วันที่  3 ม.ค.63 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพระพุทธบาท ชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสระบุรี เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยได้สรุปสถานการน้ำประจำเขื่อน ปริมาตรน้ำใช้การ 4 ขื่อนหลัก(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) รวมจำนวน 4,291 ล้าน ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 23.61 ของปริมาณน้ำใช้การตามแผน(18,175 ล้าน ลบ.ม.)หรือร้อยละ 17.25 ของปริมาณน้ำเก็บกักรวม(24,871 ล้าน ลบ.ม.) ระบายน้ำรวม 24.82 ล้าน ลบ.ม. น้ำไหลลงรวม 3.44 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่า น้ำระบาย 21.38 ล้าน ลบ.ม.
– เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาตรน้ำใช้การ 223 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 23.23 ของควมจุสสุด ระบาย 1.040 ล้าน ลบ.ม./วัน ถ้าไม่มีน้ำไหลลงระบายได้มากกว่า 7 เดือน

สำนักงานโครงการชลประทานสระบุรี แจ้งว่าสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +13.28 ม.รทก,มีระดับต่ำกว่าปี 2558 ซึ่งป็นปีที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และแควน้อยบำรุงแดน ในพื้นที่เจ้าพระยาตอนบนสูญเสียไปจากระบบประมาณ 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 3.46 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จาการ
นำไปใช้ในภาคการเกษตรของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าลำน้ำปิง น่าน และเจ้าพระยาตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ลงมาถึงจังหวัดชัยนาท และเพื่อรักษานิเวศจะปล่อยน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก เพิ่มขึ้นซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้น

ทางการประปาส่วนภูมิภาค พระพุทธบาท บ้านหมอ ยังใช้น้ำจากคลองป่าสัก คาดการณ์ว่าใช้ได้ถึงกรกฎาคม 2563 ส่วนมวกเหล็กและหนองแค ได้หาแหล่งน้ำสำรองเพิ่มเติมแล้ว นอกจากนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ กอ.รมน.ยังเตรียมแผนแจกจ่ายน้ำหากได้รับการร้องขอ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้ให้ความสำคัญและห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ได้สั่งการและประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป.

ภาพ-ข่าว วรวิทย์ คำเสียง(อู๊ดอิสระ) ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน