5 กรกฎาคม 2562 ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทาง หรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น การรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทาง อันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญและเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการ ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.อนุชา กิติวิภาต รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.ภูมินทร์ สิงหะสุต รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.นเรวิช สุคนธวิท รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ปฏิบัติราชการ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ,พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้ทุก สภ.ในสังกัด ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ดำเนินการตามมาตรการป้องปรามการแข่งรถในทาง (เด็กแว้น) ห้วงวันที่ 1-5 กรกฎาคม 2562 บัดนี้ ทุก สภ.ได้ดำเนินการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ตามมาตรการดังกล่าว โดยมีผลการปฏิบัติรวมทั้งสิ้น 302 คัน แยกเป็นแต่ละ สภ. ดังนี้
1. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 50 คัน
2. สภ.บางปะกง จำนวน 20 คัน
3. สภ.แสนภูดาษ จำนวน 20 คัน
๔. สภ.บ้านโพธิ์ จำนวน 10 คัน
5. สภ.บางคล้า จำนวน 19 คัน
๖. สภ.พนมสารคาม จำนวน 20 คัน
7. สภ.แปลงยาว จำนวน 20 คัน
8. สภ.ท่าตะเกียบ จำนวน 5 คัน
9. สภ.บางน้ำเปรี้ยว จำนวน 20 คัน
10. สภ.ฉิมพลี จำนวน 6 คัน
11. สภ.ราชสาสน์ จำนวน 5 คัน
12. สภ.บางขนาก จำนวน 5 คัน
13. สภ.วังคู จำนวน 5 คัน
14. สภ.คลองเขื่อน จำนวน 6 คัน
15. สภ.เขาหินซ้อน จำนวน 10 คัน
16. สภ.สนามชัยเขต จำนวน ๒๐ คัน
17. สภ.สาวชะโงก จำนวน 5 คัน
18. สภ.หนองแหน จำนวน 6 คัน
19. กก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จำนวน 20 คัน
โดยแยกเป็นความผิดที่ทำการตรวจยึดดังนี้
1. เปลี่ยนแปลงสภาพรถ 156 คัน
2. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 44 คัน
3. ไม่พกพาสำเนาคู่มือรถ 62 คัน
4. อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน 35 คัน
5. ไม่มีใบอนุญาตขับรถ 4 คัน
6. ไม่แสดงเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี – คัน
7. ขับรถประมาทหวาดเสียว 1 คัน
8. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ จับกุมร้านจำหน่ายอะไหล่ อุปกรณ์ส่วนควบของรถไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตรวจสอบ 35 แห่ง
9. ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 128 ท่อ
ข้อหาและอัตราโทษสำหรับความผิดที่เกี่ยวข้อง
1. ขับรถประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.43(3),157 อัตราโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท
2. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.43 (8),157 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับสูงสุด 10,000 บาท
3. เปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ (ดัดแปลงสภาพรถ) ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ม.14 , 60 อัตราโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
4. ขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ม.42, 66 อัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท
ในส่วนของผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กหรือเยาวชนออกมากระทำความผิด มีส่วนรับผิด ข้อหา บิดามารดาหรือผู้ปกครองสนับสนุนปล่อยปละละเลยให้เด็กหรือเยาวชนร่วมกลุ่มหรือมั่วสุม ให้แข่งรถในทาง ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ข้อ 2 อัตราโทษ – ตักเตือนทำทัณฑ์บน หรือให้วางเงินประกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหรือเยาวชนกระทำผิดอีก – หากเด็กหรือเยาวชนกระทำผิดซ้ำอีก บิดามารดา หรือผู้ปกครอง ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000บาท และริบเงินประกัน
ในส่วนของร้านซ่อมหรือตกแต่งรถ จะมีส่วนรับผิดในข้อหา ส่งเสริมหรือสนับสนุนให้การแข่งรถในทาง โดยการผลิต ครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ตามคำสั่ง คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ ข้อ 3 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 20,000 บาท.
ขอบคุณ : เรารักแปดริ้ว Welove8riew.com https://www.naewna.com/local/424457
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
May 27, 2025
May 26, 2025
May 25, 2025
May 23, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สยบแว้นแปดริ้ว! ปิดจังหวัดกวาดยกเข่ง ยึดรถ เช็คบิลอู่แต่งซิ่ง พ่อแม่ซวยโดนด้วย
5 กรกฎาคม 2562 ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทาง หรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น การรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทาง อันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญและเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการ ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.อนุชา กิติวิภาต รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.ภูมินทร์ สิงหะสุต รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.นเรวิช สุคนธวิท รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ปฏิบัติราชการ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ,พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้ทุก สภ.ในสังกัด ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ดำเนินการตามมาตรการป้องปรามการแข่งรถในทาง (เด็กแว้น) ห้วงวันที่ 1-5 กรกฎาคม 2562 บัดนี้ ทุก สภ.ได้ดำเนินการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ตามมาตรการดังกล่าว โดยมีผลการปฏิบัติรวมทั้งสิ้น 302 คัน แยกเป็นแต่ละ สภ. ดังนี้
1. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 50 คัน
2. สภ.บางปะกง จำนวน 20 คัน
3. สภ.แสนภูดาษ จำนวน 20 คัน
๔. สภ.บ้านโพธิ์ จำนวน 10 คัน
5. สภ.บางคล้า จำนวน 19 คัน
๖. สภ.พนมสารคาม จำนวน 20 คัน
7. สภ.แปลงยาว จำนวน 20 คัน
8. สภ.ท่าตะเกียบ จำนวน 5 คัน
9. สภ.บางน้ำเปรี้ยว จำนวน 20 คัน
10. สภ.ฉิมพลี จำนวน 6 คัน
11. สภ.ราชสาสน์ จำนวน 5 คัน
12. สภ.บางขนาก จำนวน 5 คัน
13. สภ.วังคู จำนวน 5 คัน
14. สภ.คลองเขื่อน จำนวน 6 คัน
15. สภ.เขาหินซ้อน จำนวน 10 คัน
16. สภ.สนามชัยเขต จำนวน ๒๐ คัน
17. สภ.สาวชะโงก จำนวน 5 คัน
18. สภ.หนองแหน จำนวน 6 คัน
19. กก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จำนวน 20 คัน
โดยแยกเป็นความผิดที่ทำการตรวจยึดดังนี้
1. เปลี่ยนแปลงสภาพรถ 156 คัน
2. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 44 คัน
3. ไม่พกพาสำเนาคู่มือรถ 62 คัน
4. อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน 35 คัน
5. ไม่มีใบอนุญาตขับรถ 4 คัน
6. ไม่แสดงเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี – คัน
7. ขับรถประมาทหวาดเสียว 1 คัน
8. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ จับกุมร้านจำหน่ายอะไหล่ อุปกรณ์ส่วนควบของรถไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตรวจสอบ 35 แห่ง
9. ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 128 ท่อ
ข้อหาและอัตราโทษสำหรับความผิดที่เกี่ยวข้อง
1. ขับรถประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.43(3),157 อัตราโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท
2. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.43 (8),157 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับสูงสุด 10,000 บาท
3. เปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ (ดัดแปลงสภาพรถ) ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ม.14 , 60 อัตราโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
4. ขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ม.42, 66 อัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท
ในส่วนของผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กหรือเยาวชนออกมากระทำความผิด มีส่วนรับผิด ข้อหา บิดามารดาหรือผู้ปกครองสนับสนุนปล่อยปละละเลยให้เด็กหรือเยาวชนร่วมกลุ่มหรือมั่วสุม ให้แข่งรถในทาง ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ข้อ 2 อัตราโทษ
– ตักเตือนทำทัณฑ์บน หรือให้วางเงินประกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหรือเยาวชนกระทำผิดอีก
– หากเด็กหรือเยาวชนกระทำผิดซ้ำอีก บิดามารดา หรือผู้ปกครอง ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000บาท และริบเงินประกัน
ในส่วนของร้านซ่อมหรือตกแต่งรถ จะมีส่วนรับผิดในข้อหา ส่งเสริมหรือสนับสนุนให้การแข่งรถในทาง โดยการผลิต ครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ตามคำสั่ง คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ ข้อ 3 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 20,000 บาท.
https://www.naewna.com/local/424457
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เชฟรอน-มูลนิธิรักษ์ไทย หนุนสตรีชายแดนใต้แปรรูปผลผลิตท้องถิ่น เสริมแกร่งเสาหลักครอบครัว สร้างรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน
May 27, 2025
โรงไฟฟ้าขนอมร่วมมหกรรมมหานครแห่งความสุข ครั้งที่ 3 หนุนเกษตรอินทรีย์ สร้างระบบอาหารปลอดภัย
May 26, 2025
“สงขลา พร้อม” เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเป็นเจ้าภาพเมื่อปีที่ผ่านมา
May 25, 2025
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำนครศรีธรรมราช ปล่อยกุ้งแชบ๊วย 2.7 ล้านตัว ดันเศรษฐกิจชุมชน-ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
May 23, 2025