีการนำเข้าสู่ศาลสามารถจะนำไปต่อสู้ต่อได้
ซึ่งในกรณีนี้มีความเชื่อมโยงกับสำนวนที่ยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. ที่มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา (ปัจจุบันเป็น รมช.มหาดไทย) กรณีละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ มิได้อนุมัติงบประมาณเบิกจ่ายเงินให้กับบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,850,000 บาท ทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2556 ซึ่งขณะนี้สำนวนได้มีมีการพิจารณาของสำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 และส่งความเห็นไปยังสำนักอัยการสูงสุดเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามหาก ป.ป.ช. มีการหยิบยกสำนวนในคดีร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา ของบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัดโดยนายอิทธิพล ดวงเดือน และ นางสาวศศิธร ตั้งตรงคิด กรรมการบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด มาพิจารณาหรือแม้ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ได้มีการโต้แย้งและหยิบยกเรื่องนี้มาใช้ในการต่อสู่ในชั้นศาล ก็มีโอกาสที่จะส่อแววว่าคดีนี้อาจจะพลิกก็เป็นได้.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025