พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เน้นย้ำโรงเรียนนำร่องฯ ต้องมีความพร้อม เลือกนวัตกรรมที่ใช่ ตั้งใจทำจริง อิง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรม
จากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อติดตามนโยบายของรัฐบาลของ พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ) พร้อมด้วย นายการุณ สกุลประดิษฐ์ อดีดปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายชลำ อรรถธรรม อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ที่ปรึกษาฯ เมื่อวันพุธที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ที่วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกปัตตานี เพื่อรับฟังการรายงานผลการขับเคลื่อนโครงการพิเศษตามนโยบายของรัฐบาลของหน่วยงานทางการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดโดยศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) โดยมีผู้บริหารด้านการศึกษาในพื้นที่ อาทิ ศึกษาธิการจังหวัด ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประธานอาชีวศึกษา ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานส่วนกลางเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายสุทิน แก้วพนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายสราวุธ เดชมณีรัตน์ ผอ.สำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายพิทักษ์ โสตถยาคม รอง ผอ.สำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา การประชุมครั้งนี้มีเรื่องเสนอเพื่อทราบ 4 เรื่อง คือ โรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอาชีวศึกษาประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล และเรื่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
ในโอกาสนี้ พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล) คือ ให้ติดตามงานที่รัฐบาลให้หน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว มีการดำเนินงานหรือไม่อย่างไร และผลักดันให้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามงานที่จะได้ริเริ่มขึ้นใหม่ของคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเพื่อเสริมการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย ภายหลังจากรับทราบเรื่องที่มีการนำเสนอในที่ประชุมทั้ง 4 เรื่องแล้ว ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนานวัตกรรมและการเลือกโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ว่า โรงเรียนนำร่องในบางพื้นที่มีการพัฒนานวัตกรรมที่น่าสนใจ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม เพียงปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการภายในโรงเรียน ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิม แต่ทำให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการวัดและประเมินผลที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เช่น โรงเรียนขนาดเล็ก มีครูไม่ครบชั้น ได้จัดนักเรียนมาเรียนรวมกัน ห้องหนึ่งมีนักเรียน 2-3 ชั้นปี นั่งรวมกัน 1 โต๊ะ/กลุ่ม จัดครูมาช่วยกันดูแลและปรับการสอนให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละบุคคล ดังนั้น ประเด็นการเลือกใช้หรือพัฒนานวัตกรรมและมุมมองด้านงบประมาณของโรงเรียน จะต้องปรับเปลี่ยนความคิดของบุคลากรในโรงเรียนที่สมัครเป็นโรงเรียนนำร่อง ที่อาจเข้าใจว่า เมื่อสมัครเข้าร่วมเป็นโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาแล้ว จะได้งบประมาณเพิ่ม หรือได้รับจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนเป็นเงินก้อน ที่สามารถนำมาใช้ทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการ แต่ความเป็นจริงแล้ว มีกรอบงาน/กรอบการใช้เงิน ที่มีกระบวนการขั้นตอน ที่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. เช่น การทำหลักสูตร การจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ การประเมินผล ฉะนั้น โรงเรียนนำร่องจึงต้องเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมและมีความตั้งใจจริงในการพัฒนาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังไม่มีความพร้อมหรือไม่มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการอย่างจริงจัง ตาม พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ขอให้ ผอ.ศปบ.จชต. และศึกษาธิการจังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ พิจารณาโรงเรียนที่มีความพร้อมเป็นโรงเรียนนำร่อง หากโรงเรียนไม่พร้อม/ไม่เข้มแข็ง ไม่ควรเสนอรายชื่อโรงเรียนเหล่านั้นในประกาศรายชื่อโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้.
ภาพ/ข่าว ผู้แทนพิเศษรัฐบาล
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ย้ำโรงเรียนนำร่องฯ ต้องมีความพร้อม เลือกนวัตกรรมที่ใช่ ตั้งใจทำจริง
พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เน้นย้ำโรงเรียนนำร่องฯ ต้องมีความพร้อม เลือกนวัตกรรมที่ใช่ ตั้งใจทำจริง อิง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรม
จากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อติดตามนโยบายของรัฐบาลของ พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ) พร้อมด้วย นายการุณ สกุลประดิษฐ์ อดีดปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายชลำ อรรถธรรม อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ที่ปรึกษาฯ เมื่อวันพุธที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ที่วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกปัตตานี เพื่อรับฟังการรายงานผลการขับเคลื่อนโครงการพิเศษตามนโยบายของรัฐบาลของหน่วยงานทางการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดโดยศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) โดยมีผู้บริหารด้านการศึกษาในพื้นที่ อาทิ ศึกษาธิการจังหวัด ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประธานอาชีวศึกษา ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานส่วนกลางเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายสุทิน แก้วพนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายสราวุธ เดชมณีรัตน์ ผอ.สำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายพิทักษ์ โสตถยาคม รอง ผอ.สำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา การประชุมครั้งนี้มีเรื่องเสนอเพื่อทราบ 4 เรื่อง คือ โรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอาชีวศึกษาประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล และเรื่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
ในโอกาสนี้ พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล) คือ ให้ติดตามงานที่รัฐบาลให้หน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว มีการดำเนินงานหรือไม่อย่างไร และผลักดันให้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามงานที่จะได้ริเริ่มขึ้นใหม่ของคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเพื่อเสริมการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย ภายหลังจากรับทราบเรื่องที่มีการนำเสนอในที่ประชุมทั้ง 4 เรื่องแล้ว ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนานวัตกรรมและการเลือกโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ว่า โรงเรียนนำร่องในบางพื้นที่มีการพัฒนานวัตกรรมที่น่าสนใจ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม เพียงปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการภายในโรงเรียน ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิม แต่ทำให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการวัดและประเมินผลที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เช่น โรงเรียนขนาดเล็ก มีครูไม่ครบชั้น ได้จัดนักเรียนมาเรียนรวมกัน ห้องหนึ่งมีนักเรียน 2-3 ชั้นปี นั่งรวมกัน 1 โต๊ะ/กลุ่ม จัดครูมาช่วยกันดูแลและปรับการสอนให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละบุคคล ดังนั้น ประเด็นการเลือกใช้หรือพัฒนานวัตกรรมและมุมมองด้านงบประมาณของโรงเรียน จะต้องปรับเปลี่ยนความคิดของบุคลากรในโรงเรียนที่สมัครเป็นโรงเรียนนำร่อง ที่อาจเข้าใจว่า เมื่อสมัครเข้าร่วมเป็นโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาแล้ว จะได้งบประมาณเพิ่ม หรือได้รับจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนเป็นเงินก้อน ที่สามารถนำมาใช้ทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการ แต่ความเป็นจริงแล้ว มีกรอบงาน/กรอบการใช้เงิน ที่มีกระบวนการขั้นตอน ที่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. เช่น การทำหลักสูตร การจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ การประเมินผล ฉะนั้น โรงเรียนนำร่องจึงต้องเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมและมีความตั้งใจจริงในการพัฒนาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังไม่มีความพร้อมหรือไม่มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการอย่างจริงจัง ตาม พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ขอให้ ผอ.ศปบ.จชต. และศึกษาธิการจังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ พิจารณาโรงเรียนที่มีความพร้อมเป็นโรงเรียนนำร่อง หากโรงเรียนไม่พร้อม/ไม่เข้มแข็ง ไม่ควรเสนอรายชื่อโรงเรียนเหล่านั้นในประกาศรายชื่อโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025