ไม่ว่าจะฤดูร้อน ฤดูฝน หรือฤดูหนาว ไฟฟ้ายังคงเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับประชาชน การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ เป็นหนึ่งในผลพลอยได้ที่สำคัญของเขื่อนวชิราลงกรณ นับว่าเกิดประโยชน์อันมหาศาลต่อประชาชนชาวไทย และเนื่องในโอกาสครบรอบ 33 ปีเขื่อนวชิราลงกรณ เมื่อวันที่ 9 มกราคม พวกเราจึงขอใช้โอกาสนี้พาทุกท่านไปเที่ยวเขื่อนแห่งนี้กันค่ะ เขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย จัดเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ทำหน้าที่เก็บกัก-ปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภค บริโภค ผลักดันน้ำเค็ม รวมทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืด และการปล่อยน้ำเพื่อกระบวนการเหล่านั้นทำให้เกิดผลพลอยได้เป็นกระแสไฟฟ้า สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและชุมชนรอบเขื่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามและบรรยากาศดีมาก
ความสวยงามของเขื่อนวชิราลงกรณที่พวกเราจะพาชมมีด้วยกัน 7 จุด จัดว่าเป็น 7 จุดเช็คอินของเขื่อนวชิราลงกรณที่ทุกคนไม่ควรพลาด เพราะแต่ละแห่งที่พาไปชมนั้น ต้องบอกว่า “สวยงามมาก”
จุดเช็คอินที่ 1 สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ทางซ้ายมือทางเข้าเขื่อนวชิราลงกรณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบรมราชินีนาถแห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็นลายเสื่อกระจูดและลายผ้าตีนจก ซึ่งเป็นลายที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงสนพระราชหฤทัย เพิ่มทัศนียภาพที่สวยงามให้ผู้คนที่มาท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ อีกทั้งยังมีศาลาไว้นั่งพักผ่อนด้วย เราเลยถือโอกาสนี้แวะถ่ายรูปมาอวด ไปชมกันเลย
จุดเช็คอินที่ 2 สวนรวมฤทัย ตั้งอยู่ทางขวามือ ตรงข้ามที่ทำการเขื่อนวชิราลงกรณ สวนรวมฤทัยแห่งนี้มีสะพานทอดยาวข้ามลำน้ำโดยจำลองสะพานมอญและสะพานแม่น้ำแคว สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีไว้ด้วย และถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวช่วงหน้าหนาว ได้ยินเค้าเล่ากันว่า จะได้เห็นหมอกหนาลอยตัวอยู่เหนือน้ำ เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจ จนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเซลฟี่กันแน่นอนค่ะ
จุดเช็คอินที่ 3 ทุ่งดอกดาวกระจาย อยู่บริเวณทางขึ้นสันเขื่อน ตรงข้ามลานไกไฟฟ้า จุดนี้จะถูกเนรมิตให้เป็นทุ่งดอกไม้ โดยผลัดเปลี่ยนกันไป ในแต่ละช่วงเวลา มีข่าวแว่วมาว่า เดือนเมษายนนี้ จะมีดอกปอเทืองสีเหลืองบานสะพรั่งทั่วไปทั้งทุ่ง ที่สำคัญหากมาถ่ายภาพตรงนี้จะมี Background สวยๆเป็นชื่อของเขื่อนว่า Vajiralongkorn Dam เป็นเอกลักษณ์ที่สวยเด่นสะดุดตา ไม่เชื่อลองดูรูปของพวกเราก่อนแล้วอย่าลืมจองคิวตามมาเที่ยวกันด้วยนะคะ
จุดเช็คอินที่ 4 ศาลาชมวิว ตั้งอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงโรงไฟฟ้าเขื่อนวชิราลงกรณ เป็นสถานที่พักผ่อน รับอากาศสดชื่น ลมเย็นๆ ของเขื่อนวชิราลงกรณค่ะ จากตรงนี้เราสามารถถ่ายรูปโดยเห็นชื่อของเขื่อนได้ด้วยเช่นกัน และจุดนี้ยังเป็นที่ตั้งของพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบรัฐพิธีเปิดเขื่อนวชิราลงกรณ อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังมีต้นไม้สวยๆให้อารมณ์เหมือนอยู่ต่างประเทศเพื่อให้นักท่องเที่ยว เยี่ยมชม ถ่ายรูปได้ตลอดทั้งปีเลยล่ะค่ะ
จุดเช็คอินที่ 5 สันเขื่อน ทางทอดยาวบนสันเขื่อนที่สวยงาม ถ้ามาตอนเช้าวันที่หมอกลงเยอะๆบวกกับแสงแดดเบาๆ โอ้โห สดชื่นมาก เห็นแล้วมีความสุขแบบบอกไม่ถูกเลยค่ะ ถ่ายภาพไปอวดเพื่อนๆต้องอิจฉาตาร้อนกันแน่ๆ ตรงจุดนี้มีจักรยานให้เช่าเพื่อปั่นกินลมเที่ยวชมรอบเขื่อนด้วย บรรยากาศดีๆแบบนี้ บอกเลยว่าเด็ดจริงอะไรจริงค่ะ ข้างหน้านี้ก็จะมีป้ายเขื่อนวชิราลงกรณอยู่ ซึ่งตรงนั้นเป็นถิ่นที่พักอาศัยของเจ้าลิงจำนวนมากเลยล่ะค่ะ แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่า อย่าให้อาหารเจ้าลิง เพราะตัวที่ไม่ได้รับอาหารจะงอนเราแล้วจะกัดเราได้ค่ะ !!! และวันนี้ที่เรามากันก็มีครอบครัวแสนอบอุ่นมาเที่ยวด้วย ไปชมภาพกันเลยค่ะ
จุดเช็คอินที่ 6 เรือนเขาแหลม เดินทางกันจนเหนื่อยแล้ว ก็ต้องแวะพักเติมกำลังกันก่อน ร้านอาหารเรือนเขาแหลม อาหารอร่อย ราคาถูก คุณภาพดี และผักส่วนหนึ่งที่ใช้ในการทำอาหารนั้นปลูกกันเองจาก ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เขื่อนวชิราลงกรณ ปลอดสารพิษ 100 % พร้อมทั้งยังได้ทานอาหารในบรรยากาศดีๆ แถมยังมีโซนสินค้าชุมชนรอบกฟผ. ให้เลือกซื้อ เช่น กล้วยกวนผสมหม่อน มะขามป้อมอบแห้ง น้ำผึ้ง ฯลฯ เพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชนด้วย และด้วยความที่เป็นเขื่อนท่องเที่ยวเนี่ยแหละค่ะ หน้าร้านอาหารก็ยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆที่ประดับตกแต่งอยู่ตลอดทั้งปีให้ได้เก็บภาพค่ะ ลองไปชมภาพสวยๆหน้าร้านอาหารเรือนเขาแหลมกันดูค่ะ
จุดเช็คอินที่ 7 ร้านกาแฟคุณสายชล ทานอาหารเรียบร้อยแล้วก็ต้องต่อด้วยเครื่องดื่ม ขอบอกเลยว่า ร้านกาแฟร้านนี้อร่อยเด็ดดวงมากๆ ได้ชิมมาแล้วด้วยตัวเองเลยค่ะ เพราะร้านกาแฟคุณสายชล เป็นร้านกาแฟของกฟผ. ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟที่คัดสรรอย่างดีจากชุมชน สาขานี้เป็นสาขาที่ 2 แล้วค่ะ สาขาแรกอยู่ที่เขื่อนศรีนครินทร์ ในเรื่องของรสชาติเครื่องดื่ม ต้องบอกว่าได้ชิมแล้วรสชาติไม่แพ้กาแฟเจ้าดังๆเลย ชาเขียวหอมหวานกำลังดี โกโก้ก็เข้มข้นสะใจ นับว่าเพิ่มพลังให้ร่างกายได้สดชื่นขึ้นมาก แถมการบริการยังเยี่ยมยอดมาก และที่สำคัญ !!! บรรยายกาศขอบอกว่า กินขาดทุกร้านกาแฟแน่นอนค่ะ
33 ปีที่ผ่านมาเขื่อนวชิราลงกรณยืนหยัดเพื่อประโยชน์ทางด้านการผลิตไฟฟ้าและความอยู่ดีมีสุขของประชาชนชาวไทย ซ้ำยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะฤดูไหน เขื่อนแห่งนี้ก็มีความสวยงาม อากาศบริสุทธิ์ ที่สร้างความสุขให้กับผู้คนได้ตลอดทั้งปี และยังได้ลิ้มรสชาติกับอาหารอร่อยๆ เครื่องดื่มเย็นๆสดชื่น ใครที่ยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวไหนในวันหยุด มาลองเที่ยวชมเขื่อนวชิราลงกรณแบบพวกเราได้ แล้วจะรู้สึกประทับใจมิรู้ลืมกันเลยค่ะ.
ที่มา: http://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=2898:7&catid=49&Itemid=251
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
7 จุด เช็คอินสุดอินดี้ ที่เขื่อนวชิราลงกรณ
ไม่ว่าจะฤดูร้อน ฤดูฝน หรือฤดูหนาว ไฟฟ้ายังคงเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับประชาชน การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ เป็นหนึ่งในผลพลอยได้ที่สำคัญของเขื่อนวชิราลงกรณ นับว่าเกิดประโยชน์อันมหาศาลต่อประชาชนชาวไทย และเนื่องในโอกาสครบรอบ 33 ปีเขื่อนวชิราลงกรณ เมื่อวันที่ 9 มกราคม พวกเราจึงขอใช้โอกาสนี้พาทุกท่านไปเที่ยวเขื่อนแห่งนี้กันค่ะ
เขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย จัดเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ทำหน้าที่เก็บกัก-ปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภค บริโภค ผลักดันน้ำเค็ม รวมทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืด และการปล่อยน้ำเพื่อกระบวนการเหล่านั้นทำให้เกิดผลพลอยได้เป็นกระแสไฟฟ้า สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและชุมชนรอบเขื่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามและบรรยากาศดีมาก
ความสวยงามของเขื่อนวชิราลงกรณที่พวกเราจะพาชมมีด้วยกัน 7 จุด จัดว่าเป็น 7 จุดเช็คอินของเขื่อนวชิราลงกรณที่ทุกคนไม่ควรพลาด เพราะแต่ละแห่งที่พาไปชมนั้น ต้องบอกว่า “สวยงามมาก”
จุดเช็คอินที่ 1 สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบรมราชินีนาถ
ตั้งอยู่ทางซ้ายมือทางเข้าเขื่อนวชิราลงกรณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบรมราชินีนาถแห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็นลายเสื่อกระจูดและลายผ้าตีนจก ซึ่งเป็นลายที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงสนพระราชหฤทัย เพิ่มทัศนียภาพที่สวยงามให้ผู้คนที่มาท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ อีกทั้งยังมีศาลาไว้นั่งพักผ่อนด้วย เราเลยถือโอกาสนี้แวะถ่ายรูปมาอวด ไปชมกันเลย
จุดเช็คอินที่ 2 สวนรวมฤทัย
ตั้งอยู่ทางขวามือ ตรงข้ามที่ทำการเขื่อนวชิราลงกรณ สวนรวมฤทัยแห่งนี้มีสะพานทอดยาวข้ามลำน้ำโดยจำลองสะพานมอญและสะพานแม่น้ำแคว สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีไว้ด้วย และถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวช่วงหน้าหนาว ได้ยินเค้าเล่ากันว่า จะได้เห็นหมอกหนาลอยตัวอยู่เหนือน้ำ เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจ จนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเซลฟี่กันแน่นอนค่ะ
จุดเช็คอินที่ 3 ทุ่งดอกดาวกระจาย
อยู่บริเวณทางขึ้นสันเขื่อน ตรงข้ามลานไกไฟฟ้า จุดนี้จะถูกเนรมิตให้เป็นทุ่งดอกไม้ โดยผลัดเปลี่ยนกันไป ในแต่ละช่วงเวลา มีข่าวแว่วมาว่า เดือนเมษายนนี้ จะมีดอกปอเทืองสีเหลืองบานสะพรั่งทั่วไปทั้งทุ่ง ที่สำคัญหากมาถ่ายภาพตรงนี้จะมี Background สวยๆเป็นชื่อของเขื่อนว่า Vajiralongkorn Dam เป็นเอกลักษณ์ที่สวยเด่นสะดุดตา ไม่เชื่อลองดูรูปของพวกเราก่อนแล้วอย่าลืมจองคิวตามมาเที่ยวกันด้วยนะคะ
จุดเช็คอินที่ 4 ศาลาชมวิว
ตั้งอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงโรงไฟฟ้าเขื่อนวชิราลงกรณ เป็นสถานที่พักผ่อน รับอากาศสดชื่น ลมเย็นๆ ของเขื่อนวชิราลงกรณค่ะ จากตรงนี้เราสามารถถ่ายรูปโดยเห็นชื่อของเขื่อนได้ด้วยเช่นกัน และจุดนี้ยังเป็นที่ตั้งของพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบรัฐพิธีเปิดเขื่อนวชิราลงกรณ อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังมีต้นไม้สวยๆให้อารมณ์เหมือนอยู่ต่างประเทศเพื่อให้นักท่องเที่ยว เยี่ยมชม ถ่ายรูปได้ตลอดทั้งปีเลยล่ะค่ะ
จุดเช็คอินที่ 5 สันเขื่อน
ทางทอดยาวบนสันเขื่อนที่สวยงาม ถ้ามาตอนเช้าวันที่หมอกลงเยอะๆบวกกับแสงแดดเบาๆ โอ้โห สดชื่นมาก เห็นแล้วมีความสุขแบบบอกไม่ถูกเลยค่ะ ถ่ายภาพไปอวดเพื่อนๆต้องอิจฉาตาร้อนกันแน่ๆ ตรงจุดนี้มีจักรยานให้เช่าเพื่อปั่นกินลมเที่ยวชมรอบเขื่อนด้วย บรรยากาศดีๆแบบนี้ บอกเลยว่าเด็ดจริงอะไรจริงค่ะ ข้างหน้านี้ก็จะมีป้ายเขื่อนวชิราลงกรณอยู่ ซึ่งตรงนั้นเป็นถิ่นที่พักอาศัยของเจ้าลิงจำนวนมากเลยล่ะค่ะ แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่า อย่าให้อาหารเจ้าลิง เพราะตัวที่ไม่ได้รับอาหารจะงอนเราแล้วจะกัดเราได้ค่ะ !!! และวันนี้ที่เรามากันก็มีครอบครัวแสนอบอุ่นมาเที่ยวด้วย ไปชมภาพกันเลยค่ะ
จุดเช็คอินที่ 6 เรือนเขาแหลม
เดินทางกันจนเหนื่อยแล้ว ก็ต้องแวะพักเติมกำลังกันก่อน ร้านอาหารเรือนเขาแหลม อาหารอร่อย ราคาถูก คุณภาพดี และผักส่วนหนึ่งที่ใช้ในการทำอาหารนั้นปลูกกันเองจาก ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เขื่อนวชิราลงกรณ ปลอดสารพิษ 100 % พร้อมทั้งยังได้ทานอาหารในบรรยากาศดีๆ แถมยังมีโซนสินค้าชุมชนรอบกฟผ. ให้เลือกซื้อ เช่น กล้วยกวนผสมหม่อน มะขามป้อมอบแห้ง น้ำผึ้ง ฯลฯ เพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชนด้วย และด้วยความที่เป็นเขื่อนท่องเที่ยวเนี่ยแหละค่ะ หน้าร้านอาหารก็ยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆที่ประดับตกแต่งอยู่ตลอดทั้งปีให้ได้เก็บภาพค่ะ ลองไปชมภาพสวยๆหน้าร้านอาหารเรือนเขาแหลมกันดูค่ะ
จุดเช็คอินที่ 7 ร้านกาแฟคุณสายชล
ทานอาหารเรียบร้อยแล้วก็ต้องต่อด้วยเครื่องดื่ม ขอบอกเลยว่า ร้านกาแฟร้านนี้อร่อยเด็ดดวงมากๆ ได้ชิมมาแล้วด้วยตัวเองเลยค่ะ เพราะร้านกาแฟคุณสายชล เป็นร้านกาแฟของกฟผ. ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟที่คัดสรรอย่างดีจากชุมชน สาขานี้เป็นสาขาที่ 2 แล้วค่ะ สาขาแรกอยู่ที่เขื่อนศรีนครินทร์ ในเรื่องของรสชาติเครื่องดื่ม ต้องบอกว่าได้ชิมแล้วรสชาติไม่แพ้กาแฟเจ้าดังๆเลย ชาเขียวหอมหวานกำลังดี โกโก้ก็เข้มข้นสะใจ นับว่าเพิ่มพลังให้ร่างกายได้สดชื่นขึ้นมาก แถมการบริการยังเยี่ยมยอดมาก และที่สำคัญ !!! บรรยายกาศขอบอกว่า กินขาดทุกร้านกาแฟแน่นอนค่ะ
33 ปีที่ผ่านมาเขื่อนวชิราลงกรณยืนหยัดเพื่อประโยชน์ทางด้านการผลิตไฟฟ้าและความอยู่ดีมีสุขของประชาชนชาวไทย ซ้ำยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะฤดูไหน เขื่อนแห่งนี้ก็มีความสวยงาม อากาศบริสุทธิ์ ที่สร้างความสุขให้กับผู้คนได้ตลอดทั้งปี และยังได้ลิ้มรสชาติกับอาหารอร่อยๆ เครื่องดื่มเย็นๆสดชื่น ใครที่ยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวไหนในวันหยุด มาลองเที่ยวชมเขื่อนวชิราลงกรณแบบพวกเราได้ แล้วจะรู้สึกประทับใจมิรู้ลืมกันเลยค่ะ.
ที่มา: http://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=2898:7&catid=49&Itemid=251
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024