“ผู้การแม็ก” นำทหารเข้าจับน้ำมันเถื่อน เครือข่าย “โกชัย” กลางทะเล อ.ขนอม พร้อมยึดเรือของกลาง น้ำมันดีเซลกว่า 8 หมื่นลิตร และสามารถหนีไปได้หนึ่งลำ ทั้งนี้พบกระบวนการค้าน้ำมันเถื่อนได้ติดตั้งท่อดูดจากกลางทะเลด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวานนี้ (1 ก.ค.) ที่บริเวณกลางทะเลอำเภอขนอม บริเวณอ่าวท้องโหนด ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กกล.ทพ./ผบ.นปพ.ได้รับมอบหมายจากแม่ทัพภาคที่ 4 ให้ติดตามจับกุมน้ำมันเถื่อนโดยได้สั่งการให้ พ.อ.จรัญ เอี่ยมฐานนท์ รอง ผบ.กกล.ทพ.จชต. ร่วมกับ พ.อ.สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง ผบ.นปพ.ร่วมกับชร, ร้อย รส.มทบ.41 และตำรวจ สภ.ขนอม ได้นำกำลังออกไปปฏิบัติการพบเรือประมง ป.ทองวัฒนา 2 และอีกหนึ่งลำซึ่งสามารถหลบหนีไปได้

เมื่อทหารได้ยึดเรือ ป.ทองวัฒนา พร้อมควบคุมไต้ก๋งเรือและลูกเรือรวม 9 คนนำเรือมาเข้าฝั่งที่บริเวณอ่าวท้องโหนด ต.ท้องเนียน อ.ขนอม และตรวจสอบพบน้ำมันเถื่อนจำนวน 8 หมื่นลิตร ส่วนอีกลำที่หลบหนีไปได้ คาดว่าน่าจะมีน้ำมันจำนวนใกล้เคียงกัน

จากการสอบสวนทราบว่า เรือน้ำมันลำดังกล่าวเป็นเรือของโกชัย ซึ่งได้เคยทำมาแล้วหลายครั้งโดยจะขับเรือประมงดัดแปลงออกไปเติมน้ำมันดีเซลกลางทะเล เพื่อนนำน้ำมันจากเรือแม่ที่จอดลอยลำอยู่กลางทะเลที่ลองจิจูด 100 ละติจูด 102 ใช้เวลาเดินทางราว 17-30 ชม.

ส่วนที่บริเวณชายฝั่งได้มีการฝังท่อและสายยางสำหรับดูดน้ำมันจากเรือที่จอดอยู่ในทะเลมาขึ้นฝั่งแล้วนำไปใส่รถที่มารอขนถ่าย โดยสายท่อที่ฝังนั้นเป็นเสาเหล็กถาวร ทั้งนี้กำลังทหารได้ทำการจับกุมเรือประมงที่ขนย้ายน้ำมันเถื่อนเคยจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้ของกลางน้ำมันเถื่อนจำนวนกว่า 3 แสนลิตร และการจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 เดือน โดยลูกเรือทั้ง 9 คน และน้ำมันเถื่อนที่ทำการตรวจยึดได้จะนำเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย

ต่อมาทาง พล.ท.จตุพร กัมพสุต ผอ.สขว.กอรมน.ภาค 4 ได้เดินทางมายังบริเวณอ่าวท้องโหนด ต.ท้องเนียน อ.ขนอม นครศรีฯเพื่อติดตามขยายผลการจับกุมน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางมาถึงนั้น จนท.ได้มีการสอบเค้นนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.9 ต.พรายวาด อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นไต้ก๋งเรือ และเป็นน้องชายของโกชัยเจ้าของเรือประมง ซึ่งทางนายฉัตรชัย ได้เปิดปากรับสารภาพว่า มีโกดังเก็บน้ำมันเถื่อนอยู่ที่บริเวณบ้านท่าม่วง ม.1 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม นครฯ ทางจนท.จึงได้รุดไปยังจุดดังกล่าว เมื่อไปถึงบริเวณโกดังซึ่งมีการทำนากุ้งอยู่ด้วยพบรถบรรทุกน้ำมันของ บ.ยนต์ศิลป์บริการจำกัด ทะเบียน 703-6694 สุราษกร์ฯในแท็งก์บรรทุกน้ำมันมีน้ำมันบรรจุอยู่ 7,500 ลิตร จึงได้มีการตรวจยึดโดยทราบว่าจุดดังกล่าวเป็นโกดังเก็บน้ำมันก่อนจะนำไปส่งตามปั๊มต่างๆ

พล.ท.จตุพร เปิดเผยว่า เราได้มีการติดตามตั้งแต่การจับกุมครั้งก่อนที่ อ.ท่าศาลา ซึ่งเราพบว่ามีการลักลอบกันหลายจุดตามแนวชายฝั่งทะเล โดยจะมีการลักลอบนำเรือประมงดัดแปลงเพื่อพรางตาจนท.แล้วจะนำมาขึ้นตามชายฝั่งหลายจุดแล้วเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ ซึ่งเราได้ติดตามมาเป็นเดือนแล้วพร้อมกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดมาจากคำสั่งของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ที่ให้ปราบปรามการลักลอบสินค้าหนีภาษีทั้งแนวชายแดนซึ่งผลการปราบรามตามแนวชายแดนทำให้สินค้าทางการเกษตรมีราคาสูงขึ้น

ส่วนเรื่องของน้ำมันเถื่อนนั้นเราได้ติดตามมาเพราะมีการร้องเรียนมาจากผู้บริโภคหลายรายว่าใช้แล้วเครื่องยนต์เสียหาย และจากการสืบสวนพบว่าน้ำมันที่ลักลอบนำเข้ามามีการปลอมปนสารบางตัวเพื่อให้สีน้ำมันเปลี่ยนและค่าบางตัวเปลี่ยน ซึ่งเมื่อปนเข้าไปทำให้เครื่องยนต์เสียหาย ทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะเราสูญเสียรายได้จากภาครัฐคือภาษีแล้ว เครื่องยนต์เสียหาย ก็สูญเสียทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งถ้ารวมทั้งหมดเป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน 8 หมื่นลิตร และโกดังน้ำมันที่นำไปพักไว้ และเราก็ได้หลักฐานสถานบริการน้ำมันหลายแห่งที่ลักลอบรับน้ำมันเหล่านี้ไปขาย ซึ่งกระบวนการนี้จะไม่หยุดแค่นี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายให้ขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลังและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด.

● Credit : thairath.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน