วันที่  8  มิถุนายน  2562 ที่ บริเวณหน้าโรงเรียนคอลอมุดอ หมู่ ๑ ตำจะแหน อำสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พลตรีสมพล ปานกุล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า พร้อมด้วย พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังตำบลจะแหน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสร้างความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต กรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้ายฝ่าด่านสกัด เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๘.๔๐ น. ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการณ์จรยุทธ ได้ตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าโรงเรียนคอลอมุดอ หมู่ ๑ ตำบลจะแหน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อมิสซูบิชิรุ่นไทรตันสีดำ ทะเบียน ขภ.๑๒๓๒ สงขลา จึงขอทำการตรวจค้นแต่บุคคลภายในรถไม่ยอมให้ตรวจและใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมขับรถฝ่าด่านตรวจเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ยิงสกัดกระสุนโดนคนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยรองแม่ทัพภาคที่ ๔ ได้เข้าพบปะสร้างความเข้าใจกับครอบครัวและเครือญาติของผู้เสียชีวิตให้ทราบถึงเหตุผลและความจำเป็นในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ซึ่งทุกคนต่างเข้าใจดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ซึ่งเป็นทุกข์ของชาวบ้านให้หมดสิ้นไป

ด้านพันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ คือ นาย มะยูนัน เมาะอะ อายุ ๔๒ ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านคอลอมุดอ หมู่ ๑ ตำบลจะแหน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เคยถูกควบคุมตัวคดียาเสพติดเมื่อปี ๒๕๖๑ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืนขนาด ๙ มม. จำนวน ๑ กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ยาบ้าจำนวน ๒๙๒ เม็ดและเงินสดจำนวน ๓๔,๐๐๐ บาท ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามนโยบายของ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ ๔ / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ในการควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนควบคู่ไปกับการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติดภายในหมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งเป็นทุกข์ของชาวบ้าน ให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ภายหลังเกิดเหตุ กลุ่มเครือข่ายแนวร่วมได้พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงใส่ร้ายเจ้าหน้าที่และสร้างความสับสนจึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีอีกต่อไป.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน