เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเลย ทำให้เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนในเขตอำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน และอำเภอปากชม จังหวัดเลย ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน โดย รมช.มท. ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หน่วยงานปภ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยในทันที โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่มีสภาพชั้นเดียว รวมถึง บ้านเรือนที่มีเด็กและคนชราอาศัยอยู่ ให้เร่งอพยพออกมายังที่ปลอดภัยก่อนพร้อมทั้ง ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้จัดเตรียมสถานที่อพยพและเครื่องอุปโภคบริโภคให้พร้อมเพรียง ในส่วนส่วนของเส้นทางคมนาคมและการติดต่อสื่อสาร ที่ถูกตัดขาด เช่น สะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ถนนที่ใช้สัญจร และระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ประสานการแก้ไขร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย และ หน่วยทหารในพื้นที่ เพราะ ยังมีความจำเป็นในการลำเลียงการช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่เช่น อาหาร และดูแลผู้เจ็บป่วย หรือ บาดเจ็บ จากเหตุอุทกภัย ตลอดจนให้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเลย ในการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตราย และ สำรองการใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับพื้นที่อพยพ อีกด้วย โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือทุกคน ได้คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและตัวเจ้าหน้าที่เอง เป็นลำดับแรก เพื่อป้องการกันสูญเสียชีวิต
ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 6 (147/2563) เรื่อง พายุระดับ 3 (โซนร้อย ซินลากู) (SINLAKU) ว่า ร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3(โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกําลังแรงขึ้นลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้ ประกอบกับร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งเกาะไหหลํา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกําลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้(2 ส.ค. 63) (ภาคเหนือ) ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลําพูน ลําปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์และตาก (ภาคตะวันออกเฉียง)เหนือ เลย หนองบัวลําภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อํานาจเจริญอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ (ภาคกลาง) นครสวรรค์อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรีกาญจนบุรีและราชบุรี (ภาคตะวันออก) นครนายก ระยอง จันทบุรีและตราด (ภาคใต้)ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช โดยขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวได้เฝ้าระวังและติดตามข่าวสารสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 24, 2024
November 21, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
นิพนธ์ฯ สั่งการ ผู้ว่าฯเลย เร่งช่วยเหลือ ปชช. เหตุน้ำท่วมพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ปากชม สั่งการผู้ว่าฯ ปภ. พื้นที่เสี่ยง เตรียมรับมือ พายุโซนร้อน ‘ซินลากู’ พร้อม แจ้งสถานการณ์ให้ปชช.ทราบอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเลย ทำให้เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนในเขตอำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน และอำเภอปากชม จังหวัดเลย ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน โดย รมช.มท. ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หน่วยงานปภ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยในทันที โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่มีสภาพชั้นเดียว รวมถึง บ้านเรือนที่มีเด็กและคนชราอาศัยอยู่ ให้เร่งอพยพออกมายังที่ปลอดภัยก่อนพร้อมทั้ง ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้จัดเตรียมสถานที่อพยพและเครื่องอุปโภคบริโภคให้พร้อมเพรียง ในส่วนส่วนของเส้นทางคมนาคมและการติดต่อสื่อสาร ที่ถูกตัดขาด เช่น สะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ถนนที่ใช้สัญจร และระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ประสานการแก้ไขร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย และ หน่วยทหารในพื้นที่ เพราะ ยังมีความจำเป็นในการลำเลียงการช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่เช่น อาหาร และดูแลผู้เจ็บป่วย หรือ บาดเจ็บ จากเหตุอุทกภัย ตลอดจนให้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเลย ในการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตราย และ สำรองการใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับพื้นที่อพยพ อีกด้วย โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือทุกคน ได้คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและตัวเจ้าหน้าที่เอง เป็นลำดับแรก เพื่อป้องการกันสูญเสียชีวิต
ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 6 (147/2563) เรื่อง พายุระดับ 3 (โซนร้อย ซินลากู) (SINLAKU) ว่า ร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3(โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกําลังแรงขึ้นลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้ ประกอบกับร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งเกาะไหหลํา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกําลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้(2 ส.ค. 63) (ภาคเหนือ) ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลําพูน ลําปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์และตาก (ภาคตะวันออกเฉียง)เหนือ เลย หนองบัวลําภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อํานาจเจริญอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ (ภาคกลาง) นครสวรรค์อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรีกาญจนบุรีและราชบุรี (ภาคตะวันออก) นครนายก ระยอง จันทบุรีและตราด (ภาคใต้)ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช โดยขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวได้เฝ้าระวังและติดตามข่าวสารสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 ช่วยเหลือเหตุเรืออับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา
November 24, 2024
JUBILEE DIAMOND ฉลองครบรอบ 95 ปี เปิดบ้าน THE ...
November 24, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024