การศึกษาเป็นอีกมิติหนึ่งของการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีความแตกต่างด้านศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมักจะหยิบยกมาเป็นประเด็นในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์บ่อยครั้ง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้ประกาศให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ให้มีการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการและอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนหน้า ทำหน้าที่ประสานงานขับเคลื่อนและบูรณาการให้การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่กำหนด
แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการทำงานร่วมกัน แบบบูรณาการของ 6 หน่วยงานประกอบด้วย สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ซึ่งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) นับว่ามีบทบาทที่สำคัญ ในการแก้ปัญหาปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมีหน้าที่กำกับดูแลโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่แปรสภาพมาจากสถานศึกษาที่สอนเฉพาะหลักศาสนาอิสลาม โดยการขึ้นทะเบียนกับกระทรวงศึกษาธิการ และเปิดสอนทั้งวิชาการสามัญตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ควบคู่กับวิชาการศาสนา ซึ่ง ปัจจุบันมีมากกว่า 300 โรง นักเรียนประมาณ 2 แสนคนและบุคลากรทางการศึกษามากกว่าหมื่นคน ปัจจุบัน รัฐบาลส่งเสริมการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอุดหนุนช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนเอกชน ผ่านสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เป็นเงินในลักษณะต่างๆ รวม 8 รายการได้แก่ เงินอุดหนุนรายบุคคล เงินอุดหนุนพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เงินอุดหนุนพัฒนาคุณภาพการศึกษา เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เงินอุดหนุนเรียนฟรี 15 ปี เงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน เงินอุดหนุนโครงการอาหารเสริมนม และอื่นๆ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ นักเรียนที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ยังได้รับโอกาสให้เข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ โดยการสนับสนุนทุนการศึกษาผ่านโครงการต่างๆ ปีละนับพันคน ส่วนนักเรียนที่ประสบปัญหาไร้ผู้ดูแล ครอบครัวยากจน หรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ รัฐบาล จึงได้จัดทำโครงการ “โรงเรียนประชารัฐ” ขึ้น เพื่อรองรับให้นักเรียนเหล่านี้ ได้เข้าเรียนในลักษณะโรงเรียนประจำ กิน นอน และเรียนฟรี ในโรงเรียน ปัจจุบันมีการจัดตั้งกระจายอยู่ทุกอำเภอ รวม 64 โรง
นอกจากการส่งเสริมการศึกษาสายสามัญแล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการกีฬา โดยการสนับสนุนโครงการสานฝันการกีฬาสู่สถานศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีความสามารถและสนใจด้านกีฬาเข้าศึกษาในลักษณะโรงเรียนประจำ ฝึกฝนด้านกีฬาควบคู่กับการเรียนวิชาสามัญ พร้อมทั้งให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องจนถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งรัฐบาลได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม รวมทั้ง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้รับนักเรียนในโครงการดังกล่าวเข้าศึกษาต่อ โดยรัฐบาลสนับสนุนทุนการศึกษา 55,000 บาท/คน/ปี จนจบหลักสูตร ปัจจุบันมีนักเรียนในโครงการนี้รวม 2,519 คน
การพัฒนาและการส่งเสริมด้านการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้มีแต่เฉพาะหน่วยงานด้านการศึกษาเท่านั้น หากแต่ยังมีหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดทำโครงการ “ติวข้น ค้นฝัน” ขึ้น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียน โดยนำครูผู้สอนที่มีความชำนาญในแต่ละสาขาวิชามาสอนเสริม เพิ่มขีดความสามารถในการสอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในสถานศึกษาที่ต้องการ นับเป็นการเติมเต็มการศึกษาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ การประสานงานของศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ทำหน้าที่ประสานงาน บูรณาการ และขับเคลื่อน
ทั้งนี้เพื่อให้การยกระดับคุณภาพการศึกษาชายแดนใต้ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติแต่งตั้งให้ พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานการพัฒนาด้านการศึกษา ติดตามการดำเนินงาน ตามแผนงาน/โครงการต่างๆ ของรัฐบาลเช่น แผนงานจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษา อันเป็นนโยบายใหม่ ที่ต้องการให้มีการคิดค้นการศึกษารูปแบบใหม่ ให้ความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ริเริ่มให้มีการจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษานำร่อง เพื่อใช้เป็นต้นแบบขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และต้องสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่ โดยเป้าหมายที่สำคัญของการขับเคลื่อนคือ “การพัฒนาคน” อันเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป.
ส่วนสร้างการรับรู้ สำนักงาน คปต.ส่วนหน้า
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
March 28, 2024
March 26, 2024
March 25, 2024
March 23, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รายงานพิเศษ ชายแดนใต้ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตอน การขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพการศึกษาชายแดนใต้
การศึกษาเป็นอีกมิติหนึ่งของการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีความแตกต่างด้านศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมักจะหยิบยกมาเป็นประเด็นในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์บ่อยครั้ง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้ประกาศให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ให้มีการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการและอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนหน้า ทำหน้าที่ประสานงานขับเคลื่อนและบูรณาการให้การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่กำหนด
แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการทำงานร่วมกัน แบบบูรณาการของ 6 หน่วยงานประกอบด้วย สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ซึ่งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) นับว่ามีบทบาทที่สำคัญ ในการแก้ปัญหาปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมีหน้าที่กำกับดูแลโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่แปรสภาพมาจากสถานศึกษาที่สอนเฉพาะหลักศาสนาอิสลาม โดยการขึ้นทะเบียนกับกระทรวงศึกษาธิการ และเปิดสอนทั้งวิชาการสามัญตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ควบคู่กับวิชาการศาสนา ซึ่ง ปัจจุบันมีมากกว่า 300 โรง นักเรียนประมาณ 2 แสนคนและบุคลากรทางการศึกษามากกว่าหมื่นคน
ปัจจุบัน รัฐบาลส่งเสริมการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอุดหนุนช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนเอกชน ผ่านสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เป็นเงินในลักษณะต่างๆ รวม 8 รายการได้แก่ เงินอุดหนุนรายบุคคล เงินอุดหนุนพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เงินอุดหนุนพัฒนาคุณภาพการศึกษา เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เงินอุดหนุนเรียนฟรี 15 ปี เงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน เงินอุดหนุนโครงการอาหารเสริมนม และอื่นๆ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ นักเรียนที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ยังได้รับโอกาสให้เข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ โดยการสนับสนุนทุนการศึกษาผ่านโครงการต่างๆ ปีละนับพันคน ส่วนนักเรียนที่ประสบปัญหาไร้ผู้ดูแล ครอบครัวยากจน หรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ รัฐบาล จึงได้จัดทำโครงการ “โรงเรียนประชารัฐ” ขึ้น เพื่อรองรับให้นักเรียนเหล่านี้ ได้เข้าเรียนในลักษณะโรงเรียนประจำ กิน นอน และเรียนฟรี ในโรงเรียน ปัจจุบันมีการจัดตั้งกระจายอยู่ทุกอำเภอ รวม 64 โรง
นอกจากการส่งเสริมการศึกษาสายสามัญแล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการกีฬา โดยการสนับสนุนโครงการสานฝันการกีฬาสู่สถานศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีความสามารถและสนใจด้านกีฬาเข้าศึกษาในลักษณะโรงเรียนประจำ ฝึกฝนด้านกีฬาควบคู่กับการเรียนวิชาสามัญ พร้อมทั้งให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องจนถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งรัฐบาลได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม รวมทั้ง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้รับนักเรียนในโครงการดังกล่าวเข้าศึกษาต่อ โดยรัฐบาลสนับสนุนทุนการศึกษา 55,000 บาท/คน/ปี จนจบหลักสูตร ปัจจุบันมีนักเรียนในโครงการนี้รวม 2,519 คน
การพัฒนาและการส่งเสริมด้านการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้มีแต่เฉพาะหน่วยงานด้านการศึกษาเท่านั้น หากแต่ยังมีหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดทำโครงการ “ติวข้น ค้นฝัน” ขึ้น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียน โดยนำครูผู้สอนที่มีความชำนาญในแต่ละสาขาวิชามาสอนเสริม เพิ่มขีดความสามารถในการสอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในสถานศึกษาที่ต้องการ นับเป็นการเติมเต็มการศึกษาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ การประสานงานของศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ทำหน้าที่ประสานงาน บูรณาการ และขับเคลื่อน
ทั้งนี้เพื่อให้การยกระดับคุณภาพการศึกษาชายแดนใต้ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติแต่งตั้งให้ พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานการพัฒนาด้านการศึกษา ติดตามการดำเนินงาน ตามแผนงาน/โครงการต่างๆ ของรัฐบาลเช่น แผนงานจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษา อันเป็นนโยบายใหม่ ที่ต้องการให้มีการคิดค้นการศึกษารูปแบบใหม่ ให้ความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ริเริ่มให้มีการจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษานำร่อง เพื่อใช้เป็นต้นแบบขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และต้องสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่ โดยเป้าหมายที่สำคัญของการขับเคลื่อนคือ “การพัฒนาคน” อันเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป.
ส่วนสร้างการรับรู้ สำนักงาน คปต.ส่วนหน้า
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงเจเต๋าบ้อเก็งหาดใหญ่จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ตำหนักพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม
March 28, 2024
คณะผู้วิจัย จากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิจัย “มาตะ ลุ่มน้ำ” ในงาน MATTA ...
March 26, 2024
อบจ.สงขลา เปิดโครงการจัดงานรอมฎอนสัมพันธ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
March 25, 2024
นายกฯ ไพเจน อบจ.สงขลา ได้รางวัล “สุดยอดผู้นำท้องถิ่นแห่งปี” ประจำปี 2567
March 23, 2024