ตามที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและกำหนดมาตรการต่างๆ จนทำให้สถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 จากเดือนพฤษภาคม เป็นเดือนกรกฎาคม 2563 นั้น แม้ปัจจุบันได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังอยู่ในห้วงการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่กลับมาระบาดระลอก 2 จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเช่นเด็กที่อยู่ในวัยเรียนซึ่งกำลังจะกลับเข้าสู่สถานศึกษา ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการจึงได้สั่งการให้ทุกสถานศึกษา เตรียมมาตรการต่างๆ ทั้งตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการเองก็ได้กำหนดมาตรการขึ้นมาเพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนในครั้งนี้
สำหรับมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการประกอบด้วยมาตรการหลัก 3 มาตรการ หรือมาตรการ 3 ON คือ 1 Onsite Education (ประเมินสถานการณ์เพื่อจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน) 2 On-air Education (การเรียนรู้ผ่านโทรทัศน์) และ 3 Online Education (การเรียนออนไลน์ผ่านสื่อดิจิทัล) ทั้งนี้ให้พิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสมตลอดจนบริบทและความพร้อมของและของสถานศึกษา
ในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลด้านการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดขายแดนภาคใต้ ติดตามความพร้อมของการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ณ ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อเตรียมลงพื้นที่ โดย พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.วาทิต มีสนุ่น ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดขายแดนภาคใต้ ศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุม และหลังจากนั้นได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในห้วง 27 – 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผลจากการลงพื้นที่ในห้วงดังกล่าวทราบว่า สถานศึกษาแต่ละจังหวัดมีความพร้อมที่จะเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมนี้ โดยจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน (Onsite Education) ทั้งนี้ได้เตรียมมาตรการต่างๆ ตามที่กำหนดเช่น 1 มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย 2 นักเรียนและครูจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสถานศึกษา 3 จัดให้มีบริการเจลแอลกอฮอล์ และจุดล้างมือภายในสถานศึกษาอย่างเพียงพอ 4 มีการเว้นระยะห่างระหว่างนักเรียน และครูผู้สอน 5 ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ ภายในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ 6 ลดความแออัด งดจัดกรรมที่มีการรวมตัวกัน และอื่น ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้ขอให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดทำแผนสำรองเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น หากพบการแพร่ระบาดระรอกสอง เป็น 2 แผน คือ 1 แผนการจัดการเรียนการสอนขณะที่เปิดเรียนแล้วแต่นักเรียนไม่สามารถมาโรงเรียนได้ตามปกติ 2 เมื่อเปิดเรียนแล้วพบว่ามีนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งยังได้แสดงความห่วงใยถึงโรงเรียนประชารัฐ และโรงเรียนสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำ และนักเรียนในโครงการเป็นนักเรียนด้อยโอกาสทางการศึกษาจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและ ซึ่งโรงเรียนต่างๆ จะได้สำรวจความพร้อมการดำเนินการตามมาตรการ On-air Education (การเรียนรู้ผ่านโทรทัศน์) และ Online Education (การเรียนออนไลน์ผ่านสื่อดิจิทัล) ต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งนายณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงได้ให้ไว้ว่า “โรงเรียนหยุดได้ แต่การเรียนรู้หยุดไม่ได้”.
ภาพ/ข่าว โดย ส่วนสร้างการรับรู้ สำนักงาน คปต.ส่วนหน้า
ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี 94170
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลลงพื้นที่ติดตามมาตรการ 3 ON ก่อนเปิดภาคเรียนใน จชต.
ตามที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและกำหนดมาตรการต่างๆ จนทำให้สถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 จากเดือนพฤษภาคม เป็นเดือนกรกฎาคม 2563 นั้น แม้ปัจจุบันได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังอยู่ในห้วงการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่กลับมาระบาดระลอก 2 จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเช่นเด็กที่อยู่ในวัยเรียนซึ่งกำลังจะกลับเข้าสู่สถานศึกษา ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการจึงได้สั่งการให้ทุกสถานศึกษา เตรียมมาตรการต่างๆ ทั้งตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการเองก็ได้กำหนดมาตรการขึ้นมาเพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนในครั้งนี้
สำหรับมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการประกอบด้วยมาตรการหลัก 3 มาตรการ หรือมาตรการ 3 ON คือ 1 Onsite Education (ประเมินสถานการณ์เพื่อจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน) 2 On-air Education (การเรียนรู้ผ่านโทรทัศน์) และ 3 Online Education (การเรียนออนไลน์ผ่านสื่อดิจิทัล) ทั้งนี้ให้พิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสมตลอดจนบริบทและความพร้อมของและของสถานศึกษา
ในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลด้านการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดขายแดนภาคใต้ ติดตามความพร้อมของการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ณ ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อเตรียมลงพื้นที่ โดย พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.วาทิต มีสนุ่น ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดขายแดนภาคใต้ ศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุม และหลังจากนั้นได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในห้วง 27 – 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ผลจากการลงพื้นที่ในห้วงดังกล่าวทราบว่า สถานศึกษาแต่ละจังหวัดมีความพร้อมที่จะเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมนี้ โดยจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน (Onsite Education) ทั้งนี้ได้เตรียมมาตรการต่างๆ ตามที่กำหนดเช่น 1 มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย 2 นักเรียนและครูจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสถานศึกษา 3 จัดให้มีบริการเจลแอลกอฮอล์ และจุดล้างมือภายในสถานศึกษาอย่างเพียงพอ 4 มีการเว้นระยะห่างระหว่างนักเรียน และครูผู้สอน 5 ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ ภายในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ 6 ลดความแออัด งดจัดกรรมที่มีการรวมตัวกัน และอื่น ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้ขอให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดทำแผนสำรองเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น หากพบการแพร่ระบาดระรอกสอง เป็น 2 แผน คือ 1 แผนการจัดการเรียนการสอนขณะที่เปิดเรียนแล้วแต่นักเรียนไม่สามารถมาโรงเรียนได้ตามปกติ 2 เมื่อเปิดเรียนแล้วพบว่ามีนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งยังได้แสดงความห่วงใยถึงโรงเรียนประชารัฐ และโรงเรียนสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำ และนักเรียนในโครงการเป็นนักเรียนด้อยโอกาสทางการศึกษาจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและ ซึ่งโรงเรียนต่างๆ จะได้สำรวจความพร้อมการดำเนินการตามมาตรการ On-air Education (การเรียนรู้ผ่านโทรทัศน์) และ Online Education (การเรียนออนไลน์ผ่านสื่อดิจิทัล) ต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งนายณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงได้ให้ไว้ว่า “โรงเรียนหยุดได้ แต่การเรียนรู้หยุดไม่ได้”.
ภาพ/ข่าว โดย ส่วนสร้างการรับรู้ สำนักงาน คปต.ส่วนหน้า
ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี 94170
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024