วันที่ 2 มิถุนายน 2563 เวลา 12.00 นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา นำโดย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการ รับหนังสือจากนางสุนี ไชยรส ผู้ประสานงานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า 119 องค์กร เพื่อยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับเงินเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า
นางสุนี ไชยรส กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 เห็นชอบโครงการอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด อายุ 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท ให้แก่เด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจน หรือเสี่ยงต่อความยากจน โดยมีการลงทะเบียนและคัดกรองรายได้เฉลี่ยครอบครัวละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายครอบครัวได้ความเดือดร้อน จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มเงินอุดหนุนจาก 600 บาทต่อเดือน เป็น 2,000 บาทต่อเดือน จนกว่าสถานการณ์จะบรรเทาลง เพราะรายได้ของแม่และครอบครัวลดลงอย่างมากเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ตามปกติในเกือบทุกอาชีพ
ด้านนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ กล่าวว่า ในนามของคณะกรรมาธิการฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เห็นเรื่องของเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญ และจะรับหนังสือดังกล่าวไว้ เพื่อรับเรื่องไปดำเนินการต่อไป.
ภาพ/ข่าว วุฒิสภา
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
May 27, 2025
May 26, 2025
May 25, 2025
May 23, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
วุฒิสภารับหนังสือจากผู้ประสานงานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า 119 องค์กร
วันที่ 2 มิถุนายน 2563 เวลา 12.00 นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา นำโดย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการ รับหนังสือจากนางสุนี ไชยรส ผู้ประสานงานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า 119 องค์กร เพื่อยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับเงินเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า
นางสุนี ไชยรส กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 เห็นชอบโครงการอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด อายุ 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท ให้แก่เด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจน หรือเสี่ยงต่อความยากจน โดยมีการลงทะเบียนและคัดกรองรายได้เฉลี่ยครอบครัวละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายครอบครัวได้ความเดือดร้อน จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มเงินอุดหนุนจาก 600 บาทต่อเดือน เป็น 2,000 บาทต่อเดือน จนกว่าสถานการณ์จะบรรเทาลง เพราะรายได้ของแม่และครอบครัวลดลงอย่างมากเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ตามปกติในเกือบทุกอาชีพ
ด้านนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ กล่าวว่า ในนามของคณะกรรมาธิการฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เห็นเรื่องของเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญ และจะรับหนังสือดังกล่าวไว้ เพื่อรับเรื่องไปดำเนินการต่อไป.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เชฟรอน-มูลนิธิรักษ์ไทย หนุนสตรีชายแดนใต้แปรรูปผลผลิตท้องถิ่น เสริมแกร่งเสาหลักครอบครัว สร้างรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน
May 27, 2025
โรงไฟฟ้าขนอมร่วมมหกรรมมหานครแห่งความสุข ครั้งที่ 3 หนุนเกษตรอินทรีย์ สร้างระบบอาหารปลอดภัย
May 26, 2025
“สงขลา พร้อม” เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเป็นเจ้าภาพเมื่อปีที่ผ่านมา
May 25, 2025
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำนครศรีธรรมราช ปล่อยกุ้งแชบ๊วย 2.7 ล้านตัว ดันเศรษฐกิจชุมชน-ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
May 23, 2025