ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มีทั้งที่เป็นกาแฟสำเร็จรูปกึ่งสำเร็จรูป และกาแฟสดหลายแบรนด์จำหน่ายอย่างแพร่หลายในทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยซึ่งต้องสั่งซื้อเมล็ดกาแฟอันเป็นวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นปริมาณมากในแต่ละปี แต่เมื่อมีการส่งเสริมให้นำมาเพาะปลูกและได้ผลดีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการสนับสนุนจากส่วนราชการและภาคส่วนต่างๆ อย่างครบวงจร ภายใต้ชื่อโครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” จึงเป็นโอกาสทองของเกษตรกรในพื้นซึ่งสนใจเข้าร่วมโครงการร่วมเพาะปลูกเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้เป็นจำนวนมาก
โครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” เริ่มตั้งแต่ ปี 2560 ด้วยความร่วมมือระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา กรมวิชาการเกษตรโดยศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ได้ทำการศึกษาทดลองเพาะปลูกในพื้นที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลาซึ่งสภาพภูมิประเทศมีความเหมาะสม จนประสบความสำเร็จจึงได้ทำการเพาะพันธุ์แจกจ่ายให้กับเกษตรกรนำไปปลูกแต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้ติดต่อขอรับพันธุ์กล้าจากศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่มาเพิ่มให้กับเกษตรกร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจำนวน 2 แสนต้น พร้อมนี้ได้จัดเจ้าหน้าเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการเพาะปลูก การดูแลบำรุงรักษาเพื่อมาถ่ายทอดให้เกษตรกรในพื้นที่
สำหรับพันธุ์กาแฟที่นำมาปลูกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในโครงการครั้งมี 2 สายพันธุ์คือพันธุ์อราบีกา ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศเย็นบนพื้นที่สูง และพันธุ์โรบัสตาเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นพื้นที่ไม่สูงมากนัก โดยทั้งสองสายพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ดีโดยเฉพาะพื้นที่อำเภอธารโต และมีผลผลิตมีคุณภาพดี มีกลิ่นหอม ฟองครีมหนา ดีกว่าที่ปลูกในที่อื่น ทั้งนี้เพราะในอดีตผืนที่แห่งนี้เคยมีการปลูกกาแฟและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของดี 1 ผลิตภัณฑ์ 1 ตำบล แต่ไม่นิยมปลูกมากนัก เพราะราคาพืชผลชนิดอื่นเช่นยางพาราทำรายได้ให้เกษตรกรดีกว่า ต่อมาเมื่อราคาพืชผลยางพาราประสบปัญหาประกอบกับความต้องและความนิยมในการบริโภคกาแฟขยายตัวเพิ่มมากขึ้น การปลูกกาแฟจึงถูกนำกลับคืนสู่ดินแดนนี้อีกครั้งภายใต้โครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” โดยการส่งเสริมจากภาคส่วนต่างๆ บูรณาการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ให้ความรู้ สนับสนุนกล้าพันธุ์ รวมทั้งด้านการตลาดซึ่งมีบริษัทเอกชนเข้าลงนามทำสัญญาเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2562 ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นพยาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 พลเอก ชัยชาญ ชาญมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง กลาโหมในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ซึ่งมีหน้าที่ในการประสานงานขับเคลื่อนบูรณาการงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบกล้ากาแฟพันธุ์อราบีก้าจำนวน 2 แสนต้น ให้กับเกษตรกรใน 3 อำเภอ คืออำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา และอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งถือเป็นการต่อยอดและเชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” อันประกอบไปด้วยเมืองอุตสาหกรรม เมืองเกษตรกรรม และการท่องเทียวแบบบูรณาการ และนับได้ว่าโครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” คือแบบอย่างของการบูรณาในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดน ตามแผนปฏิบัติการเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2561-2564 โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการขับเคลื่อน และพลเอก ชัยชาญ ชาญมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลและคณะรับผิดชอบด้านการบูรณาการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล.
ภาพ/ข่าว ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
“อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มีทั้งที่เป็นกาแฟสำเร็จรูปกึ่งสำเร็จรูป และกาแฟสดหลายแบรนด์จำหน่ายอย่างแพร่หลายในทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยซึ่งต้องสั่งซื้อเมล็ดกาแฟอันเป็นวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นปริมาณมากในแต่ละปี แต่เมื่อมีการส่งเสริมให้นำมาเพาะปลูกและได้ผลดีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการสนับสนุนจากส่วนราชการและภาคส่วนต่างๆ อย่างครบวงจร ภายใต้ชื่อโครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” จึงเป็นโอกาสทองของเกษตรกรในพื้นซึ่งสนใจเข้าร่วมโครงการร่วมเพาะปลูกเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้เป็นจำนวนมาก
โครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” เริ่มตั้งแต่ ปี 2560 ด้วยความร่วมมือระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา กรมวิชาการเกษตรโดยศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ได้ทำการศึกษาทดลองเพาะปลูกในพื้นที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลาซึ่งสภาพภูมิประเทศมีความเหมาะสม จนประสบความสำเร็จจึงได้ทำการเพาะพันธุ์แจกจ่ายให้กับเกษตรกรนำไปปลูกแต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้ติดต่อขอรับพันธุ์กล้าจากศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่มาเพิ่มให้กับเกษตรกร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจำนวน 2 แสนต้น พร้อมนี้ได้จัดเจ้าหน้าเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการเพาะปลูก การดูแลบำรุงรักษาเพื่อมาถ่ายทอดให้เกษตรกรในพื้นที่
สำหรับพันธุ์กาแฟที่นำมาปลูกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในโครงการครั้งมี 2 สายพันธุ์คือพันธุ์อราบีกา ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศเย็นบนพื้นที่สูง และพันธุ์โรบัสตาเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นพื้นที่ไม่สูงมากนัก โดยทั้งสองสายพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ดีโดยเฉพาะพื้นที่อำเภอธารโต และมีผลผลิตมีคุณภาพดี มีกลิ่นหอม ฟองครีมหนา ดีกว่าที่ปลูกในที่อื่น ทั้งนี้เพราะในอดีตผืนที่แห่งนี้เคยมีการปลูกกาแฟและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของดี 1 ผลิตภัณฑ์ 1 ตำบล แต่ไม่นิยมปลูกมากนัก เพราะราคาพืชผลชนิดอื่นเช่นยางพาราทำรายได้ให้เกษตรกรดีกว่า ต่อมาเมื่อราคาพืชผลยางพาราประสบปัญหาประกอบกับความต้องและความนิยมในการบริโภคกาแฟขยายตัวเพิ่มมากขึ้น การปลูกกาแฟจึงถูกนำกลับคืนสู่ดินแดนนี้อีกครั้งภายใต้โครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” โดยการส่งเสริมจากภาคส่วนต่างๆ บูรณาการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ให้ความรู้ สนับสนุนกล้าพันธุ์ รวมทั้งด้านการตลาดซึ่งมีบริษัทเอกชนเข้าลงนามทำสัญญาเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2562 ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นพยาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 พลเอก ชัยชาญ ชาญมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง กลาโหมในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ซึ่งมีหน้าที่ในการประสานงานขับเคลื่อนบูรณาการงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบกล้ากาแฟพันธุ์อราบีก้าจำนวน 2 แสนต้น ให้กับเกษตรกรใน 3 อำเภอ คืออำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา และอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งถือเป็นการต่อยอดและเชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” อันประกอบไปด้วยเมืองอุตสาหกรรม เมืองเกษตรกรรม และการท่องเทียวแบบบูรณาการ และนับได้ว่าโครงการ “อาราบิกา คืนถิ่น แดนดินกาแฟใต้” คือแบบอย่างของการบูรณาในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดน ตามแผนปฏิบัติการเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2561-2564 โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการขับเคลื่อน และพลเอก ชัยชาญ ชาญมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลและคณะรับผิดชอบด้านการบูรณาการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล.
ภาพ/ข่าว ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025