บ่ายวันที่  18 พ.ค.63 ที่บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด หมู่ที่ 1 ถนนสุราษฎร์-นาสาร ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดยนางอุรสา จินโต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ภายใต้โครงการรณรงค์ป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Corona Virus) โรค COVID-19 ในแรงงานต่างด้าว หลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Corona Virus-19) หรือโรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลก และรัฐบาลได้มีประกาศภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ล็อคดาวน์ สกัดการแพร่ระบาด ห้ามคนต่างชาติเดินทางเข้าออก ส่งผลกระทบโดยตรงกับกิจการโรงแรม การท่องเที่ยว ส่งผลให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา รวมถึงผู้ติดตามได้รับอนุญาตให้ทำงานอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 100,000 คน ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และอาจได้รับข่าวสาร รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันโรคไม่เพียงพอ อีกทั้งที่อยู่อาศัยแออัดทำให้เกิดความเสี่ยงในการระบาดของโรค จึงจำเป็นต้องรณรงค์ให้นายจ้าง และลูกจ้างแรงงานต่างด้าว ได้รับความรู้ในการป้องกันโรค และมีอุปกรณ์ป้องกันโรค ผ้าปิดจมูก และแอลกอฮอล์ลงมือที่เหมาะสม

ด้านนายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า แม้จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ 38 วันติดต่อกัน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือใน ต่างประเทศยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนก็มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เป็นระลอกใหม่หลังจากที่โรคสงบไปแล้ว เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่น่าเป็นห่วง น่ากังวล แม้ว่าประเทศไทยจะมีผู้ป่วยรายใหม่น้อยมาก แต่ถ้าหากการ์ดตกเมื่อไหร่ อาจจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างเช่นการผ่อนคลายห่างสรรพสินค้า จะเห็นได้ว่ามีคนไปรวมกันเยอะมาก ถ้าหากใครสักคนมีเชื้ออยู่ในตัว ก็อาจะแพร่ระบาดไปสู่บุคคลอื่นได้ นี่คือสิ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องป้องกันตนเอง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร เพื่อปลอดจากโรคโควิด-19 ไปด้วยกัน.

ภาพ/ข่าว  สุรเดช  รามเกิด

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน