กก.สส.บก.น.1 จับกุมร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น ,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ น่าสนใจ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ , พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงประชาชนแฝงตัวเป็นบุคคลอื่นในโลกออนไลน์ เพื่อเข้ามายืมเงินจนได้รับความเสียหายหลายรายและเงินเป็นจำนวนมาก มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.๑ , พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.๑ , พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผกก.สส.บก.น. 1 , พ.ต.ต.กฤษฎา นาคประสิทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น. 1 ได้ร่วมกันทำการจับกุม 1. นายอรรถยาหรืออุ้ย ศศิธร อายุ ๒๘ ปี บ้านเลขที่ ๒๔๙ ม.๕ ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน บัตรประจำตัวประชาชน ๑-๑๐๐๕-๐๐๖๐๘-๒๗-๗ (Hacker) 2.นายปฐมศิลป์ หรือไก่ จำเริญสม อายุ ๓๕ ปี บ้านเลขที่ ๑๔๓ ม.๙ ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ บัตรประจำตัวประชาชน ๕-๖๗๐๕-๐๐๑๑๖-๗๓-๙ (คนรับส่งเงิน) 3. นางวิลาศิณี หรือนิด มาลาวัยจันทร์ อายุ ๓๙ ปี บ้านเลขที่ ๙ ม.๗ ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช บัตรประจำตัวประชาชน ๓-๘๐๑๔-๐๐๔๓๐-๙๕-๐ (คนถอนเงิน) 4. น.ส.ณภัสสรณ์ หรือแหวว ธนพลจรัสไชย อายุ ๓๖ บ้านเลขที่ ๑ ม.๔ ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร บัตรประจำตัวประชาชน ๓-๖๖๐๘-๐๐๓๒๒-๗๗-๐ (คนถอนเงิน) สถานที่จับกุม ผู้ต้องหาที่ ๑-๒ ได้ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า ถ.จรัลสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม. และผู้ต้องหาที่ ๓-๔ ได้ที่กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล ๑ โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น ,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อี่นโดยมิชอบในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น หรือประชาชนซึ่งออกให้ผู้มีสิทธิ์ในการเบิกถอน เงินสด หรือรับของโจร ” ตามหมายจับศาลอาญา พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึดได้ 1. ธนบัตรเงินสดจำนวน ๑๗๐,๐๐๐ บาท 2. โทรศัพท์มือถือจำนวน ๑๐ เครื่อง
3. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยพร้อมบัตร ATM ที่ใช้ในการก่อเหตุ 4. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวน ๑ เครื่อง 5. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อดูคาร์ติจำนวน ๑ คัน (เป็นทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบ) 6. รถยนต์นิสสันยี่ห้อ๓๕๐z จำนวน ๑ คัน (เป็นทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบ) พฤติการณ์การกระทำความผิด คือ กลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มแฮกเกอร์และม้าถอนเงิน โดยมีนายอรรถยาฯ ทำหน้าที่เป็นแฮกเกอร์ เจาะข้อมูลเว็ปไซต์ลงโฆษณาฟรีที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้บริการและสมัครสมาชิก เพื่อเอาข้อมูลอีเมล์และพาสเวิร์ดมาทดสอบเข้าแอปพลิเคชันไลน์ของผู้อื่น เมื่อพบว่าอีเมล์ที่ได้มาผูกกับบัญชีไลน์ นายอรรถยาฯ ก็จะเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่แล้วก็นำอีเมล์ดังกล่าวมาลงทะเบียนเข้าแอปพลิเคชั่นไลน์ปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น แล้วตระเวนทักบุคคลที่เชื่อว่าน่าจะรู้จักเพื่อขอยืมเงินโดยอ้างเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องการใช้เงิน เมื่อบุคคลที่ถูกหลอกหลงเชื่อ ก็จะส่งบัญชีธนาคารของผู้อื่นซึ่งได้จากการประกาศให้กู้ยืมเงินเพื่อหลอกเอาบัญชีมาใช้กระทำความผิด และก็จะให้นางวิลาศิณีฯ และน.ส.ณภัสสรณ์ฯ ซึ่งทำหน้าที่ม้าถอนเงินไปกดเงินออกจนหมดทันที และนำเงินมามอบให้กับนายปฐมศิลป์ฯ ซึ่งทำหน้าที่คนรับเงินส่งให้กับนายอรรถยาฯ แฮกเกอร์อีกทอดหนึ่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียหาย จำนวนกว่า ๑๕ ราย ความเสียหายประมาณ ๑.๒ ล้านบาทเศษ เข้าแจ้งความไว้หลายท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกลุ่มคนร้าย ในความผิดดังกล่าว พงส. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมาย และจนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว รายละเอียดความเสียหาย ดังนี้ 1. สน.ห้วยขวาง ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท 2. สน.หัวหมาก ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๕,๐๐๐ บาท ๓. สน.บางเขน ๑ ราย ความเสียหายรวม ๕๐,๐๐๐ บาท ๔. สน.ปทุมวัน ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท ๕. สน.สายไหม ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท ๖. สภ.ปากเกร็ด ๑ ราย ความเสียหายรวม ๒๐,๐๐๐ บาท ๗. สภ.เมืองอุดรธานี ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๔๐,๐๐๐ บาท ๘. สภ.เมืองหนองคาย ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๐๐,๐๐๐ บาท ๙. สภ.บางแก้ว ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๖๐,๐๐๐ บาท ๑๐.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ๑ ราย ความเสียหายรวม ๒๕๐,๐๐๐ บาท ๑๑. สภ.เมืองนนทบุรี ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๐๐,๐๐๐ บาท รวมมูลค่าความเสียหาย ๑,๒๘๕,๐๐๐ บาท ฝากรบกวนสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนโดยทั่วไปให้ระมัดระวัง ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เว็บไซต์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก , แอปพลิเคชันแปลกปลอม , เว็บไซต์ที่ความปลอดภัยส่วนบุคคลไม่มีมาตราฐาน ซึ่งคนร้ายอาจจะนำข้อมูลของท่านเจาะเข้าฐานข้อมูลส่วนบุคคลและนำมาใช้ในการกระทำผิดได้ หรือหากต้องการให้ผู้ใดยืมเงินให้ทำการตรวจสอบให้ดี โดยทำการโทรศัพท์สอบถามผู้ขอยืมเงินอีกครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องยืนยันการ ยืมเงิน และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหาย.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ตำรวจนครบาลจับกุมประชาชนหลอกลวงยืมเงินในโลกออนไลน์
กก.สส.บก.น.1 จับกุมร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น ,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จฯ
ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ น่าสนใจ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ , พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงประชาชนแฝงตัวเป็นบุคคลอื่นในโลกออนไลน์ เพื่อเข้ามายืมเงินจนได้รับความเสียหายหลายรายและเงินเป็นจำนวนมาก มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.๑ , พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.๑ , พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผกก.สส.บก.น. 1 , พ.ต.ต.กฤษฎา นาคประสิทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น. 1
ได้ร่วมกันทำการจับกุม
1. นายอรรถยาหรืออุ้ย ศศิธร อายุ ๒๘ ปี บ้านเลขที่ ๒๔๙ ม.๕ ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน บัตรประจำตัวประชาชน ๑-๑๐๐๕-๐๐๖๐๘-๒๗-๗ (Hacker)
2.นายปฐมศิลป์ หรือไก่ จำเริญสม อายุ ๓๕ ปี บ้านเลขที่ ๑๔๓ ม.๙ ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ บัตรประจำตัวประชาชน ๕-๖๗๐๕-๐๐๑๑๖-๗๓-๙ (คนรับส่งเงิน)
3. นางวิลาศิณี หรือนิด มาลาวัยจันทร์ อายุ ๓๙ ปี บ้านเลขที่ ๙ ม.๗ ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช บัตรประจำตัวประชาชน ๓-๘๐๑๔-๐๐๔๓๐-๙๕-๐ (คนถอนเงิน)
4. น.ส.ณภัสสรณ์ หรือแหวว ธนพลจรัสไชย อายุ ๓๖ บ้านเลขที่ ๑ ม.๔ ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร บัตรประจำตัวประชาชน ๓-๖๖๐๘-๐๐๓๒๒-๗๗-๐ (คนถอนเงิน)
สถานที่จับกุม ผู้ต้องหาที่ ๑-๒ ได้ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า ถ.จรัลสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม. และผู้ต้องหาที่ ๓-๔ ได้ที่กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล ๑
โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น ,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อี่นโดยมิชอบในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น หรือประชาชนซึ่งออกให้ผู้มีสิทธิ์ในการเบิกถอน เงินสด หรือรับของโจร ” ตามหมายจับศาลอาญา
พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึดได้
1. ธนบัตรเงินสดจำนวน ๑๗๐,๐๐๐ บาท
2. โทรศัพท์มือถือจำนวน ๑๐ เครื่อง
3. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยพร้อมบัตร ATM ที่ใช้ในการก่อเหตุ
4. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวน ๑ เครื่อง
5. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อดูคาร์ติจำนวน ๑ คัน (เป็นทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบ)
6. รถยนต์นิสสันยี่ห้อ๓๕๐z จำนวน ๑ คัน (เป็นทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบ)
พฤติการณ์การกระทำความผิด คือ กลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มแฮกเกอร์และม้าถอนเงิน โดยมีนายอรรถยาฯ ทำหน้าที่เป็นแฮกเกอร์ เจาะข้อมูลเว็ปไซต์ลงโฆษณาฟรีที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้บริการและสมัครสมาชิก เพื่อเอาข้อมูลอีเมล์และพาสเวิร์ดมาทดสอบเข้าแอปพลิเคชันไลน์ของผู้อื่น เมื่อพบว่าอีเมล์ที่ได้มาผูกกับบัญชีไลน์ นายอรรถยาฯ ก็จะเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่แล้วก็นำอีเมล์ดังกล่าวมาลงทะเบียนเข้าแอปพลิเคชั่นไลน์ปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น แล้วตระเวนทักบุคคลที่เชื่อว่าน่าจะรู้จักเพื่อขอยืมเงินโดยอ้างเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องการใช้เงิน เมื่อบุคคลที่ถูกหลอกหลงเชื่อ ก็จะส่งบัญชีธนาคารของผู้อื่นซึ่งได้จากการประกาศให้กู้ยืมเงินเพื่อหลอกเอาบัญชีมาใช้กระทำความผิด และก็จะให้นางวิลาศิณีฯ และน.ส.ณภัสสรณ์ฯ ซึ่งทำหน้าที่ม้าถอนเงินไปกดเงินออกจนหมดทันที และนำเงินมามอบให้กับนายปฐมศิลป์ฯ ซึ่งทำหน้าที่คนรับเงินส่งให้กับนายอรรถยาฯ แฮกเกอร์อีกทอดหนึ่ง
จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียหาย จำนวนกว่า ๑๕ ราย ความเสียหายประมาณ ๑.๒ ล้านบาทเศษ เข้าแจ้งความไว้หลายท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกลุ่มคนร้าย ในความผิดดังกล่าว พงส. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมาย และจนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว รายละเอียดความเสียหาย ดังนี้
1. สน.ห้วยขวาง ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท
2. สน.หัวหมาก ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๕,๐๐๐ บาท
๓. สน.บางเขน ๑ ราย ความเสียหายรวม ๕๐,๐๐๐ บาท
๔. สน.ปทุมวัน ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท
๕. สน.สายไหม ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท
๖. สภ.ปากเกร็ด ๑ ราย ความเสียหายรวม ๒๐,๐๐๐ บาท
๗. สภ.เมืองอุดรธานี ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๔๐,๐๐๐ บาท
๘. สภ.เมืองหนองคาย ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๐๐,๐๐๐ บาท
๙. สภ.บางแก้ว ๒ ราย ความเสียหายรวม ๑๖๐,๐๐๐ บาท
๑๐.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ๑ ราย ความเสียหายรวม ๒๕๐,๐๐๐ บาท
๑๑. สภ.เมืองนนทบุรี ๑ ราย ความเสียหายรวม ๑๐๐,๐๐๐ บาท
รวมมูลค่าความเสียหาย ๑,๒๘๕,๐๐๐ บาท
ฝากรบกวนสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนโดยทั่วไปให้ระมัดระวัง ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เว็บไซต์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก , แอปพลิเคชันแปลกปลอม , เว็บไซต์ที่ความปลอดภัยส่วนบุคคลไม่มีมาตราฐาน ซึ่งคนร้ายอาจจะนำข้อมูลของท่านเจาะเข้าฐานข้อมูลส่วนบุคคลและนำมาใช้ในการกระทำผิดได้ หรือหากต้องการให้ผู้ใดยืมเงินให้ทำการตรวจสอบให้ดี โดยทำการโทรศัพท์สอบถามผู้ขอยืมเงินอีกครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องยืนยันการ ยืมเงิน และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหาย.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024