ด้วยเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 มีผู้เสียหาย รวม 14 คน ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม แจ้งว่าถูกคนร้ายคือ นายณรงค์ อินลี เลขที่ประจำตัวประชาชน 1-4309-00040-90-9 กับพวก หลอกลวง ให้ลงทุน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จนเกิดความเสียหาย พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ โดยศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายณรงค์ อินลี เลขที่ประจำตัวประชาชน 1-4309-00040-90-9 ที่ 1720/2562 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของผู้ต้องหา กล่าวคือ โดยเมื่อประมาณ เดือน พฤศจิกายน 2561 ผู้เสียหาย
ได้ไปพบเห็นโฆษณาของบริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด โดยเป็นประกาศรับจ้างให้ทำงาน ภายใต้การจ้างงานของบริษัทฯ มีหน้าที่กดไลค์ กดแชร์ สินค้าผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตตามที่บริษัทกำหนดให้ซึ่งผู้ที่สนใจจะทำงานดังกล่าวต้องสมัครรหัสเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.nicereview.asia/home/index.html และทำการโอนเงินค่าประกัน
การทำงาน รายละเอียดดังนี้
– โอนเงินค่าประกันการทำงาน 1,500 บาท จะได้ค่าจ้างการทำงานวันละ 20 บาท
– โอนเงินค่าประกันการทำงาน 3,000 บาท จะได้ค่าจ้างการทำงานวันละ 40 บาท
– โอนเงินค่าประกันการทำงาน 4,500 บาท จะได้ค่าจ้างการทำงานวันละ 60 บาท
– โอนเงินค่าประกันการทำงาน 10,000 บาท จะได้ค่าจ้างการทำงานวันละ 100 บาท
– โอนเงินค่าประกันการทำงาน 20,000 บาท จะได้ค่าจ้างการทำงานวันละ 200 บาท
เมื่อโอนเงินค่าประกันการทำงานดังกล่าวแล้ว ทางบริษัทฯจะมีการส่งสัญญาว่าจ้าง 3 เดือน โดยมีการลงนามของนาย ณรงค์ อินลี ในฐานะกรรมการผู้จัดการ แต่จะเว้นช่องลงนามของผู้ที่สมัครมาให้ ผู้สมัครมีหน้าที่ดาวน์โหลดไฟล์สัญญาดังกล่าวมา แล้วลงนามในช่องที่บริษัทเว้นไว้ให้ จากนั้นทำการอัพโหลดสัญญาดังกล่าวที่ลงนามแล้วส่งกลับไปทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ เมื่อทำตามขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทฯจะมีการกำหนดงานให้ทำผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ผู้สมัครมีหน้าที่ทำตามที่บริษัทฯ กำหนดแล้วจะได้รับค่าจ้างทำงานเป็นรายวัน ผู้เสียหายเกิดความสนใจในโฆษณาดังกล่าวจึงได้ สมัครและทำสัญญากับบริษัทดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ โดย ผู้เสียหายได้สมัครและทำสัญญา แต่ละสัญญา
จะมีการจ่ายเงินค่าประกันการทำงานก่อน เมื่อทำสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้วทางบริษัทฯ ก็ได้แจกแจงลักษณะงานให้ทำผ่านทางเว็บไซต์ ผู้เสียหายก็ได้ทำงานตามที่บริษัทแจกแจงให้ทำเรื่อยมา ซึ่งช่วงแรกในการถอนค่าจ้างทำงานในแต่ละครั้ง
ระบบจะทำการจ่ายเงินในภายใน 7 วันทำการ ต่อมาผู้เสียหายได้สังเกตเห็นว่าในการจ่ายเงินค่าทำงานเริ่มมีการจ่ายให้
ไม่ตรงกับที่ระบบแจ้งคือ มีการจ่ายเงินให้ล่าช้าและมีการเพิ่มวันดำเนินการในการจ่ายเงินขึ้นเรื่อยๆ จาก 7 วัน เป็น 14 วัน หรือเกินกว่านั้น ทำให้ผู้เสียหายเริ่มขาดความน่าเชื่อถือต่อบริษัทฯ และคิดว่าจะถูกหลอก ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 ผู้เสียหายบางส่วนได้เดินทางมายัง บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด เลขที่ 388/14 ซอยนวลจันทร์ 26 ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร เพื่อมาทำการยกเลิกสัญญากับทางบริษัทฯดังกล่าวและขอเงินค่าประกัน
การทำงานคืน แต่เมื่อยกเลิกสัญญาดังกล่าวแล้วทางบริษัทฯดังกล่าวก็ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่แน่นอนในการคืนเงินประกันการทำงาน ซึ่งภายในสัญญาว่าจ้างกำหนดไว้ว่าจะคืนให้ภายใน 7 วันทำการ ผู้เสียหายจึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวจนกว่าจะถึงที่สุด
ศปอส.ตร. ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียหายทั่วประเทศที่ได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีกับ นายณรงค์ อินลี ดังนี้
1. บช.น. ผู้เสียหาย จำนวน 299 ราย มูลค่าความเสียหาย 120,936,358 บาท
2. ภ.1 ผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย มูลค่าความเสียหาย 210,000 บาท
3. ภ.3 ผู้เสียหาย จำนวน 8 ราย มูลค่าความเสียหาย 930,000 บาท
4. ภ.5 ผู้เสียหาย จำนวน 82 ราย มูลค่าความเสียหาย 10,756586.31 บาท
5. ภ.7 ผู้เสียหาย จำนวน 4 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,064,500 บาท
6. ภ.9 ผู้เสียหาย จำนวน 2 ราย มูลค่าความเสียหาย 4,670,000 บาท
ณ ขณะนี้ ปรากฏผู้เสียหาย 403 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 139,553,444.31 บาท
ภายใต้การอำนวยการของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการ
ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โดยเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความที่ สน.โคกคราม จึงได้รายงานให้ ผอ.ศปอส.ตร. ทราบ และได้สั่งการมอบหมาย พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบช.สทส.,พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.โคกคราม ให้ควบคุมและกำกับการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2562 พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบช.สทส. ได้ประชุมสั่งการให้ ผบก.สส.บช.น.,ภ.1-9
รีบดำเนินการสอบสวนขยายผลเครือข่ายเซ็นเตอร์ที่ให้ข้อมูลแก่ลูกค้าทั่วประเทศ และบุคคลต้องสงสัยที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงในคดีนี้ เพื่อที่จะปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับผู้ต้องหาทั้งหมดทั่วประเทศต่อไป
ต่อมาวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ทำการจับกุมตัวนายณรงค์
อินลี อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1720/2562 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ความผิดฐาน
“ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” พร้อมกับตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 600,000 บาท และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวน 13,000 ดอลลาร์ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ด่านพรหมแดนถาวร จุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 1 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมทั้งยังได้จับกุมตัว นายหาญ ฮะยี่บังลัง ในข้อหา “ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ” นายหาญฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 ศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกรอ 2 ปี
จากการสอบถาม นายณรงค์ อินลี ให้การว่าได้ร่วมกับพวกทำการเปิดบริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด ไว้เพื่อให้กลุ่มผู้เสียหายทำการโอนเงินมาลงทุน โดยจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์จากการจ้างงานของบริษัทต่างๆ ให้กดไลค์ กดแชร์ ซึ่งปรากฎว่า ไม่ได้มีการว่าจ้างจากบริษัทต่างๆ ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างจริง
ศปอส.ตร. ได้ทำการตรวจสอบอายัดบัญชีธนาคารและทรัพย์สินของผู้ต้องหา ดังนี้
1. บัญชี ผู้ต้องหา นาย ณรงค์ อินลี จำนวน 9 บัญชี มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท
2. บัญชี บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด จำนวน 3 บัญชี มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท
3. บัญชี บุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ผู้ต้องหา จำนวน 2 บัญชี
รวมจำนวนเงินที่อายัดไว้ประมาณ 100 ล้านบาท
1. รถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 2.0 520D สี ขาว จำนวน 2 คัน มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท
2. โฉนดที่ดิน จำนวน 2 ฉบับ
3. บ้านเดี่ยว ในพื้นที่ ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ จำนวน 3 หลัง
4. ห้องชุด (คอนโด) เดอะ คอลเลคชั่น คอนโดมิเนียม ซอยสุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร จำนวน 4 ห้อง
5. อาคารสำนักงาน บริษัท เอนเนอร์จีดีดักชั่น จำกัด เลขที่ 388/86 ซอยนวลจันทร์ 26 แขวงนวลจันทร์
เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท

และในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ ผบก.สส. บช.น. / ภ.1-9 สืบสวนขยายผลกับเครือข่าย บุคคลที่ทำหน้าที่บริการลูกค้าหรือมีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของบริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด ของ นายณรงค์ อินลี ผู้ต้องหา ทั่วประเทศ เพื่อทำการตรวจค้น ตรวจยึด พิสูจน์เอกสารหลักฐานต่างๆ นำมาประกอบการสอบสวนต่อไป ผลการตรวจค้นเป้าหมาย จากการที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผอ.ศปอส.ตร. สั่งการให้ บก.สส.บช.น.,ภ1-9 ร่วมกับ พฐ.ในพื้นที่ ตรวจค้นเป้าหมายที่มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด ทั้งเป็นผู้แทนจากผู้ต้องหา ติดต่อหาลูกค้า และเส้นทางการเงิน โดยทำการตรวจค้นเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 44 เป้าหมาย 49 จุด สามารถตรวจยึด ดังนี้
1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
2.โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ
3.ซิมการ์ด
4.สมุดบัญชีธนาคาร
5.รายชื่อลูกค้า
6.เอกสารเกี่ยวกับ บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด
จากกรณีดังกล่าวนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนโดยทั่วไป หากท่านตกเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนกับบริษัทฯ ดังกล่าว ให้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ ได้ทันที และขอเรียนกับพี่น้อง ประชาชน ว่า ในการชักชวน ให้ร่วมลงทุนผ่านระบบ Social Media
ในลักษณะเช่นนี้ ขอให้ตรวจสอบและใช้วิจารณญาณก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน