กฟผ. สรุปผลการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าในช่วงแหล่งก๊าซพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) หยุดจ่ายก๊าซฯ ปี 2563 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงเพียงพอ พร้อมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าภาคใต้
นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงกรณีแหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) หยุดจ่ายก๊าซที่ผ่านมาว่า จากการที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 7 กันยายน 2563 รวมระยะเวลา 10 วัน เพื่อบำรุงรักษาประจำปี ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯ หายไปจากระบบวันละ 440 ล้านลูกบาศก์ฟุต ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 และ 2 กำลังผลิตรวม 1,476 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักของภาคใต้ไม่สามารถเดินเครื่องได้ กฟผ. จึงต้องปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเป็นน้ำมันดีเซลแทนและเดินเครื่องโรงไฟฟ้ากระบี่ด้วยน้ำมันเตา เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันการซ่อมบำรุงรักษาดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนเรียบร้อย และสามารถจ่ายก๊าซธรรมชาติเข้าระบบได้ตามปกติ เมื่อเวลา 07.05 น. ของวันที่ 7 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
สำหรับช่วงเวลาดังกล่าว โรงไฟฟ้าจะนะใช้น้ำมันดีเซลไปประมาณ 9.5 ล้านลิตร และโรงไฟฟ้ากระบี่ใช้น้ำมันเตาไปประมาณ 7.2 ล้านลิตร โดยการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ หรือพีค (Peak) เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.16 น. ของวันที่ 29 สิงหาคม 2563 ที่ความต้องการใช้ไฟฟ้า 2,365 เมกะวัตต์ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ไม่เกิน 2,400 เมกะวัตต์ ซึ่งสภาพระบบไฟฟ้าภาคใต้ในช่วงเวลาดังกล่าวโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีความมั่นคงเพียงพอ และสามารถรักษาคุณภาพไฟฟ้าได้ตามมาตรฐาน ทั้งทางด้านความถี่และแรงดัน ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าภาคใต้แต่อย่างใด
“กฟผ. ขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถบริหารจัดการระบบไฟฟ้า ทั้งทางด้านกำลังผลิต ด้านการส่งจ่ายไฟฟ้า ด้านเชื้อเพลิง และด้านบุคลากร ให้มีความเพียงพอต่อความต้องการ และมีคุณภาพตามมาตรฐาน ที่สำคัญคือ ขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่าและร่วมกันอนุรักษ์พลังงานของประเทศ ทำให้สามารถดำเนินการตามมาตรการรองรับต่าง ๆ ได้ตามแผนที่กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี” รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวทิ้งท้าย.
ภาพ/ข่าว กฟผ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
April 19, 2024
April 18, 2024
April 17, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
กฟผ. ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ร่วมบริหารจัดการระบบไฟฟ้าภาคใต้ให้มีความมั่นคงเพียงพอ ผ่านพ้นช่วงแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หยุดจ่ายก๊าซฯ ประจำปี 2563
กฟผ. สรุปผลการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าในช่วงแหล่งก๊าซพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) หยุดจ่ายก๊าซฯ ปี 2563 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงเพียงพอ พร้อมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าภาคใต้
นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงกรณีแหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) หยุดจ่ายก๊าซที่ผ่านมาว่า จากการที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 7 กันยายน 2563 รวมระยะเวลา 10 วัน เพื่อบำรุงรักษาประจำปี ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯ หายไปจากระบบวันละ 440 ล้านลูกบาศก์ฟุต ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 และ 2 กำลังผลิตรวม 1,476 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักของภาคใต้ไม่สามารถเดินเครื่องได้ กฟผ. จึงต้องปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเป็นน้ำมันดีเซลแทนและเดินเครื่องโรงไฟฟ้ากระบี่ด้วยน้ำมันเตา เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันการซ่อมบำรุงรักษาดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนเรียบร้อย และสามารถจ่ายก๊าซธรรมชาติเข้าระบบได้ตามปกติ เมื่อเวลา 07.05 น. ของวันที่ 7 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
สำหรับช่วงเวลาดังกล่าว โรงไฟฟ้าจะนะใช้น้ำมันดีเซลไปประมาณ 9.5 ล้านลิตร และโรงไฟฟ้ากระบี่ใช้น้ำมันเตาไปประมาณ 7.2 ล้านลิตร โดยการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ หรือพีค (Peak) เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.16 น. ของวันที่ 29 สิงหาคม 2563 ที่ความต้องการใช้ไฟฟ้า 2,365 เมกะวัตต์ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ไม่เกิน 2,400 เมกะวัตต์ ซึ่งสภาพระบบไฟฟ้าภาคใต้ในช่วงเวลาดังกล่าวโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีความมั่นคงเพียงพอ และสามารถรักษาคุณภาพไฟฟ้าได้ตามมาตรฐาน ทั้งทางด้านความถี่และแรงดัน ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าภาคใต้แต่อย่างใด
“กฟผ. ขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถบริหารจัดการระบบไฟฟ้า ทั้งทางด้านกำลังผลิต ด้านการส่งจ่ายไฟฟ้า ด้านเชื้อเพลิง และด้านบุคลากร ให้มีความเพียงพอต่อความต้องการ และมีคุณภาพตามมาตรฐาน ที่สำคัญคือ ขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่าและร่วมกันอนุรักษ์พลังงานของประเทศ ทำให้สามารถดำเนินการตามมาตรการรองรับต่าง ๆ ได้ตามแผนที่กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี” รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวทิ้งท้าย.
ภาพ/ข่าว กฟผ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร่วมสืบสานประเพณีอันยิ่งใหญ่ “พีธีลอดซุ้มประตูป่า” วัดห้วยหลาด ปีที่ 69
April 19, 2024
เปลี่ยนขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า
April 19, 2024
บฟข.ร่วมกับ สถานีตำรวจน้ำ๔ กองกำกับการ๖ กองบังคับการตำรวจน้ำ อ.ขนอม จ.นครศรีฯ จัดโครงการจิตอาสา ...
April 18, 2024
อบจ.สงขลา เดินหน้า “สงขลาเมืองเกษตรอินทรีย์” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงทางด้านทรัพยากรชุมชน อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก
April 17, 2024