สุรินทร์ – เมืองช้างเปิดยิ่งใหญ่งานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ งานบุญเดือนสิบ อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ ด้วยขบวนแห่เครื่องเซ่นไหว้ที่มากที่สุดในโลก
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ย. จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยประชาชน นักเรียน นักศึกษา และส่วนราชการต่างๆ จัดขบวนแห่เครื่องเซ่นไหว้บูชา หรือเครื่องแซนโฎนตา ที่มากที่สุดในโลก เคลื่อนขบวนจากศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เดินทางไปยังอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อประกอบพิธีเปิดงานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ประจำปี 2562 ครั้งที่ 13 เพื่ออนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมของชาวสุรินทร์ และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณทั้งในอดีตและปัจจุบัน พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์
ภายในขบวนแห่ มีการจัดสำรับเครื่องเซ่นไหว้บูชา หรือเครื่องแซนโฎนตาต่างๆ อย่างสวยงาม พร้อมขบวนศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านต่างๆ ทั้งการร่ายรำประกอบเพลงกันตรึมพื้นบ้าน เพลงกลองยาว อย่างสนุกสนาน รวมไปถึงขบวนแฟนซีสร้างสีสันของเด็กนักเรียน ขบวนชวนทำบุญ ขบวนจักรยานสามล้อปั่น ขบวนรถไฟราง ขบวนหาบเงินหาบทอง หาบของเซ่นไหว้บูชาต่างๆ อย่างสวยงาม นำโดยขบวนช้างเผือกที่ทาสีและตกแต่งเป็นช้างเผือกอย่างสวยงามอลังการ รวมทั้งขบวนพระสงฆ์นั่งบนหลังช้าง เป็นขบวนแห่ที่ยาวเหยียดและยิ่งใหญ่ ท่ามกลางความสนใจจากประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
จากนั้น เวลา 17.00 น. ที่หน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผวจ.สุรินทร์ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ประจำปี 2562 ก่อนที่ผู้ว่าฯ สุรินทร์ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ จะรับมอบเครื่องจูนโฎนตา และร่วมกันประกอบพิธีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ต่อหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยเครื่องเซ่นไหว้บูชา หรือเครื่องแซนโฎนตาที่มากที่สุดในโลก ที่วางเรียงรายอยู่รอบอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ทั้งอาหารคาวหวาน ข้าวต้มมัด ขนมพื้นเมือง ผลไม้ หัวหมู ไก่ต้ม ผ้าไหม เครื่องดื่มน้ำหวาน และสุราต่างๆ ที่จัดเป็นสำรับไว้เซ่นไหว้จำนวนมาก ก่อนที่พระสงฆ์จะสวดอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว จากนั้นเวลา 18.30 น.จึงได้มีการแสดงแสงสีเสียงตำนานแซนโฎนตาบูชาบรรพบุรุษ
งานประเพณีแซนโฎนตา เป็นงานประเพณีที่มีความสำคัญยิ่งต่อประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นการแสดงความรัก ความเอื้ออาทรต่อบุพการีผู้มีพระคุณ เป็นการจรรโลงสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ควรแก่การช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามเหล่านี้ไว้ เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไป
ทั้งนี้ วันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ชาวสุรินทร์จะพร้อมใจกันหยุดภาระหน้าที่การงานทั้งหมดและนัดหมายไปรวมกัน ณ บ้านที่เป็นศูนย์กลางของครอบครัว เพื่อไหว้บรรพบุรุษของตนเองที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ยังเป็นกุศโลบายของบรรพบุรุษ ที่มีจุดมุ่งหมายให้ลูกหลานได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ และมีโอกาสได้พบปะเครือญาติเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 24, 2024
November 21, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
เมืองช้างเปิดยิ่งใหญ่! งานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษด้วยเครื่องเซ่นไหว้มากที่สุดในโลก
สุรินทร์ – เมืองช้างเปิดยิ่งใหญ่งานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ งานบุญเดือนสิบ อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ ด้วยขบวนแห่เครื่องเซ่นไหว้ที่มากที่สุดในโลก
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ย. จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยประชาชน นักเรียน นักศึกษา และส่วนราชการต่างๆ จัดขบวนแห่เครื่องเซ่นไหว้บูชา หรือเครื่องแซนโฎนตา ที่มากที่สุดในโลก เคลื่อนขบวนจากศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เดินทางไปยังอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อประกอบพิธีเปิดงานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ประจำปี 2562 ครั้งที่ 13 เพื่ออนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมของชาวสุรินทร์ และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณทั้งในอดีตและปัจจุบัน พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์
ภายในขบวนแห่ มีการจัดสำรับเครื่องเซ่นไหว้บูชา หรือเครื่องแซนโฎนตาต่างๆ อย่างสวยงาม พร้อมขบวนศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านต่างๆ ทั้งการร่ายรำประกอบเพลงกันตรึมพื้นบ้าน เพลงกลองยาว อย่างสนุกสนาน รวมไปถึงขบวนแฟนซีสร้างสีสันของเด็กนักเรียน ขบวนชวนทำบุญ ขบวนจักรยานสามล้อปั่น ขบวนรถไฟราง ขบวนหาบเงินหาบทอง หาบของเซ่นไหว้บูชาต่างๆ อย่างสวยงาม นำโดยขบวนช้างเผือกที่ทาสีและตกแต่งเป็นช้างเผือกอย่างสวยงามอลังการ รวมทั้งขบวนพระสงฆ์นั่งบนหลังช้าง เป็นขบวนแห่ที่ยาวเหยียดและยิ่งใหญ่ ท่ามกลางความสนใจจากประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
จากนั้น เวลา 17.00 น. ที่หน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผวจ.สุรินทร์ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ประจำปี 2562 ก่อนที่ผู้ว่าฯ สุรินทร์ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ จะรับมอบเครื่องจูนโฎนตา และร่วมกันประกอบพิธีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ต่อหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยเครื่องเซ่นไหว้บูชา หรือเครื่องแซนโฎนตาที่มากที่สุดในโลก ที่วางเรียงรายอยู่รอบอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ทั้งอาหารคาวหวาน ข้าวต้มมัด ขนมพื้นเมือง ผลไม้ หัวหมู ไก่ต้ม ผ้าไหม เครื่องดื่มน้ำหวาน และสุราต่างๆ ที่จัดเป็นสำรับไว้เซ่นไหว้จำนวนมาก ก่อนที่พระสงฆ์จะสวดอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว จากนั้นเวลา 18.30 น.จึงได้มีการแสดงแสงสีเสียงตำนานแซนโฎนตาบูชาบรรพบุรุษ
งานประเพณีแซนโฎนตา เป็นงานประเพณีที่มีความสำคัญยิ่งต่อประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นการแสดงความรัก ความเอื้ออาทรต่อบุพการีผู้มีพระคุณ เป็นการจรรโลงสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ควรแก่การช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามเหล่านี้ไว้ เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไป
ทั้งนี้ วันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ชาวสุรินทร์จะพร้อมใจกันหยุดภาระหน้าที่การงานทั้งหมดและนัดหมายไปรวมกัน ณ บ้านที่เป็นศูนย์กลางของครอบครัว เพื่อไหว้บรรพบุรุษของตนเองที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ยังเป็นกุศโลบายของบรรพบุรุษ ที่มีจุดมุ่งหมายให้ลูกหลานได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ และมีโอกาสได้พบปะเครือญาติเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 ช่วยเหลือเหตุเรืออับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา
November 24, 2024
JUBILEE DIAMOND ฉลองครบรอบ 95 ปี เปิดบ้าน THE ...
November 24, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024