วันที่ 4 สิงหาคม 2563 ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ นายสันติ รังสิยาภรณ์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เป็นประธานแถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวหลังจากนี้ โดยมีแขกผู้มีเกียรติ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะช่วง ต้นไตรมาส ซึ่งหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดลงชั่วคราวจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวสูง ปัจจัยดังกล่าวกระทบต่อกำลังซื้อ ส่งผลให้การบริโภค ภาคเอกชนหดตัวสูงในทุกหมวดการใช้จ่าย แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเข้ามาช่วยพยุงกำลังซื้อได้บ้าง ด้านการส่งออกหดตัวมากขึ้นตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอ อย่างไรก็ดี การผลิตและส่งออกถุงมือยาง และอาหารทะเลกระป๋องขยายตัวดี โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้านการลงทุนภาคเอกชนหดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อนตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่ การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้เริ่มปรับดีขึ้นเล็กน้อยในช่วง ปลายไตรมาส หลังมีการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองในประเทศ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากราคาพลังงานและอาหารสด ด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนการว่างงานในระบบ ประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นสูง รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคใต้มีดังนี้
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัวสูง โดยเป็นผลจากมาตรการจำกัดเส้นทางเข้าออกระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ในภาคใต้ได้ตลอดทั้งไตรมาส มูลค่าการส่งออกสินค้า (ไม่รวมหมวดอากาศยาน เรือ แท่น และรถไฟ) หดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ลดลงในหลายหมวดสินค้า
อย่างไรก็ดี การผลิต ภาคอุตสาหกรรม หดตัวน้อยลง จากไตรมาสก่อน ตามการผลิตและส่งออกถุงมือยางที่ขยายตัวเร่งขึ้น รวมถึงอาหารทะเลกระป๋องที่ยังขยายตัวดี ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้านการผลิตยางพาราแปรรูปขยายตัว ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน สำหรับการผลิตน้ำมันปาล์มดิบหดตัวน้อยลงมากตามปริมาณวัตถุดิบที่เข้าโรงงาน อย่างไรก็ตาม การผลิตอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งยังคงหดตัวสูงต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อที่ลดลง
ผลผลิตเกษตร กลับมาขยายตัว โดยขยายตัวในทุกสินค้าเกษตรหลัก โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันและผลไม้ ที่ขยายตัวสูงจากพื้นที่ปลูกใหม่ที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น ด้านราคาสินค้าเกษตร กลับมาหดตัวตามราคายางพาราเป็นสำคัญ ผลจากอุปสงค์ที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจคู่ค้า และราคาน้ำมัน ในตลาดโลกที่อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งราคาปาล์มน้ำมันชะลอลงมากจากไตรมาสก่อนตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยกดดันจากด้านราคาส่งผลให้รายได้เกษตรกรกลับมาหดตัวจากไตรมาสก่อน 2
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน หดตัวสูงจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อภาคครัวเรือน ที่อ่อนแอลงมากทั้งด้านการจ้างงาน รายได้และความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยการใช้จ่ายหดตัวสูงในทุกหมวด โดยเฉพาะการใช้จ่ายภาคบริการของนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้านการใช้จ่ายสินค้าหมวดยานยนต์หดตัวสูง ตามยอดจดทะเบียนรถยนต์ทุกประเภท เช่นเดียวกับการใช้จ่ายสินค้าในชีวิตประจำวันและสินค้ากึ่งคงทน ที่หดตัว แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐมาช่วยพยุงกำลังซื้อได้บ้าง
การลงทุนภาคเอกชน หดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามการลงทุนในภาคก่อสร้างเป็นสำคัญ สะท้อน จากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ และมูลค่าการจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศที่หดตัวมากขึ้นในหมวด เครื่องจักรและวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้าง ผลจากผู้ประกอบการส่วนหนึ่งชะลอการลงทุนจากความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์แม้จะยังมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่อยู่บ้าง เพื่อเร่งส่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้าที่จองไว้จากช่วงก่อนหน้า แต่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอก่อสร้างทั้งโครงการใหม่และ โครงการต่อเนื่อง สอดคล้องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ที่หดตัวจากทั้งบ้านแนวราบและอาคารชุด
การใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัวจากไตรมาสก่อน โดยรายจ่ายประจำขยายตัวสูง ตามการเบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้น ในหมวดเงินอุดหนุนทั่วไปของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ที่ออกนอกระบบ ขณะที่รายจ่ายลงทุนหดตัวน้อยลงตามการเบิกจ่ายในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้างของ กรมชลประทาน กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบมากขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.35 จากราคาพลังงานที่หดตัวสูง ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงราคาอาหารสดที่ลดลง สำหรับตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนการว่างงานในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นสูง ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เงินฝากคงค้างของสถาบันการเงินขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อน ทั้งเงินฝากของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเงินโอนตามมาตรการ เยียวยาของภาครัฐ ด้านสินเชื่อคงค้างขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งจากสินเชื่อธุรกิจเพื่อ เสริมสภาพคล่องเป็นสำคัญ.
ภาพ/ข่าว อลิสา เขตสาลี
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 24, 2024
November 21, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
แบงค์ชาติ ภาคใต้แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวหลังจากนี้
วันที่ 4 สิงหาคม 2563 ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ นายสันติ รังสิยาภรณ์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เป็นประธานแถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวหลังจากนี้ โดยมีแขกผู้มีเกียรติ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะช่วง ต้นไตรมาส ซึ่งหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดลงชั่วคราวจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวสูง ปัจจัยดังกล่าวกระทบต่อกำลังซื้อ ส่งผลให้การบริโภค ภาคเอกชนหดตัวสูงในทุกหมวดการใช้จ่าย แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเข้ามาช่วยพยุงกำลังซื้อได้บ้าง ด้านการส่งออกหดตัวมากขึ้นตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอ อย่างไรก็ดี การผลิตและส่งออกถุงมือยาง และอาหารทะเลกระป๋องขยายตัวดี โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้านการลงทุนภาคเอกชนหดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อนตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่ การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้เริ่มปรับดีขึ้นเล็กน้อยในช่วง ปลายไตรมาส หลังมีการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองในประเทศ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากราคาพลังงานและอาหารสด ด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนการว่างงานในระบบ ประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นสูง รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคใต้มีดังนี้
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัวสูง โดยเป็นผลจากมาตรการจำกัดเส้นทางเข้าออกระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ในภาคใต้ได้ตลอดทั้งไตรมาส มูลค่าการส่งออกสินค้า (ไม่รวมหมวดอากาศยาน เรือ แท่น และรถไฟ) หดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ลดลงในหลายหมวดสินค้า
อย่างไรก็ดี การผลิต ภาคอุตสาหกรรม หดตัวน้อยลง จากไตรมาสก่อน ตามการผลิตและส่งออกถุงมือยางที่ขยายตัวเร่งขึ้น รวมถึงอาหารทะเลกระป๋องที่ยังขยายตัวดี ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้านการผลิตยางพาราแปรรูปขยายตัว ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน สำหรับการผลิตน้ำมันปาล์มดิบหดตัวน้อยลงมากตามปริมาณวัตถุดิบที่เข้าโรงงาน อย่างไรก็ตาม การผลิตอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งยังคงหดตัวสูงต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อที่ลดลง
ผลผลิตเกษตร กลับมาขยายตัว โดยขยายตัวในทุกสินค้าเกษตรหลัก โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันและผลไม้ ที่ขยายตัวสูงจากพื้นที่ปลูกใหม่ที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น ด้านราคาสินค้าเกษตร กลับมาหดตัวตามราคายางพาราเป็นสำคัญ ผลจากอุปสงค์ที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจคู่ค้า และราคาน้ำมัน ในตลาดโลกที่อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งราคาปาล์มน้ำมันชะลอลงมากจากไตรมาสก่อนตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยกดดันจากด้านราคาส่งผลให้รายได้เกษตรกรกลับมาหดตัวจากไตรมาสก่อน 2
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน หดตัวสูงจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อภาคครัวเรือน ที่อ่อนแอลงมากทั้งด้านการจ้างงาน รายได้และความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยการใช้จ่ายหดตัวสูงในทุกหมวด โดยเฉพาะการใช้จ่ายภาคบริการของนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้านการใช้จ่ายสินค้าหมวดยานยนต์หดตัวสูง ตามยอดจดทะเบียนรถยนต์ทุกประเภท เช่นเดียวกับการใช้จ่ายสินค้าในชีวิตประจำวันและสินค้ากึ่งคงทน ที่หดตัว แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐมาช่วยพยุงกำลังซื้อได้บ้าง
การลงทุนภาคเอกชน หดตัวมากขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามการลงทุนในภาคก่อสร้างเป็นสำคัญ สะท้อน จากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ และมูลค่าการจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศที่หดตัวมากขึ้นในหมวด เครื่องจักรและวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้าง ผลจากผู้ประกอบการส่วนหนึ่งชะลอการลงทุนจากความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์แม้จะยังมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่อยู่บ้าง เพื่อเร่งส่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้าที่จองไว้จากช่วงก่อนหน้า แต่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอก่อสร้างทั้งโครงการใหม่และ โครงการต่อเนื่อง สอดคล้องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ที่หดตัวจากทั้งบ้านแนวราบและอาคารชุด
การใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัวจากไตรมาสก่อน โดยรายจ่ายประจำขยายตัวสูง ตามการเบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้น ในหมวดเงินอุดหนุนทั่วไปของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ที่ออกนอกระบบ ขณะที่รายจ่ายลงทุนหดตัวน้อยลงตามการเบิกจ่ายในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้างของ กรมชลประทาน กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบมากขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.35 จากราคาพลังงานที่หดตัวสูง ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงราคาอาหารสดที่ลดลง สำหรับตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนการว่างงานในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นสูง ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เงินฝากคงค้างของสถาบันการเงินขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อน ทั้งเงินฝากของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเงินโอนตามมาตรการ เยียวยาของภาครัฐ ด้านสินเชื่อคงค้างขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งจากสินเชื่อธุรกิจเพื่อ เสริมสภาพคล่องเป็นสำคัญ.
ภาพ/ข่าว อลิสา เขตสาลี
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 ช่วยเหลือเหตุเรืออับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา
November 24, 2024
JUBILEE DIAMOND ฉลองครบรอบ 95 ปี เปิดบ้าน THE ...
November 24, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024