วันที่  02/04/62 เวลา 18.00 น. ที่วัดแก่งคอย ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เดินทางเป็นประธานเปิดงาน“แก่งคอยย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 และเปิดการแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม รำลึกผู้ประสบภัยทางอากาศ มีนายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ นายอำเภอแก่งคอย พร้อมด้วยน.พ.ประสิทธิ์ชัย มั่งแก้ว ผอ.รพ.แก่งคอย และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมบูธที่ส่วนราชการและภาคเอกชนนำมาจัดแสดงก่อนที่จะทำพืธีเปิดงานแสดง แสง สี เสียงและสื่อผสมที่บริเวณริมแม่น้ำป่าสัก ภายในวัดแก่งคอย ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นางพรศรี ตรงศิริ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี นายพีระพล ตัณฑโอภาส ปลัดจังหวัดสระบุรี น.พ.รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี นายสมบัติ อ่ำนาคะ ว่าที่ส.ส.เขต 2 สระบุรี ร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย

การแสดง แสง สี เสียง สื่อผสม เป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองแก่งคอยกับประวัติศาสตร์โลกในสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสงครามมหาเอเชียบูรพา โดยย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2482 หรือกว่า 72 ปีที่ผ่านมา เมื่อครั้งกองทัพญี่ปุ่นได้ขอเดินทัพผ่านประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นเมืองแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นเมืองท่าที่ใช้ขนส่งสินค้าผ่านทางแม่น้ำป่าสัก ทั้งยังมีเส้นทางรถไฟมุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างสะดวก จึงนับเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ จนถึงช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2488 เมืองแก่งคอยถูกกองทัพพันธมิตรจากหลายชาตินำโดยกองทัพสหรัฐอเมริกานำเครื่องบิน B 24 บรรทุกลูกระเบิดมาทิ้งระเบิดใส่ ส่งผลให้สถานที่ราชการ ตลาด วัด บ้านเรือน พังเสียหายถูกเพลิงไหม้ ทหารไทย ทหารญี่ปุ่น และชาวบ้านบาดเจ็บล้มตาย กันเป็นจำนวนมาก

และเป็นเรื่องจริงและเล่าสืบต่อกันมาเมื่อชาวแก่งคอยจำนวนหนึ่งได้มาเข้าไปหลบลูกระเบิดจากเครื่องบินภายในวัดแก่งคอย ซึ่งมีหลวงพ่อลาเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น มีลูกระเบิดตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เป็นที่อัศจรรย์ที่ลูกระเบิดเกิดด้านและไม่ระเบิด ทำให้ชาวแก่งคอยรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ จึงเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อลา ปัจจุบันยังมีการสร้างอนุสาวรีย์ลูกระเบิดไว้เป็นอนุสรณ์ไว้ที่วัดแก่งคอย และทุกปีจะมีการประกอบพิธีวางพวงหรีดแสดงความรำลึกถึงเหตุการณ์สงครามโลกและรำลึกถึงผู้เสียชีวิต

สำหรับการแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสม ใช้จำนวนนักแสดงกว่า 200 คน มีทั้งนักแสดง ชาวบ้าน ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น ร่วมแสดง บอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองแก่งคอยในอดีต ความสงบร่มเย็น วิถีชีวิต วัฒนธรรมจากหลายเชื่อชาติที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เรื่องราวเหตุการณ์ช่วงสงคราม และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง ที่มีความสูญเสีย ความพลัดพราก อันเป็นโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญของชาวเมืองแก่งคอย ซึ่งระยะเวลาในการแสดงประมาณ 50 นาที

นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP สินค้าพื้นเมือง อาหารคาวหวานแบบโบราณ, การประกวดธิดาย้อนยุคเมืองแก่งคอย, การแสดงดนตรีและศิลปวัฒนธรรม เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและย้อนอดีตบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองแก่งคอย จากเหตุการณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้คนรุ่นปัจจุบันได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาเมืองแก่งคอยหรืออดีตเรียกว่าเมืองแร้งคอย โดยรณรงค์สำหรับผู้ที่มาเที่ยวชมงานสวมชุดย้อนยุคเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการจัดงาน รวมไปถึงผู้ที่ไปเที่ยวชมงานจะมีโอกาสได้กราบสักการะหลวงพ่อลาอดีตเจ้าอาวาสวัดแก่งคอย และมหาเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล ด้วย โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 เมษายน 2562 ส่วนการแสดงจะเริ่มเวลาประมาณ 19.00 น.เป็นต้นไป.

ภาพ-ข่าว วรวิทย์ คำเสียง(อู๊ดอิสระ) ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน