วันที่ 04/04/62 เวลา 11.00 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนประกอบพิธีซ้อมเสมือนจริงพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดสระบุรีเพื่อประกอบพิธีทำน้ำมุรธาภิเษกและน้ำอภิเษก เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ แม่น้ำป่าสัก บ้านท่าราบ ต.ต้นตาล อ. เสาไห้ จ.สระบุรี จากนั้นได้อัญเชิญขบวนได้นำน้ำอภิเษกนี้แห่ขบวนอันงดงามไปยังวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี เพื่อเตรียมจัดทำพิธีมหาพุทธาภิเษกเจริญพระพุทธมนต์เสกน้ำอภิเษกในลำดับต่อไป และในครั้งนี้ได้มีกลุ่มหญิงสาวไทยเชื้อสายญวนในพื้นที่จำนวน 266 คนเข้าร่วมพิธีชักลากรถบุษบกอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วย
จังหวัดสระบุรีได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ในการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ โยนกอุทยานท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดสระบุรี หมู่ 6 บ้านท่าราบ ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จ.สระบุรี เรื่องราวของท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นมีมาแต่อดีตตั้งแต่เมื่อครั้งต้นราชวงศ์จักรีความว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จหัวเมืองปริมณฑลจังหวัดสระบุรี พระองค์ทรงเรือพระที่นั่งมาติดสันดอนกลางหาดแม่น้ำป่าสัก ณ บ้านท่าหินลาดตำบลท่าราบ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ครั้นเมื่อการเป็นเช่นนั้นจึงได้เกณฑ์ไพร่พล บริเวณริมข้างลำน้ำเพื่อที่จะชักลากเรือให้พ้นเขตสันดอน เรือได้ชักลากโดยกรมวังเกณฑ์หญิงสาวชาวพายัพ หรือในปัจจุบันคือกลุ่มชาวไทยญวนได้ชักลากเรือจำนวน 217 นางเพื่อให้พ้นสันดอนจนมาถึงบ้านท่าราบหมู่ 6 ตำบลท่าราบ อำเภอเสาไห้ ระยะทาง 1 กิโลเมตรเศษ พระองค์ทรงให้หยุดพักและทรงเสด็จพระราชดำเนินยังหาดทรายสีขาวแล้วเสด็จพระราชดำเนินเลียบหาดทรายและสรงน้ำจนเป็นที่พอพระราชหฤทัยจึงได้พระราชทานเงินรางวัลแด่ผู้ที่ชักลากเรือในคราวนั้นเป็นเหตุให้ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์สระบุรีได้เป็นท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเบญจสุทธิคงคาเพื่อที่จะนำน้ำเข้าพิธีบรมราชาภิเษกในลำดับรัชกาลถัดไป
โดยน้ำท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้เป็นน้ำมหามุรธาภิเษกคือคือน้ำรดพระเศียรพระเจ้าแผ่นดินซึ่งมีเพียง 9 แหล่งน้ำคือ 4 สระน้ำจากจังหวัดสุพรรณบุรี น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำบางปะกง น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำเพชรบุรี น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำราชบุรี และน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำป่าสัก ณ บ้านท่าราบตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรีเป็นอย่างยิ่ง
ในช่วงเช้าเวลา 09.30 น. นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ประกอบพิธีบวงสรวงบริเวณด้านท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ้านท่าราบ ก่อนจะประกอบพิธีซ้อมเสมือนจริงพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์และอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์สู่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก.
ภาพ-ข่าว วรวิทย์ คำเสียง(อู๊ดอิสระ) ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้ว่าฯสระบุรี พร้อมหหัวหน้าส่วนราชการ ทำพิธีบวงสรวงและซ้อมพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์และอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์สู่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์สระบุรี หนึ่งในมหาเบญจสุทธคงคา
วันที่ 04/04/62 เวลา 11.00 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนประกอบพิธีซ้อมเสมือนจริงพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดสระบุรีเพื่อประกอบพิธีทำน้ำมุรธาภิเษกและน้ำอภิเษก เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ แม่น้ำป่าสัก บ้านท่าราบ ต.ต้นตาล อ. เสาไห้ จ.สระบุรี จากนั้นได้อัญเชิญขบวนได้นำน้ำอภิเษกนี้แห่ขบวนอันงดงามไปยังวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี เพื่อเตรียมจัดทำพิธีมหาพุทธาภิเษกเจริญพระพุทธมนต์เสกน้ำอภิเษกในลำดับต่อไป และในครั้งนี้ได้มีกลุ่มหญิงสาวไทยเชื้อสายญวนในพื้นที่จำนวน 266 คนเข้าร่วมพิธีชักลากรถบุษบกอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วย
จังหวัดสระบุรีได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ในการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ โยนกอุทยานท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดสระบุรี หมู่ 6 บ้านท่าราบ ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จ.สระบุรี เรื่องราวของท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นมีมาแต่อดีตตั้งแต่เมื่อครั้งต้นราชวงศ์จักรีความว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จหัวเมืองปริมณฑลจังหวัดสระบุรี พระองค์ทรงเรือพระที่นั่งมาติดสันดอนกลางหาดแม่น้ำป่าสัก ณ บ้านท่าหินลาดตำบลท่าราบ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ครั้นเมื่อการเป็นเช่นนั้นจึงได้เกณฑ์ไพร่พล บริเวณริมข้างลำน้ำเพื่อที่จะชักลากเรือให้พ้นเขตสันดอน เรือได้ชักลากโดยกรมวังเกณฑ์หญิงสาวชาวพายัพ หรือในปัจจุบันคือกลุ่มชาวไทยญวนได้ชักลากเรือจำนวน 217 นางเพื่อให้พ้นสันดอนจนมาถึงบ้านท่าราบหมู่ 6 ตำบลท่าราบ อำเภอเสาไห้ ระยะทาง 1 กิโลเมตรเศษ พระองค์ทรงให้หยุดพักและทรงเสด็จพระราชดำเนินยังหาดทรายสีขาวแล้วเสด็จพระราชดำเนินเลียบหาดทรายและสรงน้ำจนเป็นที่พอพระราชหฤทัยจึงได้พระราชทานเงินรางวัลแด่ผู้ที่ชักลากเรือในคราวนั้นเป็นเหตุให้ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์สระบุรีได้เป็นท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเบญจสุทธิคงคาเพื่อที่จะนำน้ำเข้าพิธีบรมราชาภิเษกในลำดับรัชกาลถัดไป
โดยน้ำท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้เป็นน้ำมหามุรธาภิเษกคือคือน้ำรดพระเศียรพระเจ้าแผ่นดินซึ่งมีเพียง 9 แหล่งน้ำคือ 4 สระน้ำจากจังหวัดสุพรรณบุรี น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำบางปะกง น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำเพชรบุรี น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำราชบุรี และน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำป่าสัก ณ บ้านท่าราบตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรีเป็นอย่างยิ่ง
ในช่วงเช้าเวลา 09.30 น. นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ประกอบพิธีบวงสรวงบริเวณด้านท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ้านท่าราบ ก่อนจะประกอบพิธีซ้อมเสมือนจริงพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์และอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์สู่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก.
ภาพ-ข่าว วรวิทย์ คำเสียง(อู๊ดอิสระ) ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024