วันที่ 26 มกราคม 2562 ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รมว.พน.) เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือขนส่งน้ำมันปาล์มดิบเที่ยวแรก จำนวน 2,000 ตัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายหร่อหยา จันทรัตนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง นางภาวนา อังคณานุวัฒน์ รองผู้ว่าการบริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมพิธี ณ ท่าเรือ บริษัท พี.เค มารีน เทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พน. กล่าวถึงความคืบหน้าในการนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ กฟผ. ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ปรับสมดุลเพื่อพยุงราคาผลปาล์มน้ำมันให้สูงกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม ด้วยการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 160,000 ตัน เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง โดยเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้วได้ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ รวมทั้งได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “มาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้า” ระหว่างกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และ กฟผ. ไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดย กฟผ. จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากแหล่งพื้นที่ผลิตที่สำคัญ เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะนี้มีความคืบหน้าด้วยดีตามลำดับ และในวันนี้จะส่งน้ำมันทางเรือเที่ยวแรกไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง ปริมาณ 2,000 ตัน ของบริษัท เจริญ น้ำมันปาล์ม จำกัด ที่รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 3.24 บาท มาผลิตน้ำมันปาล์มดิบสำหรับเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนครั้งแรกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ส่วนน้ำมันปาล์มดิบที่เหลือจะรับซื้อจากโรงสกัดต่าง ๆ ให้ครบ 160,000 ตัน ต่อไป
“ความสำเร็จในครั้งนี้มาจากความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชาวสวนปาล์มต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือให้ราคาผลปาล์มสดอยู่ในระดับสูงกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม ได้อย่างเป็นรูปธรรม” รมว.พน. กล่าวในที่สุด
ภายหลังการปล่อยเรือขนส่งน้ำมันปาล์มดิบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ของ กฟผ. และลานเท โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ที่บริษัทเสวียดลานปาล์ม และบริษัท กรีนกลอรี่ จำกัด และบริษัท นิวไบโอ ดีเซล จำกัด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งชมขั้นตอนการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน และพบปะเกษตรกรเพื่อติดตามผลการช่วยเกษตรกรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง มาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ สำหรับการผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์ม กฟผ. ได้ปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 ให้สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบร่วมกับก๊าซธรรมชาติ ในอัตราส่วน 50 : 50 โดยจะใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดโครงการประมาณเดือนกรกฎาคม 2562 รวมระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสิ้น 6 เดือน สามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบในตลาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ จำนวน 160,000 ตัน ซึ่งการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ผลิตไฟฟ้าจะไม่ส่งผลกระทบกับราคาค่าไฟฟ้า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจะไม่นำไปคิดรวมกับค่าเอฟที (Ft) จึงไม่ส่งผลกระทบกับค่าไฟฟ้าของประชาชนแต่อย่างใด.
ภาพ/ข่าว กฟผ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานลงพื้นที่ท่าเรือจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำพิธีส่งน้ำมันปาล์มดิบทางเรือเที่ยวแรก จำนวน 2,000 ตัน สำหรับนำไปผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง
วันที่ 26 มกราคม 2562 ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รมว.พน.) เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือขนส่งน้ำมันปาล์มดิบเที่ยวแรก จำนวน 2,000 ตัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายหร่อหยา จันทรัตนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง นางภาวนา อังคณานุวัฒน์ รองผู้ว่าการบริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมพิธี ณ ท่าเรือ บริษัท พี.เค มารีน เทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พน. กล่าวถึงความคืบหน้าในการนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ กฟผ. ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ปรับสมดุลเพื่อพยุงราคาผลปาล์มน้ำมันให้สูงกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม ด้วยการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 160,000 ตัน เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง โดยเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้วได้ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ รวมทั้งได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “มาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้า” ระหว่างกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และ กฟผ. ไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดย กฟผ. จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากแหล่งพื้นที่ผลิตที่สำคัญ เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะนี้มีความคืบหน้าด้วยดีตามลำดับ และในวันนี้จะส่งน้ำมันทางเรือเที่ยวแรกไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง ปริมาณ 2,000 ตัน ของบริษัท เจริญ น้ำมันปาล์ม จำกัด ที่รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 3.24 บาท มาผลิตน้ำมันปาล์มดิบสำหรับเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนครั้งแรกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ส่วนน้ำมันปาล์มดิบที่เหลือจะรับซื้อจากโรงสกัดต่าง ๆ ให้ครบ 160,000 ตัน ต่อไป
“ความสำเร็จในครั้งนี้มาจากความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชาวสวนปาล์มต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือให้ราคาผลปาล์มสดอยู่ในระดับสูงกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม ได้อย่างเป็นรูปธรรม” รมว.พน. กล่าวในที่สุด
ภายหลังการปล่อยเรือขนส่งน้ำมันปาล์มดิบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ของ กฟผ. และลานเท โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ที่บริษัทเสวียดลานปาล์ม และบริษัท กรีนกลอรี่ จำกัด และบริษัท นิวไบโอ ดีเซล จำกัด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งชมขั้นตอนการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน และพบปะเกษตรกรเพื่อติดตามผลการช่วยเกษตรกรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง มาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ สำหรับการผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์ม กฟผ. ได้ปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 ให้สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบร่วมกับก๊าซธรรมชาติ ในอัตราส่วน 50 : 50 โดยจะใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดโครงการประมาณเดือนกรกฎาคม 2562 รวมระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสิ้น 6 เดือน สามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบในตลาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ จำนวน 160,000 ตัน ซึ่งการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ผลิตไฟฟ้าจะไม่ส่งผลกระทบกับราคาค่าไฟฟ้า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจะไม่นำไปคิดรวมกับค่าเอฟที (Ft) จึงไม่ส่งผลกระทบกับค่าไฟฟ้าของประชาชนแต่อย่างใด.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025