ใช่แล้วละครับ มีพระธาตุพนมก็ต้องมีพระธาตุนคร พระธาตุนคร เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ ถนนสุนทรวิจิตร อำเภอเมือง บริเวณริมฝั่งโขง มีลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัส รูปแบบคล้ายพระธาตุพนมองค์เดิม ภายในบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ
วัดมหาธาตุ ได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1150 โดยพระมหาอำมาตย์ (ป้อม) แม่ทัพใหญ่มาจากเวียงจันทน์ ผู้สร้างเมืองนครพนม และสร้างวัดมหาธาตุ เป็นวัดประจำเมือง เป็นศูนย์กลางของเมืองนครพนม-ข้าราชการใหญ่น้อย ให้ความอุปถัมภ์-เป็นวัดที่ใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ของข้าราชการเมืองนครพนมมาโดยตลอด
ตามตำนาน ในวัดมหาธาตุแต่เดิมจะมีธาตุ ใส่กระดูกมากมาย สะสมกันเอาไว้เรื่อยมาเป็นเวลานับพันปี และทราบว่ามีพระอรหันต์ธาตุอยู่องค์หนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ธาตุองค์ใด เพราะเห็นแสงสว่างลอยเข้า ลอยออกจากกลุ่มพระธาตุ
ปีพ.ศ.2462 เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ และเจ้าคณะจังหวัดนครพนม จึงเชิญญาติโยมและข้าราชการมาประชุม มีท่านเจ้าเมืองมาประชุมด้วย เพื่อจะค้นหาว่าแสงสว่างที่เกิดขึ้นนั้นมาจากที่ใด เพราะองค์พระธาตุในวัด ก็เก่าแก่ทรุดโทรมมาก ด้วยไม่ได้มีการบูรณะมานับพันปีแล้ว จึงเห็นควรรื้อถอน เพื่อพื้นที่วัดจะได้กว้างขึ้น จึงตกลงรื้อถอนเพื่อค้นหาพระธาตุ
พอรื้อไปได้สัก 4 – 5 ธาตุ ก็พบเข้าจริงๆ เป็นพระธาตุองค์เล็ก เก่าแก่มากมีรากต้นโพธิ์ร้อยรัดอยู่ พอเปิดดูข้างในพระธาตุก็พบผอบไม้จันทร์แดงอยู่หนึ่งใบ และใต้พระธาตุยังมีงูดำตัวใหญ่ ขนาดลำแข้งของคนตัวใหญ่ๆ อยู่ตัวหนึ่ง นอนนิ่งอยู่ น่าจะเป็นงูผู้รักษาพระธาตุ
จากนั้นนำผอบไปเปิดดูที่อุโบสถก็พบว่ามี พระพุทธรูปทองคำขนาดหน้าตัก 2 นิ้ว 4 องค์ พระพุทธรูปเงิน 2 องค์ แผ่นทอง บาง ๆ ยาว ๆ ประมาณ 1 คืบ 1 แผ่น และมีผอบไม้จันทร์แดงขนาดเท่าไข่เป็ดอีก 1 ผอบ เปิดดูมีพระสารีริกธาตุอยู่ 20 องค์ ขนาดเท่าเม็ดพุทรา มีนานฝ้ายห่อหุ้มอยู่
การประชุมเพื่อหาฤกษ์งามยามดี สร้างพระธาตุขึ้นเพื่อบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ และพระธาตุนคร ก็ได้เริ่มสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2463 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2465 นับเป็นพระธาตุคู่เมืองนครพนม
(วัดพระุอินทร์แปลง) ถัดไปอีกนิดก็มีวัดพระธาตุอินทร์แปลง ตามตำนานเล่าว่าราวๆปี พ.ศ.1390-1393 หรืออีกประมาณ 240ปี หลังจากมีการก่อสร้างวัดมหาธาตุ
พระหน่อหลักคำ อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 1 มีความประสงค์จะจัดสร้างพระประธาน ขนาดหน้าตักกว้าง 59 นิ้วขึ้นมาองค์หนึ่ง เพื่อประดิษฐานไว้ในอุโบสถ แต่ปรากฏว่าสร้างไม่สำเร็จ…ไม่ว่าจะหล่อกี่ครั้งก็ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเศียรเป็นรูปอัปลักษณ์ จนช่างหล่อพระและเจ้าอาวาส ตลอดจนญาติโยมพากันหมดกำลังใจ จึงเลิกล้มและปล่อยให้เป็นพระเศียรขาดอยู่อย่างนั้น
การที่เอาพระพุทธรูปเศียรขาด ตั้งประดิษฐานไว้ สร้างความกระทบกระเทือนใจของชาวพุทธที่พบเห็นเป็นยิ่งนัก ชาวบ้านก็เลยช่วยกันก่ออุโมงค์ดินครอบองค์พระเอาไว้ …จึงได้ชื่อว่า-วัดอุโมงค์-
พระหน่อหลักคำ ได้นิมิตฝันว่า มีพระอินทร์พร้อมด้วยเหล่านางฟ้าเทพยดา เหาะแห่เศียรพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะสวยงามลงมาจากสรวงสวรรค์ แล้วแปลงกายเป็นชีปะขาวเสด็จลงมาช่วยหล่อและลงมือแกะบล็อกเอง โดยให้พระและญาติโยมช่วยกันสูบทองต้มทอง ส่วนท่านเป็นผู้เทเศียร แล้วนำไปต่อกับพระศอ ก่อนที่พระอินทราธิราชจะเสด็จหายไป
พระหน่อหลักคำตื่นจากฝัน จึงเล่าให้ญาติโยมฟัง และก็ได้ดำเนินการลงมือหล่อเศียรพระอีกครั้งจึงประสบผลสำเร็จ เป็น“หลวงพ่อพระอินทร์แปลง” พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย อายุกว่าพันปี (ก่อนจบก่อนจาก) ของรักของหวงที่หายไป มีผู้นิยมมากราบไหว้-บนบานศาลกล่าว-ก็จะได้คืน..ดุจดั่งเศียรหลวงพ่อพระอินทร์แปลง-ที่หายไป..ก็จะได้คืนมาเช่นกันนะครับเจ้านาย ปู๊นๆๆ.
ภาพ/ข่าว ป๋าแหง็ม
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
#วัดมหาธาตุและวัดพระุอินทร์แปลง (วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครพนม)
ใช่แล้วละครับ มีพระธาตุพนมก็ต้องมีพระธาตุนคร พระธาตุนคร เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ ถนนสุนทรวิจิตร อำเภอเมือง บริเวณริมฝั่งโขง มีลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัส รูปแบบคล้ายพระธาตุพนมองค์เดิม ภายในบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ
วัดมหาธาตุ ได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1150 โดยพระมหาอำมาตย์ (ป้อม) แม่ทัพใหญ่มาจากเวียงจันทน์ ผู้สร้างเมืองนครพนม และสร้างวัดมหาธาตุ เป็นวัดประจำเมือง เป็นศูนย์กลางของเมืองนครพนม-ข้าราชการใหญ่น้อย ให้ความอุปถัมภ์-เป็นวัดที่ใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ของข้าราชการเมืองนครพนมมาโดยตลอด
ตามตำนาน ในวัดมหาธาตุแต่เดิมจะมีธาตุ ใส่กระดูกมากมาย สะสมกันเอาไว้เรื่อยมาเป็นเวลานับพันปี และทราบว่ามีพระอรหันต์ธาตุอยู่องค์หนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ธาตุองค์ใด เพราะเห็นแสงสว่างลอยเข้า ลอยออกจากกลุ่มพระธาตุ
ปีพ.ศ.2462 เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ และเจ้าคณะจังหวัดนครพนม จึงเชิญญาติโยมและข้าราชการมาประชุม มีท่านเจ้าเมืองมาประชุมด้วย เพื่อจะค้นหาว่าแสงสว่างที่เกิดขึ้นนั้นมาจากที่ใด เพราะองค์พระธาตุในวัด ก็เก่าแก่ทรุดโทรมมาก ด้วยไม่ได้มีการบูรณะมานับพันปีแล้ว จึงเห็นควรรื้อถอน เพื่อพื้นที่วัดจะได้กว้างขึ้น จึงตกลงรื้อถอนเพื่อค้นหาพระธาตุ
พอรื้อไปได้สัก 4 – 5 ธาตุ ก็พบเข้าจริงๆ เป็นพระธาตุองค์เล็ก เก่าแก่มากมีรากต้นโพธิ์ร้อยรัดอยู่ พอเปิดดูข้างในพระธาตุก็พบผอบไม้จันทร์แดงอยู่หนึ่งใบ และใต้พระธาตุยังมีงูดำตัวใหญ่ ขนาดลำแข้งของคนตัวใหญ่ๆ อยู่ตัวหนึ่ง นอนนิ่งอยู่ น่าจะเป็นงูผู้รักษาพระธาตุ
จากนั้นนำผอบไปเปิดดูที่อุโบสถก็พบว่ามี พระพุทธรูปทองคำขนาดหน้าตัก 2 นิ้ว 4 องค์ พระพุทธรูปเงิน 2 องค์ แผ่นทอง บาง ๆ ยาว ๆ ประมาณ 1 คืบ 1 แผ่น และมีผอบไม้จันทร์แดงขนาดเท่าไข่เป็ดอีก 1 ผอบ เปิดดูมีพระสารีริกธาตุอยู่ 20 องค์ ขนาดเท่าเม็ดพุทรา มีนานฝ้ายห่อหุ้มอยู่
การประชุมเพื่อหาฤกษ์งามยามดี สร้างพระธาตุขึ้นเพื่อบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ และพระธาตุนคร ก็ได้เริ่มสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2463 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2465 นับเป็นพระธาตุคู่เมืองนครพนม
(วัดพระุอินทร์แปลง) ถัดไปอีกนิดก็มีวัดพระธาตุอินทร์แปลง ตามตำนานเล่าว่าราวๆปี พ.ศ.1390-1393 หรืออีกประมาณ 240ปี หลังจากมีการก่อสร้างวัดมหาธาตุ
พระหน่อหลักคำ อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 1 มีความประสงค์จะจัดสร้างพระประธาน ขนาดหน้าตักกว้าง 59 นิ้วขึ้นมาองค์หนึ่ง เพื่อประดิษฐานไว้ในอุโบสถ แต่ปรากฏว่าสร้างไม่สำเร็จ…ไม่ว่าจะหล่อกี่ครั้งก็ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเศียรเป็นรูปอัปลักษณ์ จนช่างหล่อพระและเจ้าอาวาส ตลอดจนญาติโยมพากันหมดกำลังใจ จึงเลิกล้มและปล่อยให้เป็นพระเศียรขาดอยู่อย่างนั้น
การที่เอาพระพุทธรูปเศียรขาด ตั้งประดิษฐานไว้ สร้างความกระทบกระเทือนใจของชาวพุทธที่พบเห็นเป็นยิ่งนัก ชาวบ้านก็เลยช่วยกันก่ออุโมงค์ดินครอบองค์พระเอาไว้ …จึงได้ชื่อว่า-วัดอุโมงค์-
พระหน่อหลักคำ ได้นิมิตฝันว่า มีพระอินทร์พร้อมด้วยเหล่านางฟ้าเทพยดา เหาะแห่เศียรพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะสวยงามลงมาจากสรวงสวรรค์ แล้วแปลงกายเป็นชีปะขาวเสด็จลงมาช่วยหล่อและลงมือแกะบล็อกเอง โดยให้พระและญาติโยมช่วยกันสูบทองต้มทอง ส่วนท่านเป็นผู้เทเศียร แล้วนำไปต่อกับพระศอ ก่อนที่พระอินทราธิราชจะเสด็จหายไป
พระหน่อหลักคำตื่นจากฝัน จึงเล่าให้ญาติโยมฟัง และก็ได้ดำเนินการลงมือหล่อเศียรพระอีกครั้งจึงประสบผลสำเร็จ เป็น“หลวงพ่อพระอินทร์แปลง” พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย อายุกว่าพันปี (ก่อนจบก่อนจาก) ของรักของหวงที่หายไป มีผู้นิยมมากราบไหว้-บนบานศาลกล่าว-ก็จะได้คืน..ดุจดั่งเศียรหลวงพ่อพระอินทร์แปลง-ที่หายไป..ก็จะได้คืนมาเช่นกันนะครับเจ้านาย ปู๊นๆๆ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025