…..■>>>ที่หมู่ 3 บ้านทุ่งแหลกลาง ต.นาหมอศรี อ.นาทวี จ.สงขลา หลังจากที่ “หลวงพ่อภัตร อริโย” เจ้าอาวาสวัดนาทวี และเกจิดังภาคใต้ ฉายา “เทพสามตา” ได้ชักชวนชาว ต.นาหมอศรี มาทำการพลิกนาร้าง เมื่อปลายปี 2560 เพื่อปลูกข้าว พร้อมทำเป็นศูนย์เรียนรู้ จนเวลาผ่านไปนานประมาณ 1 ปีเศษ หลวงพ่อภัตร และชาวบ้าน สามารถเปลี่ยนจากศูนย์เรียนรู้มาเป็น “พหุวัฒนธรรม นวัตกรรมชุมชน สังคมต้นแบบ บนความหลากหลาย”
…..■>>>ทุกๆวัน โดยเฉพาะในวันศุกร์ – วันอาทิตย์ จะมีประชาชนจากหลายอำเภอในจังหวัดสงขลา และชาวบ้านใน อ.นาทวี ทั้งชาวจีน ไทยพุทธ และมุสลิม จะพากันมาชม-เที่ยว และมีการถ่ายภาพและถ่ายเชลฟี่ที่แห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งไทยพุทธและมุสลิม ที่นำสินค้ามาวางจำหน่ายกัน ซึ่งนาแห่งนี้ ทั้งชาวจีน ไทยพุทธและมุสลิม จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อยู่แบบพี่น้อง และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่มีการหวาดระแวงแต่อย่างใด
…..■>>>“หลวงพ่อภัตร อริโย” เจ้าอาวาสวัดนาทวี และเกจิดังภาคใต้ กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้เป็นศูนย์ร่วมแห่งพหุวัฒนธรรม อาตมาก็ตั้งเป็นพหุวัฒนธรรม นวัตกรรมชุมชน เรียกว่าชุมชนต้นแบบ เพราะว่าที่ตรงนี้เป็นชุมชนที่หลายหลากศาสนา ที่เราอยู่กันมาเนิ่นนานแล้ว ตรงนี้เป็นตัวต้นแบบตั้งแต่พี่น้องชาวพุทธ พี่น้องชาวอิสลาม ที่ได้มาเที่ยวกันที่มาช่วยเหลือกันตรงนี่จะพูดได้ว่าพี่น้องอิสลามถึง 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เราได้มาช่วยเหลือกันได้ทำมาเหมือนที่ท่องเที่ยว แล้วก็เป็นศูนย์เรียนรู้พี่น้องแถวๆนี้ก็จะได้ขายของ ก็มีความสุข
…..■>>>“เมื่อก่อนก็เป็นที่ร้างมาเป็นเวลานาน 20 ปี วันนี้เราก็ได้ผลรวมก็คือพี่น้องแถวๆนี้ได้มาทำมหากินได้มาขายของ อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่ต้องหวาดระแวงกันอะไรกัน ถือว่าเป็นชุมชนชาวพุทธเป็นชุมชนที่พี่น้องอิสลามที่อยู่ในสามจังหวัด 4 อำเภอนี้ ที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายอะไรเลย ไม่มีการหวาดระแวงซึ่งกันและกัน”
…..■>>>ในส่วนของพระเอง เราพยายามเมตตา อภัย ให้โอกาส แล้วก็ที่มีอยู่มีแต่มีไว้ให้ ได้ไว้แจก แบกไว้ให้ผู้อื่นใช้ ถือคดีอยู่อย่างนี้ อาตมาก็ทำทุกๆวันนี้ จน ณ วันนี้ชุมชนตรงนี้กลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็งมาก และเป็นชุมชนต้นแบบก็ว่าได้ โดยมีเจ้าหน้าที่มาดูงานกันเยอะ ก็คือผลผลิตในเรื่องข้าว อะไรก็ดีเป็นส่วนหนึ่ง แต่ส่วนหนึ่งเอาเรื่องของความเป็นอยู่ของชุมชนระหว่างพี่น้องไทยพุทธกับอิสลามให้เขาอยู่กันอย่างมีความสุขของเราอยู่กันแบบนี้มานานแล้ว
…..■>>>ที่นี่ถ้าเราอยู่กันอย่างหวาดระแวงกันเกิดเหตุอะไรกันในสามจังหวัดทำให้เกิดมีปัญหาต่อกันสังคมเสียหาย ดังนั้นเราต้องแยกให้ถูกว่าระหว่างคนที่ทำร้ายประเทศ ทำร้ายพระ ทำร้ายคนอื่น ผู้อื่นก็ดี พูดแบบบ้านเราเขาเรียกว่าโจร แต่พี่น้องทางพุทธ อิสลามก็ดีเพราะเขาอยู่กันมาดีมีความสุข ทุกศาสนาก็โดนทำร้ายหมด แถวนี้
…..■>>>ดังนั้นถ้าเรามีความเข้มแข็ง ชุมชนของเรามีความเข้มแข็งเราก็มีความสามัคคีให้เรายึดหลักของความรักความสามัคคี ในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ณ วันนี้ ที่ชุมชนตรงนี้ มีความสุขมีความสบายใจ” หลวงพ่อภัตร กล่าว.
[▪Naewna▪]
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ทึ่ง‘เกจิดังภาคใต้’ เนรมิต‘นาร้าง’เป็นแหล่งพหุวัฒนธรรม ต้นแบบชุมชน‘พุทธ-มุสลิม’เข้มแข็ง
…..■>>>ที่หมู่ 3 บ้านทุ่งแหลกลาง ต.นาหมอศรี อ.นาทวี จ.สงขลา หลังจากที่ “หลวงพ่อภัตร อริโย” เจ้าอาวาสวัดนาทวี และเกจิดังภาคใต้ ฉายา “เทพสามตา” ได้ชักชวนชาว ต.นาหมอศรี มาทำการพลิกนาร้าง เมื่อปลายปี 2560 เพื่อปลูกข้าว พร้อมทำเป็นศูนย์เรียนรู้ จนเวลาผ่านไปนานประมาณ 1 ปีเศษ หลวงพ่อภัตร และชาวบ้าน สามารถเปลี่ยนจากศูนย์เรียนรู้มาเป็น “พหุวัฒนธรรม นวัตกรรมชุมชน สังคมต้นแบบ บนความหลากหลาย”
…..■>>>ทุกๆวัน โดยเฉพาะในวันศุกร์ – วันอาทิตย์ จะมีประชาชนจากหลายอำเภอในจังหวัดสงขลา และชาวบ้านใน อ.นาทวี ทั้งชาวจีน ไทยพุทธ และมุสลิม จะพากันมาชม-เที่ยว และมีการถ่ายภาพและถ่ายเชลฟี่ที่แห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งไทยพุทธและมุสลิม ที่นำสินค้ามาวางจำหน่ายกัน ซึ่งนาแห่งนี้ ทั้งชาวจีน ไทยพุทธและมุสลิม จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อยู่แบบพี่น้อง และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่มีการหวาดระแวงแต่อย่างใด
…..■>>>“หลวงพ่อภัตร อริโย” เจ้าอาวาสวัดนาทวี และเกจิดังภาคใต้ กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้เป็นศูนย์ร่วมแห่งพหุวัฒนธรรม อาตมาก็ตั้งเป็นพหุวัฒนธรรม นวัตกรรมชุมชน เรียกว่าชุมชนต้นแบบ เพราะว่าที่ตรงนี้เป็นชุมชนที่หลายหลากศาสนา ที่เราอยู่กันมาเนิ่นนานแล้ว ตรงนี้เป็นตัวต้นแบบตั้งแต่พี่น้องชาวพุทธ พี่น้องชาวอิสลาม ที่ได้มาเที่ยวกันที่มาช่วยเหลือกันตรงนี่จะพูดได้ว่าพี่น้องอิสลามถึง 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เราได้มาช่วยเหลือกันได้ทำมาเหมือนที่ท่องเที่ยว แล้วก็เป็นศูนย์เรียนรู้พี่น้องแถวๆนี้ก็จะได้ขายของ ก็มีความสุข
…..■>>>“เมื่อก่อนก็เป็นที่ร้างมาเป็นเวลานาน 20 ปี วันนี้เราก็ได้ผลรวมก็คือพี่น้องแถวๆนี้ได้มาทำมหากินได้มาขายของ อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่ต้องหวาดระแวงกันอะไรกัน ถือว่าเป็นชุมชนชาวพุทธเป็นชุมชนที่พี่น้องอิสลามที่อยู่ในสามจังหวัด 4 อำเภอนี้ ที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายอะไรเลย ไม่มีการหวาดระแวงซึ่งกันและกัน”
…..■>>>ในส่วนของพระเอง เราพยายามเมตตา อภัย ให้โอกาส แล้วก็ที่มีอยู่มีแต่มีไว้ให้ ได้ไว้แจก แบกไว้ให้ผู้อื่นใช้ ถือคดีอยู่อย่างนี้ อาตมาก็ทำทุกๆวันนี้ จน ณ วันนี้ชุมชนตรงนี้กลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็งมาก และเป็นชุมชนต้นแบบก็ว่าได้ โดยมีเจ้าหน้าที่มาดูงานกันเยอะ ก็คือผลผลิตในเรื่องข้าว อะไรก็ดีเป็นส่วนหนึ่ง แต่ส่วนหนึ่งเอาเรื่องของความเป็นอยู่ของชุมชนระหว่างพี่น้องไทยพุทธกับอิสลามให้เขาอยู่กันอย่างมีความสุขของเราอยู่กันแบบนี้มานานแล้ว
…..■>>>ที่นี่ถ้าเราอยู่กันอย่างหวาดระแวงกันเกิดเหตุอะไรกันในสามจังหวัดทำให้เกิดมีปัญหาต่อกันสังคมเสียหาย ดังนั้นเราต้องแยกให้ถูกว่าระหว่างคนที่ทำร้ายประเทศ ทำร้ายพระ ทำร้ายคนอื่น ผู้อื่นก็ดี พูดแบบบ้านเราเขาเรียกว่าโจร แต่พี่น้องทางพุทธ อิสลามก็ดีเพราะเขาอยู่กันมาดีมีความสุข ทุกศาสนาก็โดนทำร้ายหมด แถวนี้
…..■>>>ดังนั้นถ้าเรามีความเข้มแข็ง ชุมชนของเรามีความเข้มแข็งเราก็มีความสามัคคีให้เรายึดหลักของความรักความสามัคคี ในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ณ วันนี้ ที่ชุมชนตรงนี้ มีความสุขมีความสบายใจ” หลวงพ่อภัตร กล่าว.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025