ปากน้ำโพ ทำสกอร์ได้ไม่ตามเป้า 5-0 ทำผลงานชนะ 1 เสมอ 1 เท่ากับ ทีม ลพบุรี เอฟซี แต่ผลประตูได้เสียแข้งเมืองลิงดีกว่า 1 ลูก ทะลุรอบรองชนะเลิศ เป็นที่ 1 สาย เอ ศึกฟุตบอล เยาวชนอายุ 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย หรือบอลโค้กคัพ ภาคเหนือตอนล่าง ขณะที่เจ้าภาพ เพชรบูรณ์ เอฟซี ออกสตาร์ทดี ยิงนำ วัดโบสถ์ 2-0 แต่แข้งจากพิษณุโลก ฮึดสู้ไล่มาเสมอ 2-2 เกือบส่งเจ้าภาพตกรอบ แต่วัดโบสถ์ ทำได้แค่เสมอ ทำให้ เพชรบูรณ์ ทะลุรอบตัดเชือก เป็นที่ 2 สาย ซี ส่วนที่ 1 ชัยนาท ฮอร์นบิล ไล่ถล่ม สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี 3-0 และ พิษณุโลก เอฟซี พิขิต กำแพงเพชร เอฟซี 1-0 ฉลุยรอบรองฯ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รายการ “โค้กคัพ” ครั้งที่ 21 รอบคัดเลือกกลุ่มที่ 5 โซนภาคเหนือตอนล่าง ระหว่างวันที่ 25-30 ต.ค .2562 ที่สนามหล่มสัก สเตเดี้ยม และ ม.การกีฬาแห่งชาติ เพชรบูรณ์ มีทั้งหมด 10 ทีมเข้าร่วมชิงชัย โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบแรกวันสุดท้าย
นครสวรรค์ เอฟซี 5 ส.กีฬาแห่งจ.พิจิตร 0 คู่แรกสายเอ เป็นการพบกันระหว่าง นครสวรรค์ เอฟซี ซึ่งลงสนามมาแล้ว 1 นัด มี 1 คะแนน จากการเสมอ ลพบุรี เอฟซี เละ 0-6 ทำให้เกมนี้ ไม่มีความหมายต่อ พิจิตร ตกรอบแน่ นอนแล้ว ขณะที่ นครสวรรค์ ต้องถล่มประตูคู่แข่งให้มากกว่า 6 ลูกถึงจะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โดยผู้เล่น 11 คนแรกของ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วย รัชชานนท์ ส่องแก้ว, พิษณุ สีบุตรา, อธิวัฒน์ จันทรเขียว, พงษ์พันธ์ วงศ์พนาเวศ, ก้องเกียรติ หมื่นฤทธิ์, ปฌิธาน ศรีนาราง, ธนกฤต คลังเพชร, เทพมงคล บุตรเจริญ, อภิสิทธิ์ มาตราช, ปภาวิน กันเพชร และกิตติธัชจันเทศ เป็นผู้รักษาประตู ขณะที่ 11 คนแรก นครสวรรค์ เอฟซี ประกอบด้วย จิรายุทธ (ผู้รักษาประตู), พิษณุ จันนาค, ภูม บุษบรรณ ณัฐพนธ์ ภูแม่น้ำ, อนาวิน แพพึ่ง, ปฐมพร อ้นทอง, นพดล สุทธิประภา, อดุลย์ลิขิต แสงแดง, วิศรุจน์ ศรีบุรินทร์, ชนภัทร เพาะปลูก และอดิศักดิ์ สุดมั่งมี เริ่มเกมมาครึ่งแรก นักเตะจากเมืองปากน้ำโพ เดินหน้าเข้าใส่ เพื่อหวังทำประตูให้เร็วที่สุด เน้นเปิดบอลจากด้านข้างเข้าหน้าปรตูพิจิตร แต่ยังเจาะประตูไม่ได้ในช่วงแรก จน น.29 นครสวรรค์ เปิดสกอร์แรกได้ จากการโยนมาจากริมเส้นด้านซ้าย เข้ามากลางประตู อนาวิน แพพึ่ง ยิงเข้าประตูไป นำ 1-0 พอเปิดซิงได้ถัดมานาทีเดียว อนาวิน คนเดิม ได้บอลหลุดเดี่ยวแปข้ามหัวผู้ รักษาประตูเข้าไป หนีไป 2-0 เกมของนครสวรรค์ บุกแหลก น.42 อนาวิน โยนบอลจากขวามาหน้าประตู นพดล สุทธิประภา กระดกบอลข้ามประตูเข้าไปอีกนำห่าง 3-0 แต่เกมยังไม่จบครึ่งแรก ช่วงทด เวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ชนภัทร เพาะปลูก เตะฟรีคิกเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ นครสวรรค์ นำ 4-0 ครึ่งหลัง นักเตะจากเมืองปากน้ำโพต้องการอีก 2 ประตูจะยิงเท่าลพบุรี ซึ่งเกมยังคงเป็นวันเวย์ นครสวรรค์พับสนามบุก โดยน.63 นักเตะนครสวรรค์ได้บอลมาจากมุมขวาเข้ากลางให้ วีรพงศ์ อ้อนเพียร ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาบุกได้บอลเลี้ยงเข้าเขตโทษ มาโดน ปภาวิน กันเพชร รวบในเขตโทษ กรรมการไม่รีรอเป่าให้จุดโทษ นพดล สุทธิประภา ซัดจุดโทษไม่พลาดให้ทีมนำไปไกล 5-0 จากนั้นเกมของ นครสวรรค์ ยังเดินหน้าบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่กองหลังพิจิตร สวมมหาอุดเตะสกัดออกได้หมด จน น.90 นพดล เปิดบอลจากข้างมาหน้าประตู ประตูพิจิตรโดดจั่วลม แต่ ชนภัทร โหม่งเต็มหัว บอลข้ามคานไปนิดเดียว ช่วงทดเวลา 5 นาที นครสวรรค์ น่าจะได้อีก 2 ประตู แต่ยิงให้ประตูและกองหลังสกัดออกไปอย่างสุดเสียดาย หมดเวลา นครสวรรค์ เอฟซี ชนะ 5-0 ทำผลงานชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนน เท่ากับ ลพบุรี เอฟซี ต้องตัดสินกันที่ประตูได้เสีย ซึ่ง ลพบุรี ยิงได้มากกว่า 1 ลูก ส่งให้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ส่วน นครสวรรค์ ตกรอบไปกับ ส.กีฬาแห่งจ.พิจิตร
วัดโบสถ์ ซิตี้ 2 เพชรบูรณ์ เอฟซี 2 ขณะที่ในสาย ซี เป็นการแข่งขันในเกมที่ 3 ระหว่าง เจ้าภาพ เพชรบูรณ์ เอฟซี ที่ลงสนามมา 2 เกม ชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนน พบกับ วัดโบสถ์ ซิตี้ นักเตะจากพิษณุโลก ที่ลงสนามมา 2 เกม ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน ซึ่งเกมนี้ ถ้าทีมไหนเอาชนะได้จะผ่านเข้ารอบตัดเชือกทันที แต่ถ้าเจ้าภาพ เพชรบูรณ์ เสมอได้จะฉลุยเข้ารอบเขี่ย วัดโบสถ์ตกรอบทันที โดยเกมนี้วัดโบสถ์ ซิตี้ ส่งผู้เล่นชุดเดิมครบชุด 11 คนแรก ประกอบด้วย วิรุฬห์ บุญยืน (ผู้รักษาประตู), ปิยะชัย ล้านพลแสน, อรรถฤทธิ์ นวนน่วม, เนติพงษ์ สิงมาดา, วชิรภัทร วิก วฤกษ์มงคล, อมรพงษ์ สอนแหยม, ภูริวัฒน์ ธงชัย, ศรันย์ ทัดเที่ยง, วีรพงษ์ เพ็งเพชร, สุธเนตร นิลสนธิ และเจษฏากร นวลทิม ส่วนเพชรบูรณ์ ส่ง 11 ผู้เล่นลงสนาม ประกอบด้วย สิทธิพล มุตะระ (ผู้รักษาประตู), กฤตนัย สมอ่อน, ชนะชัย พรมโครตค้า, อาทิตย์ คชสิทธิ์,วงศพัทธ์ เงินมา, ธีรวุฒิ เนตรแสงศรี, ภาณุวิญ์ อุมาลี, พลจรัตน์ ศรีตะเมา, กิตติพงษ์ ป้องนาลา, วัชรินทร์ กองสอน และพีรเดช อักษร เกมเริ่มมาครึ่งแรก เจ้าภาพ เปิดเกมบุกเข้าใส่ น.3 กิตติพงษ์ ป้องนาลา ได้บอลโยกหลอกแนวรับวัดโบสถ์ แล้วโยนบอลเข้ากลาง ธีรวุฒิ เนตรแสงศรี กระโดดโหม่งเต็มศรีษะ บอลลงพื้น พุ่งเข้าหาประตู วิรุฬห์ บุญยืน พุ่งปัดแต่ไม่พ้นบอลเสียบสามเหลี่ยมให้ เพชรบูรณ์ นำ 1-0 พอเสียประตู วัดโบสถ์ บุกคืน น.5 ภูริวัฒน์ ธงชัย ได้เตะฟรีคิกมาหน้าตู สิทธิพล มุตะระ เห็นท่าไม่ดีกระโดดปัด ออกหลังไป จากนั้นระหว่าง วัดโบสถ์ บุกเพลินๆ น.23 เพชรบูรณ์ ได้โต้กลับครั้งเดียว กิติพงษ์ เลี้ยงบอลจี้เข้าหาประตู แล้วแปเล่นทางบอลชนเสาเข้าไป หนีไปอีก 2-0 แต่ วัดโบสถ์ ไม่ลดความพยายาม ภูริวัฒน์ ธงชัย มาซัดประตูตีไข่แตกให้ทีม น.39 ไล่มา 1-2 ในครึ่งแรก เปิดมาครึ่งหลัง เกมทั้งสองทีมผลัดกันบุก ได้จังหวะหวาดเสียวทีมละ 2 ครั้ง ก่อนที่ น. ทีมจากพิษณุโลก ได้เฮ น.52 เมื่อ วีรพงษ์ เพ็งเพชร ยิงบอลพุ่งเข้าหาประตู สิทธิพล มุตะระ ปัด ออกมาไปเข้าเท้า อาทิตย์ คชสิทธิ์ สกัดเข้าประตูตัวเอง ให้ วัดโบสถ์ ตามมาเสมอ 2-2 ทำให้เกมกลับมาเร้าใจมากขึ้น ทั้งสองทีมเริ่มกดดันจนต้องเล่นหนักส่งให้กรรมการแจกใบเหลืองหลายใบ ช่วงท้าย เกมวัดโบสถ์ บุกกดดันอย่างหนักแต่แนวรับของเจ้าถิ่นเตะทิ้งอย่างเดียวจนหมดเวลา เสมอกันไป 2-2 ทำให้ เพชรบูรณ์ เอฟซี มีผลงาน ชนะ 1 เสมอ 2 เกม มี 5 คะแนน ผ่านเข้ารอบเป็นที่ 2 ของสาย ซี ส่วน วัดโบสถ์ ตกรอบแรก กำแพงเพชร เอฟซี 0-1 พิษณุโลก เอฟซี ที่สนามหล่มสักสเตเดี้ยม เป็นการพบกันของสายบี ระหว่าง กำแพงเพชร เอฟซี พบกับ พิษณุโลก เอฟซี โดยทั้งคู่ต่างมี 3 คะแนนด้วยกันแต่ กำแพงเพชร เอฟซี ประตูได้เสียน้อยกว่า ฉะนั้นต้องชนะให้ได้สถานเดียวส่วน พิษณุโลก เอฟซี ของเพียงเสมอก็จะเข้ารอบ สำหรับ 11 คนแรกของ พิษณุโลก เอฟซี ประกอบด้วย โรเบิร์ต สมอลล์, ฐิติวุฒิ อภิวัน, กรกช กล่ำดี, ณัฐวุฒิ ธงชัย, ศิวพล สิทธิศักดิ์, ชัยวัฒน์ ทุ่งทอง, ธนภัทร สุขทั่ง, ชุติวัต คะปานา, สหรัฐ สงบภัย, นธารินทร์ กลิ่นศรี และ ณัฐพงษ์ บุตรศรีสุทธิ์ เป็นผู้รักษาประตู ขณะที่ 11 คนแรกของ กำแพงเพชร เอฟซี ประกอบด้วย มงคลกรณ์ สุขเกิด, เฉลิมพล จ้ายมิ, จุลจักษ์ สอนเฒ่า, กฤษฎา เจนจบ, เกื้อกูล สมดี, ปรีชา เสือบัว, ศกุล ภูน้อย, วุฒิกร แต้ม งาม, ธนากร ขวัญมณีกุล, พงษ์เพชร การเกตุ และ ภานุเดช พ่วงแพ เป็นผู้รักษาประตู โดยเกมนี้มาสนุกเอาตอนช่วงท้ายเกมที่ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมรุกใส่กันจนกระทั่งในนาทีที่ 85 เป็นทาง พิษณุโลก เอฟซี ได้เฮ ขึ้นนำ 1-0 จาก ศิวพล สิทธิศักดิ์ และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กำแพงเพชร เอฟซี ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ กฤษฎา เจนจบ โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม และสุดท้ายก็เป็น พิษณุโลก เอฟซี ที่เอาชนะไป 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ชัยนาท ฮอร์นบิล 3-0 สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี คู่สอง เป็นการพบกันของสายซี ระหว่าง ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ชนะ 1 นัด เสมอ 1 นัด พบกับ สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี ที่แพ้ 2 นัด โดย 11 คนแรกของ ชัยนาท ฮอร์นบิล ประกอบด้วย อาทิตย์ ห้วยลึก, กิตติพงศ์ ฟุ้งเฟือง, ชัยวัฒน์ บุญศรี, พุฒิพงษ์ บุญยอด, ธนกฤต เรือนเพ็ชร์, ศิวกร แก้วพานทอง, ธัชนนท์ อินทร์วิเศษ, จักภัทร วงศ์จันทร์, สุรชัย ภูต้องใจ, วัชระ จันทร์ชัย และ สธากร กุล บุญญา เป็นผู้รักษาประตู ขณะที่ 11 คนแรกของ สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี ประกอบด้วย ภิญโญ สมใจเพ็ง, ธนวรรษ โชติพรหม, กฤตเมธ อินทรกุล, สหัสวรรษ ทองดีนอก, ศุภกร อ่อดเล่ง, รณสิทธิ์ เฟื่องดี, ณัฐวุฒิ หลงโดย, อนุรักษ์ ปิดตาฝ้าย, ธรรพ์ธร ทองมีศรี, ธีรทัศน์ พงษ์เวียงจันทร์ และ ปริญญา กรัตพงษ์ เป็นผู้รักษาประตู และเป็นทาง ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ออกนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 33 จาก ธนกฤต เรือนเพชร จากนั้นขยับเป็น 2-0 ในนาทีที่ 39 จาก สุรชัย ภูต้องใจ และก่อนหมดครึ่งแรก ศิวกร แก้วพานทอง มาทำประตูให้ ชัยนาท ฮอร์นบิล หนีห่างเป็น 3-0 ส่วนครึ่งหลังไม่มีใครทำสกอร์ได้ทำให้จบเกมเป็น ชัยนาท ฮอร์นบิล เอาชนะไป 3-0 มี 7 คะแนน เข้ารอบรองชนะเลิศ
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ วันที่ 29 ต.ค.62 แข่งขันกันที่ สนามหล่มสักสเตเดี้ยม คู่แรกเวลา 13.00 น. พิษณุโลก เอฟซี พบกับ เพชรบูรณ์ เอฟซี และคู่ที่สอง เวลา 15.30 น. ระหว่าง ลพบุรี เอฟซี พบกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 24, 2024
November 21, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
แข้ง นครสวรรค์ เอฟซี น้ำตาร่วง พับสนามบุกใส่ สมาคมกีฬา จพิจิตร ตลอดทั้งเกม ไล่ยิง 60 นาทีแรก ยิงไป 5 ลูก แต่ไม่เพียงพอ เจอมหาอุดเมืองชาลาวัน เอาอยู่ ทำให้จบเกม เด็ก
ปากน้ำโพ ทำสกอร์ได้ไม่ตามเป้า 5-0 ทำผลงานชนะ 1 เสมอ 1 เท่ากับ ทีม ลพบุรี เอฟซี แต่ผลประตูได้เสียแข้งเมืองลิงดีกว่า 1 ลูก ทะลุรอบรองชนะเลิศ เป็นที่ 1 สาย เอ ศึกฟุตบอล เยาวชนอายุ 19 ปี
ชิงแชมป์ประเทศไทย หรือบอลโค้กคัพ ภาคเหนือตอนล่าง ขณะที่เจ้าภาพ เพชรบูรณ์ เอฟซี ออกสตาร์ทดี ยิงนำ วัดโบสถ์ 2-0 แต่แข้งจากพิษณุโลก ฮึดสู้ไล่มาเสมอ 2-2 เกือบส่งเจ้าภาพตกรอบ แต่วัดโบสถ์
ทำได้แค่เสมอ ทำให้ เพชรบูรณ์ ทะลุรอบตัดเชือก เป็นที่ 2 สาย ซี ส่วนที่ 1 ชัยนาท ฮอร์นบิล ไล่ถล่ม สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี 3-0 และ พิษณุโลก เอฟซี พิขิต กำแพงเพชร เอฟซี 1-0 ฉลุยรอบรองฯ
การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รายการ “โค้กคัพ” ครั้งที่ 21 รอบคัดเลือกกลุ่มที่ 5 โซนภาคเหนือตอนล่าง ระหว่างวันที่ 25-30 ต.ค
.2562 ที่สนามหล่มสัก สเตเดี้ยม และ ม.การกีฬาแห่งชาติ เพชรบูรณ์ มีทั้งหมด 10 ทีมเข้าร่วมชิงชัย โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบแรกวันสุดท้าย
นครสวรรค์ เอฟซี 5 ส.กีฬาแห่งจ.พิจิตร 0
คู่แรกสายเอ เป็นการพบกันระหว่าง นครสวรรค์ เอฟซี ซึ่งลงสนามมาแล้ว 1 นัด มี 1 คะแนน จากการเสมอ ลพบุรี เอฟซี เละ 0-6 ทำให้เกมนี้ ไม่มีความหมายต่อ พิจิตร ตกรอบแน่
นอนแล้ว ขณะที่ นครสวรรค์ ต้องถล่มประตูคู่แข่งให้มากกว่า 6 ลูกถึงจะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
โดยผู้เล่น 11 คนแรกของ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วย รัชชานนท์ ส่องแก้ว, พิษณุ สีบุตรา, อธิวัฒน์ จันทรเขียว, พงษ์พันธ์ วงศ์พนาเวศ, ก้องเกียรติ หมื่นฤทธิ์, ปฌิธาน
ศรีนาราง, ธนกฤต คลังเพชร, เทพมงคล บุตรเจริญ, อภิสิทธิ์ มาตราช, ปภาวิน กันเพชร และกิตติธัชจันเทศ เป็นผู้รักษาประตู
ขณะที่ 11 คนแรก นครสวรรค์ เอฟซี ประกอบด้วย จิรายุทธ (ผู้รักษาประตู), พิษณุ จันนาค, ภูม บุษบรรณ ณัฐพนธ์ ภูแม่น้ำ, อนาวิน แพพึ่ง, ปฐมพร อ้นทอง, นพดล สุทธิประภา,
อดุลย์ลิขิต แสงแดง, วิศรุจน์ ศรีบุรินทร์, ชนภัทร เพาะปลูก และอดิศักดิ์ สุดมั่งมี
เริ่มเกมมาครึ่งแรก นักเตะจากเมืองปากน้ำโพ เดินหน้าเข้าใส่ เพื่อหวังทำประตูให้เร็วที่สุด เน้นเปิดบอลจากด้านข้างเข้าหน้าปรตูพิจิตร แต่ยังเจาะประตูไม่ได้ในช่วงแรก จน น.29
นครสวรรค์ เปิดสกอร์แรกได้ จากการโยนมาจากริมเส้นด้านซ้าย เข้ามากลางประตู อนาวิน แพพึ่ง ยิงเข้าประตูไป นำ 1-0 พอเปิดซิงได้ถัดมานาทีเดียว อนาวิน คนเดิม ได้บอลหลุดเดี่ยวแปข้ามหัวผู้
รักษาประตูเข้าไป หนีไป 2-0 เกมของนครสวรรค์ บุกแหลก น.42 อนาวิน โยนบอลจากขวามาหน้าประตู นพดล สุทธิประภา กระดกบอลข้ามประตูเข้าไปอีกนำห่าง 3-0 แต่เกมยังไม่จบครึ่งแรก ช่วงทด
เวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ชนภัทร เพาะปลูก เตะฟรีคิกเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ นครสวรรค์ นำ 4-0
ครึ่งหลัง นักเตะจากเมืองปากน้ำโพต้องการอีก 2 ประตูจะยิงเท่าลพบุรี ซึ่งเกมยังคงเป็นวันเวย์ นครสวรรค์พับสนามบุก โดยน.63 นักเตะนครสวรรค์ได้บอลมาจากมุมขวาเข้ากลางให้
วีรพงศ์ อ้อนเพียร ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาบุกได้บอลเลี้ยงเข้าเขตโทษ มาโดน ปภาวิน กันเพชร รวบในเขตโทษ กรรมการไม่รีรอเป่าให้จุดโทษ นพดล สุทธิประภา ซัดจุดโทษไม่พลาดให้ทีมนำไปไกล 5-0
จากนั้นเกมของ นครสวรรค์ ยังเดินหน้าบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่กองหลังพิจิตร สวมมหาอุดเตะสกัดออกได้หมด จน น.90 นพดล เปิดบอลจากข้างมาหน้าประตู ประตูพิจิตรโดดจั่วลม แต่ ชนภัทร โหม่งเต็มหัว
บอลข้ามคานไปนิดเดียว ช่วงทดเวลา 5 นาที นครสวรรค์ น่าจะได้อีก 2 ประตู แต่ยิงให้ประตูและกองหลังสกัดออกไปอย่างสุดเสียดาย หมดเวลา นครสวรรค์ เอฟซี ชนะ 5-0 ทำผลงานชนะ 1 เสมอ 1 มี 4
คะแนน เท่ากับ ลพบุรี เอฟซี ต้องตัดสินกันที่ประตูได้เสีย ซึ่ง ลพบุรี ยิงได้มากกว่า 1 ลูก ส่งให้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ส่วน นครสวรรค์ ตกรอบไปกับ ส.กีฬาแห่งจ.พิจิตร
วัดโบสถ์ ซิตี้ 2 เพชรบูรณ์ เอฟซี 2
ขณะที่ในสาย ซี เป็นการแข่งขันในเกมที่ 3 ระหว่าง เจ้าภาพ เพชรบูรณ์ เอฟซี ที่ลงสนามมา 2 เกม ชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนน พบกับ วัดโบสถ์ ซิตี้ นักเตะจากพิษณุโลก ที่ลงสนามมา
2 เกม ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน ซึ่งเกมนี้ ถ้าทีมไหนเอาชนะได้จะผ่านเข้ารอบตัดเชือกทันที แต่ถ้าเจ้าภาพ เพชรบูรณ์ เสมอได้จะฉลุยเข้ารอบเขี่ย วัดโบสถ์ตกรอบทันที
โดยเกมนี้วัดโบสถ์ ซิตี้ ส่งผู้เล่นชุดเดิมครบชุด 11 คนแรก ประกอบด้วย วิรุฬห์ บุญยืน (ผู้รักษาประตู), ปิยะชัย ล้านพลแสน, อรรถฤทธิ์ นวนน่วม, เนติพงษ์ สิงมาดา, วชิรภัทร วิก
วฤกษ์มงคล, อมรพงษ์ สอนแหยม, ภูริวัฒน์ ธงชัย, ศรันย์ ทัดเที่ยง, วีรพงษ์ เพ็งเพชร, สุธเนตร นิลสนธิ และเจษฏากร นวลทิม
ส่วนเพชรบูรณ์ ส่ง 11 ผู้เล่นลงสนาม ประกอบด้วย สิทธิพล มุตะระ (ผู้รักษาประตู), กฤตนัย สมอ่อน, ชนะชัย พรมโครตค้า, อาทิตย์ คชสิทธิ์,วงศพัทธ์ เงินมา, ธีรวุฒิ เนตรแสงศรี,
ภาณุวิญ์ อุมาลี, พลจรัตน์ ศรีตะเมา, กิตติพงษ์ ป้องนาลา, วัชรินทร์ กองสอน และพีรเดช อักษร
เกมเริ่มมาครึ่งแรก เจ้าภาพ เปิดเกมบุกเข้าใส่ น.3 กิตติพงษ์ ป้องนาลา ได้บอลโยกหลอกแนวรับวัดโบสถ์ แล้วโยนบอลเข้ากลาง ธีรวุฒิ เนตรแสงศรี กระโดดโหม่งเต็มศรีษะ บอลลงพื้น
พุ่งเข้าหาประตู วิรุฬห์ บุญยืน พุ่งปัดแต่ไม่พ้นบอลเสียบสามเหลี่ยมให้ เพชรบูรณ์ นำ 1-0 พอเสียประตู วัดโบสถ์ บุกคืน น.5 ภูริวัฒน์ ธงชัย ได้เตะฟรีคิกมาหน้าตู สิทธิพล มุตะระ เห็นท่าไม่ดีกระโดดปัด
ออกหลังไป จากนั้นระหว่าง วัดโบสถ์ บุกเพลินๆ น.23 เพชรบูรณ์ ได้โต้กลับครั้งเดียว กิติพงษ์ เลี้ยงบอลจี้เข้าหาประตู แล้วแปเล่นทางบอลชนเสาเข้าไป หนีไปอีก 2-0 แต่ วัดโบสถ์ ไม่ลดความพยายาม
ภูริวัฒน์ ธงชัย มาซัดประตูตีไข่แตกให้ทีม น.39 ไล่มา 1-2 ในครึ่งแรก
เปิดมาครึ่งหลัง เกมทั้งสองทีมผลัดกันบุก ได้จังหวะหวาดเสียวทีมละ 2 ครั้ง ก่อนที่ น. ทีมจากพิษณุโลก ได้เฮ น.52 เมื่อ วีรพงษ์ เพ็งเพชร ยิงบอลพุ่งเข้าหาประตู สิทธิพล มุตะระ ปัด
ออกมาไปเข้าเท้า อาทิตย์ คชสิทธิ์ สกัดเข้าประตูตัวเอง ให้ วัดโบสถ์ ตามมาเสมอ 2-2 ทำให้เกมกลับมาเร้าใจมากขึ้น ทั้งสองทีมเริ่มกดดันจนต้องเล่นหนักส่งให้กรรมการแจกใบเหลืองหลายใบ ช่วงท้าย
เกมวัดโบสถ์ บุกกดดันอย่างหนักแต่แนวรับของเจ้าถิ่นเตะทิ้งอย่างเดียวจนหมดเวลา เสมอกันไป 2-2 ทำให้ เพชรบูรณ์ เอฟซี มีผลงาน ชนะ 1 เสมอ 2 เกม มี 5 คะแนน ผ่านเข้ารอบเป็นที่ 2 ของสาย ซี
ส่วน วัดโบสถ์ ตกรอบแรก
กำแพงเพชร เอฟซี 0-1 พิษณุโลก เอฟซี
ที่สนามหล่มสักสเตเดี้ยม เป็นการพบกันของสายบี ระหว่าง กำแพงเพชร เอฟซี พบกับ พิษณุโลก เอฟซี โดยทั้งคู่ต่างมี 3 คะแนนด้วยกันแต่ กำแพงเพชร เอฟซี ประตูได้เสียน้อยกว่า
ฉะนั้นต้องชนะให้ได้สถานเดียวส่วน พิษณุโลก เอฟซี ของเพียงเสมอก็จะเข้ารอบ สำหรับ 11 คนแรกของ พิษณุโลก เอฟซี ประกอบด้วย โรเบิร์ต สมอลล์, ฐิติวุฒิ อภิวัน, กรกช กล่ำดี, ณัฐวุฒิ ธงชัย, ศิวพล
สิทธิศักดิ์, ชัยวัฒน์ ทุ่งทอง, ธนภัทร สุขทั่ง, ชุติวัต คะปานา, สหรัฐ สงบภัย, นธารินทร์ กลิ่นศรี และ ณัฐพงษ์ บุตรศรีสุทธิ์ เป็นผู้รักษาประตู
ขณะที่ 11 คนแรกของ กำแพงเพชร เอฟซี ประกอบด้วย มงคลกรณ์ สุขเกิด, เฉลิมพล จ้ายมิ, จุลจักษ์ สอนเฒ่า, กฤษฎา เจนจบ, เกื้อกูล สมดี, ปรีชา เสือบัว, ศกุล ภูน้อย, วุฒิกร แต้ม
งาม, ธนากร ขวัญมณีกุล, พงษ์เพชร การเกตุ และ ภานุเดช พ่วงแพ เป็นผู้รักษาประตู โดยเกมนี้มาสนุกเอาตอนช่วงท้ายเกมที่ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมรุกใส่กันจนกระทั่งในนาทีที่ 85 เป็นทาง พิษณุโลก เอฟซี
ได้เฮ ขึ้นนำ 1-0 จาก ศิวพล สิทธิศักดิ์ และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กำแพงเพชร เอฟซี ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ กฤษฎา เจนจบ โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม และสุดท้ายก็เป็น
พิษณุโลก เอฟซี ที่เอาชนะไป 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
ชัยนาท ฮอร์นบิล 3-0 สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี
คู่สอง เป็นการพบกันของสายซี ระหว่าง ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ชนะ 1 นัด เสมอ 1 นัด พบกับ สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี ที่แพ้ 2 นัด โดย 11 คนแรกของ ชัยนาท ฮอร์นบิล ประกอบด้วย
อาทิตย์ ห้วยลึก, กิตติพงศ์ ฟุ้งเฟือง, ชัยวัฒน์ บุญศรี, พุฒิพงษ์ บุญยอด, ธนกฤต เรือนเพ็ชร์, ศิวกร แก้วพานทอง, ธัชนนท์ อินทร์วิเศษ, จักภัทร วงศ์จันทร์, สุรชัย ภูต้องใจ, วัชระ จันทร์ชัย และ สธากร กุล
บุญญา เป็นผู้รักษาประตู
ขณะที่ 11 คนแรกของ สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี ประกอบด้วย ภิญโญ สมใจเพ็ง, ธนวรรษ โชติพรหม, กฤตเมธ อินทรกุล, สหัสวรรษ ทองดีนอก, ศุภกร อ่อดเล่ง, รณสิทธิ์ เฟื่องดี, ณัฐวุฒิ
หลงโดย, อนุรักษ์ ปิดตาฝ้าย, ธรรพ์ธร ทองมีศรี, ธีรทัศน์ พงษ์เวียงจันทร์ และ ปริญญา กรัตพงษ์ เป็นผู้รักษาประตู และเป็นทาง ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ออกนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 33 จาก ธนกฤต เรือนเพชร
จากนั้นขยับเป็น 2-0 ในนาทีที่ 39 จาก สุรชัย ภูต้องใจ และก่อนหมดครึ่งแรก ศิวกร แก้วพานทอง มาทำประตูให้ ชัยนาท ฮอร์นบิล หนีห่างเป็น 3-0 ส่วนครึ่งหลังไม่มีใครทำสกอร์ได้ทำให้จบเกมเป็น
ชัยนาท ฮอร์นบิล เอาชนะไป 3-0 มี 7 คะแนน เข้ารอบรองชนะเลิศ
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ วันที่ 29 ต.ค.62 แข่งขันกันที่ สนามหล่มสักสเตเดี้ยม คู่แรกเวลา 13.00 น. พิษณุโลก เอฟซี พบกับ เพชรบูรณ์ เอฟซี และคู่ที่สอง
เวลา 15.30 น. ระหว่าง ลพบุรี เอฟซี พบกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 ช่วยเหลือเหตุเรืออับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา
November 24, 2024
JUBILEE DIAMOND ฉลองครบรอบ 95 ปี เปิดบ้าน THE ...
November 24, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024