เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 มีนาคม 2562 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พนันญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม.พร้อมคณะ เดินทางเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “การเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน” ประกอบด้วย อุดรธานี ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม โดยมีผู้ให้เช่าหรือนายทุนเจ้าของที่ดิน 176 คน และผู้เช่าซึ่งเป็นเกษตรกร 203 คน เดินทางมาทำสัญญาเช่าที่ห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองอุดรธานี

โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช. สตม.เปิดเผยว่า โครงการ“การเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร เป็นโครงการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการเช่าที่ดินทำกินให้เกษตรกร โดยวันนี้ได้เชิญทุกส่วนทั้งนายทุน เจ้าของที่ดิน และผู้เช่าที่เป็นชาวนา ชาวไร่ มาร่วมเจรจากัน เป็นครั้งที่ 2 ที่ดินรวมทั้งหมด 2 พันกว่าไร่ มูลค่าประมาณ 302 ล้านบาท โดยมีนายทุนเจ้าของที่ดินทั้งหมด 176 คน ผู้เช่าที่ดิน 203 คน มาร่วมเจรจา และวันนี้ได้ทำการเจรจากันจบทั้งหมดแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเจรจานั้นบรรลุผล โดยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเจรจา และได้อาศัยกลไกหลักๆ ที่เป็นตำรวจทั้งระดับผู้กำกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธร ในพื้นที่ภาคอีสาน

“วันนี้เห็นได้ชัดว่าในการเช่าที่ดินทำกินนั้นลดลงไปรายละ 100,000-300,000 บาทต่อปีแล้วแต่รายไป ซึ่งบางรายก็ประมาณ 30,000 บาท วันนี้ก็ได้เห็นชาวนา ชาวไร่กลับไปด้วยกำลังใจที่ดี และทำมาหาเลี้ยงครอบครัวตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 เพื่อที่จะให้อยู่ได้อย่างพอเพียง”

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนการคืนโฉนดนั้นก็ยังทำควบคู่กันอยู่ ในการใช้กฎหมายข้อบังคับต่อนายทุนนั้นสถานการณ์ดีขึ้นเยอะกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ยังพบว่ามีอยู่ โดยเราจะใช้เวลา 1 ปีนับจากนี้ ปราบปรามให้หมดสิ้น และนำโฉนดคืนสู่ประชาชนด้วยความเป็นธรรม อีกส่วนที่ทำควบคู่ไปอีกคือ การลดค่าเช่าที่ดินทำกินให้กับชาวนา ชาวไร่ โดยการบังคับใช้กฎหมายหนี้นอกระบบ และการลดค่าเช่าให้กับเกษตรกร ส่วนสุดท้ายที่กำลังทำอยู่คือ สร้างแหล่งเงินกู้ให้กับประชาชนภาคอีสานอย่างจริงจัง โดยขณะนี้ได้ร่วมกับกระทรวงการคลัง ในการขึ้นทะเบียนนายทุนเงินกู้ในจังหวัดให้มากขึ้น เพราะยอมรับว่าขึ้นทะเบียนยังน้อยอยู่ แต่ก็จะพยายามขึ้นทะเบียนนายทุนให้มากขึ้น เพื่อที่จะให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้น และถูกต้องตามกฎหมาย.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน