การที่จู่ๆในวันหนึ่งมนุษย์ก็พลันอันตรธานหรือสูญพันธุ์
หายไปจากโลกนี้ นั้นก็อาจเป็นสิ่งที่เป็นไปได้นะครับ
ดูอย่างไดโนเสาร์ที่ฉับพลันก็ล้มตายกันหมดทั้งโขลงเมื่อ ๖๕ ล้านปีก่อนปะไร
อาจจะเกิดจากมีดาวดวงอื่นพุ่งมาชนหรืออะไรก็แล้วแต่
หากทว่าหนนี้เราจะไม่พูดถึงสาเหตุ แต่จะตั้งสมมติฐานหรือเล่นติ๊งต่างว่า
ถ้าเช้าวันหนึ่งอยู่ๆก็ไม่มีมนุษย์อยู่บนโลกใบนี้เลยซักคน อะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนมีดังต่อไปนี้ครับ
ภายในไม่กี่ชั่วโมงที่ปราศจากมนุษย์ แสงไฟจะดับไปจากโลกนี้ ด้วยว่าพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่นั้นได้มาจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล
ดังนั้นถ้าหากไม่มีใครทำหน้าที่ป้อนเชื้อเพลิง ไฟฟ้าก็จะค่อยๆดับไปทีละเมืองสองเมือง จนกระทั่งหมดทั้งโลก
แต่โรงไฟฟ้าพลังปรมาณูจะอยู่ได้นานกว่านั้น เพราะเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ทั่วไปจะมีเชื้อเพลิงที่ทำงานได้ราวสองปี หากทว่าเมื่อไม่มีมนุษย์เปิดไฟใช้
ปริมาณการผลิตก็จะเหลือล้น และปฏิกรณ์ก็จะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติภายในสองวัน
หรือแม้กระทั่งพลังงานไฟฟ้ากังหันลมเช่นกัน
เมื่อไม่มีมนุษย์คอยหยอดน้ำมันหล่อลื่นให้แก่ตลับลูกปืนและฟันเฟือง
มิช้ามินานกลไกของกังหันก็จะใช้งานไม่ได้
และความสว่างสุดท้ายก็น่าจะเป็นไฟฟ้าที่มาจากเขื่อนกั้นน้ำ
อย่างเช่นเขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ (Hoover Dam) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา
เนื่องจากพลังน้ำที่ใช้หมุนกังหันไฟฟ้ามาจากอ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบมี้ด (Mead)
อันไพสาร ตราบใดที่ยังมีน้ำอยู่ในทะเลสาบนี้ การผลิตไฟฟ้าก็จะดำเนินต่อไป
ว่ากันว่า เมื่อไม่มีมนุษย์บนโลกเขื่อนพลังงานไฟฟ้าฮูเวอร์จะยังคงอยู่ไปได้เรื่อยๆ
มาดูระบบอื่นๆบนโลกกันบ้าง
ใต้นครใหญ่ๆของโลกนั้นจะมีท่อและอุโมงค์ใหญ่น้อยวางสลับซับซ้อน
เต็มไปหมด ทั้งสำหรับการระบายน้ำ การวางสายเคเบิล การขนส่งคมนาคม
เช่น รถไฟใต้ดิน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำใต้ดิน นั่นคือ
จริงๆแล้วจะมีน้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องมีเครื่องสูบน้ำระบายออกไปให้แห้ง
อย่างเช่น ใต้นครนิวยอร์คจะมีสถานีสูบน้ำอยู่ถึง ๗๐๐ แห่ง วันหนึ่งๆสูบน้ำใต้ดิน
ระบายทิ้งไปหลายล้านแกลลอน
ทีนี้เมื่อไม่มีคนมาควบคุมเปิดสวิทช์ปั๊มน้ำ อุโมงค์รถไฟใต้ดิน
ของนิวยอร์คก็จะมีน้ำท่วมเต็มภายในเวลาราวๆ ๓๖ ชั่วโมง หรือ วันครึ่งเท่านั้น
แล้วตัวอาคารสถานที่ต่างๆล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง
สิ่งที่จะเกิดผลกระทบมากมายก็ได้แก่พื้นผิวคอนกรีตต่างๆ
เช่น ลานจอดรถ ถนนหนทาง ด้วยว่าพื้นที่ใดก็ตามที่แสงแดดตกกระทบ
ที่นั่นก็จะมีพันธุ์พืชต่างๆเจริญเติบโตได้ เริ่มจากเมล็ดเล็กๆของมันจะลงไปอยู่
ตามรอยแตกรอยร้าว จากนั้นก็จะงอกงามเลื้อยไปตามพื้นผิวเหล่านั้น
ครั้นเ่ยวเฉาตายลง ผสมผสานกับพืชชั้นต่ำจำพวกตะไคร่น้ำก็จะก่อให้เกิดดิน
ปกคลุมผิวหน้า แม้ว่าระยะแรกๆ ดินพื้นผิวเหล่านี้จะขาดธาตุอาหาร
แต่พืชตระกูลถั่วก็สามารถใช้ในโตรเจนจากอากาศได้
พอมีพืชเติบโตขึ้น สัตว์ก็จะพากันมากินและอยู่อาศัย มิช้ามินานนครร้างมนุษย์นี้
ก็จะกลายเป็นพื้นที่เขียวชอุ่มไปในที่สุด
หลายปีผ่านไป ดงหญ้าที่รกรุงรัง และเศษมูลของสัตว์ที่สะสมกับหญ้าแห้ง
ก็จะเสมือนเชื้อเพลิงชั้นดี หากว่ามีฟ้าผ่าลงมาทำให้เกิดเปลวไฟ นครใหญ่เช่น
ชิคาโก หรือ แคลิฟอเนียร์ ก็มีอันถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน
กรุงโรมก็อาจโดนเผาเป็นครั้งที่สองเช่นกัน
เมื่ออาคารโดนเผา องค์ประกอบที่ทำด้วยไม้ เช่น คาน ขื่อ หรือเสา
ก็จะกลายสภาพเป็นถ่าน ซึ่งจะเป็นสารอาหารชั้นดีของพืช ดังนั้น
แม้เดิมจะเป็นลานคอนกรีตแต่ในที่สุดก็จะเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์สำหรับมวลพืชพันธุ์
คราวนี้เราก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของป่าดงดิบที่เกิดขึ้นภายในนครใหญ่ในอดีต
และภายในเวลายี่สิบปีอาคารร้างและทรุดโทรมที่ยังเหลืออยู่ก็จะ
มีสัตว์ที่เดิมนั้นเกรงกลัวมนุษย์ จะพากันอพยพเข้ามาใช้เป็นที่พำนักอาศัย
นี่มิใช่เพียงแค่การสันนิษฐานเพราะมันได้บังเกิดขึ้นจริงมาแล้ว
ณ เมืองปริปยาต (Pripyat) ของยูเครน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่สันสมัย
ที่สุดเมืองหนึ่ง กระทั่งได้เกิดหายนะภัยจากโรงไฟฟ้าปรมาณูเชอร์โนบิล
(Chernobyl) ได้เกิดระเบิดขึ้น และแผ่กระจายสารกัมมันตรังสี
ทำให้เมืองที่มีประชากร ๕๐,๐๐๐ คน กลายเป็นเมืองร้างในแค่ชั่วข้ามคืน
เมืองปริปยาตเปล่าๆนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นปกคลุม สวนสนุกที่มีกำหนดการเปิด
หลังโรงไฟฟ้าระเบิดสี่วันได้ถูกทิ้งร้าง ไม่เคยมีการเปิดใช้งาน
น่าเสียดายรถไฟเหาะ รถนัมเพอร์ และเครื่องเล่นต่างๆยิ่งนัก
ดินฟ้าอากาศของยูเครนนั้นหนาวจับใจ เมื่ออุณหภูมิลดต่ำกว่าศูนย์ น้ำที่ขังอยู่ตามร่อง ตามซอกมุมต่างๆของอาคารก็จะขยายตัว
เกิดแรงดัน ทำให้แตกร้าว ตอนนั้นรากต้นไม้ก็จะชอนไชเข้าไปตามรอยแตกเหล่านี้
และเพิ่มขยายการแตกร้าวของอาคารยิ่งขึ้นอีก
หลังเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่หลวงนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาถึงความเปลี่ยน
แปลงสภาพนิเวศน์ พบว่าต้นไม้ส่วนใหญ่ภายในพื้นที่หนึ่งตารางไมล์ครึ่ง
รอบบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ตายลงด้วยพิษความร้อนของกัมมันตรังสี
สัตว์จำนวนมากก็ลมตายเช่นกัน
หากทว่า ยี่สิบปีผ่านไปโดยไม่มีมนุษย์ กลับมีผลดีต่อชีวิตพืชและสัตว์
อย่างคาดไม่ถึง เดิมนั้นกวางแดง (red deer) เป็นสัตว์หายากในท้องถิ่นนี้
แต่ปัจจุบันเขตเชอร์โนบิลเป็นแหล่งเดียวที่จะมาสารถพบกวางแดงที่มี
ขนาดสมบูรณ์และแข็งแรงโตเต็มที่มากมาย หรือ หมูป่ารัสเซียในเขตนี้
ก็มีจำนวนมากกว่าเขตอื่นๆถึงสิบห้าเท่า
ในโรงเรียนอนุบาลของหมู่บ้านคาร์ปาชิ � ไม่ไกลจากเชอร์โนบิล
เด็กเล็กๆเคยวิ่งเล่นอยู่ในนี้ขณะที่พ่อแม่ไปทำงาน แต่หลังจากคืนในเดือนเมษายน
ค.ศ. ๑๙๘๖ พวกเขาไม่เคยหวนกลับมาที่นี่อีกเลย ห้องที่เด็กเล็กๆเคยใช้นอนกลางวัน
บัดนี้ทรุดโทรม ประตูหน้าต่างผุพัง หากทว่าเป็นห้องที่ยังคงมีชีวิต
ฝูงนกบินเข้าออกและจับอยู่ตามพนัก แม้แต่นกฮูกก็ยังเข้ามาอาศัยในนี้ สัตว์ที่มีความสามารถดำรงคงอยู่ได้แม้ไร้มนุษย์นั้นมีอยู่หลายประเภท เช่น พิราบที่เราเคยเห็นว่ามีชีวิตผูกพันใกล้ชิดมนุษย์ เมื่อมนุษย์จากไป
และทิ้งร้างไว้แต่อาคารปรักหักพัง นกพิราบก็จะอาศัยอยู่ตามอาคารเหล่านี้ได้
ประหนึ่งดังเป็นหน้าผาจำลอง อันเป็นสถานที่อยู่ดั้งเดิมจริงๆของมัน
แมลงสาบล่ะ มันคงตระหนกมากซิน่ะเมื่อไม่มีมนุษย์
มันจะหาเศษอาหารได้จากไหน อีกทั้งมันเป็นสัตว์ที่ชอบความอบอุ่น
และแฝงอยู่ในอาคารได้อาศัยไออุ่นจากความร้อนที่มนุษย์ผลิตขึ้น
เคยเชื่อกันว่ามันไม่อาจมีชีวิตได้ในเมืองที่หนาวจัด หากทว่าแท้จริงแล้ว
แมลงสาบสามารถปรับตัวได้ดีมาก มิฉะนั้นมันคงไม่อาจอยู่ลนโลกนี้
ได้มานานถึง ๓๐๐ ล้านปีมาแล้ว ในช่วงแรกของฤดูหนาว
จะแลเห็นแมลงสาบจำนวนหนึ่งตายเกลื่อน แต่ก็ยังมีอีกเยอะแยะที่หลบลง
ใต้ดินเพื่อหาความอบอุ่นจนกว่าอากาศจะดีขึ้น ยิ่งเป็นเมืองร้างไร้มนุษย์ก็ยิ่งดี
เพราะจะปราศจากยาฆ่าแมลง พืชผักอุดมสมบูรณ์ ระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น
มีความชื้นที่เหล่าแมลงสาบโปรดปราน เรียกว่าเป็นยุคทองของมันเลยแหละ
แมลงสาบเพียงแค่ก่อให้เกิดความรำคาญ แต่หมาป่านั้นร้ายกาจ
มนุษย์จึงไล่ล่ามันอย่างไม่ปรานี ตอนที่ชนยุโรปกลุ่มแรกมาถึงอเมริกานั้น
เชื่อกันว่ามีหมาป่าในถิ่นนี้อยู่ราวครึ่งล้านตัว พอถึงศตวรรษที่ ๒๐
สัตว์ชนิดนี้ก็กลายเป็นสัตว์หายากไป ทีนี้ถ้ามนุษย์สูญไปจากโลก
ประชากรหมาป่าก็จะเพิ่มขึ้นราวหกเท่าในแต่ละปี และภายใน ๒๕ ปี
ก็จะมีฝูงมันครึ่งล้านตัวเหมือนเดิมออกเพ่นพ่านอีกครั้ง
สัตว์กระจ้อยร่อย อีกอย่างที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วยามไร้มนุษย์ มันคือปลวก อาคารเหล็กกับคอนกรีตนั้นยั่งยืนอยู่ได้อาจนานถึง ๔๐ ปี
แต่บ้านในชานเมืองซึ่งก่อสร้างด้วยไม้ จะโดนปลวกโจมตี บ้านร้างที่ไม่มีการ
ทาสีซ่อมแซม ปลวกจะยิ้ม อาหารหลักของปลวกได้แก่เซลลูโลสที่เป็นโครงสร้าง
หลักของพืช ปลวกจะกินกันอย่างไม่หยุดยั้ง ปลวกบางฝูงจะหม่ำไม้ได้ถึง
พันปอนด์ในหนึ่งปี
ศัตรูของไม้อีกอย่างก็คือ จุลินทรีย์ ที่กินไม้จนผุ ตรงจุดข้อต่อของไม้
จะมีน้ำขังอยู่ได้ เมื่อไม้เปี่อยก็ตกเป็นอาหารของจุลินทรีย์ สุดท้าย
อาคารไม้ทั้งหลังก็ล้มครืน
อิฐและหินของอาคารไม้โบราณอาจคงทนมาได้นานนับพันปี
เช่น รางละเลียงน้ำ หรือ เอควาดักท์ (aqueduct) ของโรมัน
แต่นั่นก็หมายถึงว่ามนุษย์ดูแลบำรุงรักษา หากไร้มนุษย์เสียแล้ว
มันก็อาจพังครืนได้เช่นกัน ทั้งนี้จากการที่มีฝุ่นความเค็มของเกลือ
ปลิวมาสะสมกัดกร่อน ว่ากันว่าตัวสฟิงส์ที่เฝ้ามหาพิรามิดนั้น
ถูกขุดขึ้นมาบูรณะตั้งแต่ครั้ง ๑,๔๐๐ ปีก่อนค.ศ.และคงอยู่จนเดี๋ยวนี้
แต่ว่าถ้าไม่ใช่เพราะมนุษย์คอยอนุรักษ์ไว้ละก็ การกัดกร่อนโดนเกลือ
และกระแสลมจะทำให้มันเหลือเป็นกองฝุ่นภายในชั่ว ๕๐๐ ปีเท่านั้น
สะพานขึง (Suspension bridge) นั้นอยู่ได้ด้วยสายเคเบิลโลหะ เคเบิลแต่ละเส้นสามารถรับแรงดึงได้ถึง ๒๐๐,๐๐๐ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ซึ่งจักว่ามหาศาล แต่แม้จะแข็งแกร่งเพียงใดโลหะนั้นก็มาจากแร่ในธรรมชาตินั่นเอง
เมื่อสัมผัสกับความชื้นนานๆไป มันก็จะมีความโน้มเอียงที่จะกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ดังเดิม จากเถ้าสู่เถ้า จากฝุ่นสู่ฝุ่น
สะพานบรุคลิน (Brooklyn Bridge) สร้างเสร็จในปี ค.ศ. ๑๘๘๓
หลังจากสร้างเสร็จก็ต้องมีการทาสีใหม่ทุก ๑๒ ปี และสะพานโกลเดนเกต
(Golden Gate) อันโด่งดังของซานฟานซิสโกก็ต้องมีช่างเหล็ก ๑๗ คน
กับช่างทาสี ๓๘ คน อยู่ประจำทำงาน ถ้าขืนปล่อยให้สนิมกินเมื่อใด
สะพานก็จะยุบลงมาเมื่อนั้น
หอไอเฟล (Eiffel Tower) แห่งกรุงปารีส ก็เป็นโครงสร้างอีก
แห่งหนึ่งซึ่งต้องมีการทาสีใหม่ทุกๆเจ็ดปี
ครับ จะเห็นได้ว่าถ้ามนุษย์หายสาบสูญไปจากโลกเมื่อไร
สิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ก็จะพินาศภินท์พังในเวลาไม่นาน
แต่ธรรมชาติกลับตรงกันข้าม ทั้งพืชและสัตว์จะอุดมสมบูรณ์
สมดังคำเปรียบเปรยที่ว่า
มนุษย์นั้นเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ถ้ามนุษย์สูญพันธ์ โลกจะเกิดอะไรขึ้น
การที่จู่ๆในวันหนึ่งมนุษย์ก็พลันอันตรธานหรือสูญพันธุ์
หายไปจากโลกนี้ นั้นก็อาจเป็นสิ่งที่เป็นไปได้นะครับ
ดูอย่างไดโนเสาร์ที่ฉับพลันก็ล้มตายกันหมดทั้งโขลงเมื่อ ๖๕ ล้านปีก่อนปะไร
อาจจะเกิดจากมีดาวดวงอื่นพุ่งมาชนหรืออะไรก็แล้วแต่
หากทว่าหนนี้เราจะไม่พูดถึงสาเหตุ แต่จะตั้งสมมติฐานหรือเล่นติ๊งต่างว่า
ถ้าเช้าวันหนึ่งอยู่ๆก็ไม่มีมนุษย์อยู่บนโลกใบนี้เลยซักคน อะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนมีดังต่อไปนี้ครับ
ภายในไม่กี่ชั่วโมงที่ปราศจากมนุษย์ แสงไฟจะดับไปจากโลกนี้
ด้วยว่าพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่นั้นได้มาจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล
ดังนั้นถ้าหากไม่มีใครทำหน้าที่ป้อนเชื้อเพลิง ไฟฟ้าก็จะค่อยๆดับไปทีละเมืองสองเมือง จนกระทั่งหมดทั้งโลก
แต่โรงไฟฟ้าพลังปรมาณูจะอยู่ได้นานกว่านั้น เพราะเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ทั่วไปจะมีเชื้อเพลิงที่ทำงานได้ราวสองปี หากทว่าเมื่อไม่มีมนุษย์เปิดไฟใช้
ปริมาณการผลิตก็จะเหลือล้น และปฏิกรณ์ก็จะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติภายในสองวัน
หรือแม้กระทั่งพลังงานไฟฟ้ากังหันลมเช่นกัน
เมื่อไม่มีมนุษย์คอยหยอดน้ำมันหล่อลื่นให้แก่ตลับลูกปืนและฟันเฟือง
มิช้ามินานกลไกของกังหันก็จะใช้งานไม่ได้
และความสว่างสุดท้ายก็น่าจะเป็นไฟฟ้าที่มาจากเขื่อนกั้นน้ำ
อย่างเช่นเขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ (Hoover Dam) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา
เนื่องจากพลังน้ำที่ใช้หมุนกังหันไฟฟ้ามาจากอ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบมี้ด (Mead)
อันไพสาร ตราบใดที่ยังมีน้ำอยู่ในทะเลสาบนี้ การผลิตไฟฟ้าก็จะดำเนินต่อไป
ว่ากันว่า เมื่อไม่มีมนุษย์บนโลกเขื่อนพลังงานไฟฟ้าฮูเวอร์จะยังคงอยู่ไปได้เรื่อยๆ
มาดูระบบอื่นๆบนโลกกันบ้าง
ใต้นครใหญ่ๆของโลกนั้นจะมีท่อและอุโมงค์ใหญ่น้อยวางสลับซับซ้อน
เต็มไปหมด ทั้งสำหรับการระบายน้ำ การวางสายเคเบิล การขนส่งคมนาคม
เช่น รถไฟใต้ดิน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำใต้ดิน นั่นคือ
จริงๆแล้วจะมีน้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องมีเครื่องสูบน้ำระบายออกไปให้แห้ง
อย่างเช่น ใต้นครนิวยอร์คจะมีสถานีสูบน้ำอยู่ถึง ๗๐๐ แห่ง วันหนึ่งๆสูบน้ำใต้ดิน
ระบายทิ้งไปหลายล้านแกลลอน
ทีนี้เมื่อไม่มีคนมาควบคุมเปิดสวิทช์ปั๊มน้ำ อุโมงค์รถไฟใต้ดิน
ของนิวยอร์คก็จะมีน้ำท่วมเต็มภายในเวลาราวๆ ๓๖ ชั่วโมง หรือ วันครึ่งเท่านั้น
แล้วตัวอาคารสถานที่ต่างๆล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง
สิ่งที่จะเกิดผลกระทบมากมายก็ได้แก่พื้นผิวคอนกรีตต่างๆ
เช่น ลานจอดรถ ถนนหนทาง ด้วยว่าพื้นที่ใดก็ตามที่แสงแดดตกกระทบ
ที่นั่นก็จะมีพันธุ์พืชต่างๆเจริญเติบโตได้ เริ่มจากเมล็ดเล็กๆของมันจะลงไปอยู่
ตามรอยแตกรอยร้าว จากนั้นก็จะงอกงามเลื้อยไปตามพื้นผิวเหล่านั้น
ครั้นเ่ยวเฉาตายลง ผสมผสานกับพืชชั้นต่ำจำพวกตะไคร่น้ำก็จะก่อให้เกิดดิน
ปกคลุมผิวหน้า แม้ว่าระยะแรกๆ ดินพื้นผิวเหล่านี้จะขาดธาตุอาหาร
แต่พืชตระกูลถั่วก็สามารถใช้ในโตรเจนจากอากาศได้
พอมีพืชเติบโตขึ้น สัตว์ก็จะพากันมากินและอยู่อาศัย มิช้ามินานนครร้างมนุษย์นี้
ก็จะกลายเป็นพื้นที่เขียวชอุ่มไปในที่สุด
หลายปีผ่านไป ดงหญ้าที่รกรุงรัง และเศษมูลของสัตว์ที่สะสมกับหญ้าแห้ง
ก็จะเสมือนเชื้อเพลิงชั้นดี หากว่ามีฟ้าผ่าลงมาทำให้เกิดเปลวไฟ นครใหญ่เช่น
ชิคาโก หรือ แคลิฟอเนียร์ ก็มีอันถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน
กรุงโรมก็อาจโดนเผาเป็นครั้งที่สองเช่นกัน
เมื่ออาคารโดนเผา องค์ประกอบที่ทำด้วยไม้ เช่น คาน ขื่อ หรือเสา
ก็จะกลายสภาพเป็นถ่าน ซึ่งจะเป็นสารอาหารชั้นดีของพืช ดังนั้น
แม้เดิมจะเป็นลานคอนกรีตแต่ในที่สุดก็จะเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์สำหรับมวลพืชพันธุ์
คราวนี้เราก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของป่าดงดิบที่เกิดขึ้นภายในนครใหญ่ในอดีต
และภายในเวลายี่สิบปีอาคารร้างและทรุดโทรมที่ยังเหลืออยู่ก็จะ
มีสัตว์ที่เดิมนั้นเกรงกลัวมนุษย์ จะพากันอพยพเข้ามาใช้เป็นที่พำนักอาศัย
นี่มิใช่เพียงแค่การสันนิษฐานเพราะมันได้บังเกิดขึ้นจริงมาแล้ว
ณ เมืองปริปยาต (Pripyat) ของยูเครน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่สันสมัย
ที่สุดเมืองหนึ่ง กระทั่งได้เกิดหายนะภัยจากโรงไฟฟ้าปรมาณูเชอร์โนบิล
(Chernobyl) ได้เกิดระเบิดขึ้น และแผ่กระจายสารกัมมันตรังสี
ทำให้เมืองที่มีประชากร ๕๐,๐๐๐ คน กลายเป็นเมืองร้างในแค่ชั่วข้ามคืน
เมืองปริปยาตเปล่าๆนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นปกคลุม สวนสนุกที่มีกำหนดการเปิด
หลังโรงไฟฟ้าระเบิดสี่วันได้ถูกทิ้งร้าง ไม่เคยมีการเปิดใช้งาน
น่าเสียดายรถไฟเหาะ รถนัมเพอร์ และเครื่องเล่นต่างๆยิ่งนัก
ดินฟ้าอากาศของยูเครนนั้นหนาวจับใจ เมื่ออุณหภูมิลดต่ำกว่าศูนย์
น้ำที่ขังอยู่ตามร่อง ตามซอกมุมต่างๆของอาคารก็จะขยายตัว
เกิดแรงดัน ทำให้แตกร้าว ตอนนั้นรากต้นไม้ก็จะชอนไชเข้าไปตามรอยแตกเหล่านี้
และเพิ่มขยายการแตกร้าวของอาคารยิ่งขึ้นอีก
หลังเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่หลวงนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาถึงความเปลี่ยน
แปลงสภาพนิเวศน์ พบว่าต้นไม้ส่วนใหญ่ภายในพื้นที่หนึ่งตารางไมล์ครึ่ง
รอบบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ตายลงด้วยพิษความร้อนของกัมมันตรังสี
สัตว์จำนวนมากก็ลมตายเช่นกัน
หากทว่า ยี่สิบปีผ่านไปโดยไม่มีมนุษย์ กลับมีผลดีต่อชีวิตพืชและสัตว์
อย่างคาดไม่ถึง เดิมนั้นกวางแดง (red deer) เป็นสัตว์หายากในท้องถิ่นนี้
แต่ปัจจุบันเขตเชอร์โนบิลเป็นแหล่งเดียวที่จะมาสารถพบกวางแดงที่มี
ขนาดสมบูรณ์และแข็งแรงโตเต็มที่มากมาย หรือ หมูป่ารัสเซียในเขตนี้
ก็มีจำนวนมากกว่าเขตอื่นๆถึงสิบห้าเท่า
ในโรงเรียนอนุบาลของหมู่บ้านคาร์ปาชิ � ไม่ไกลจากเชอร์โนบิล
เด็กเล็กๆเคยวิ่งเล่นอยู่ในนี้ขณะที่พ่อแม่ไปทำงาน แต่หลังจากคืนในเดือนเมษายน
ค.ศ. ๑๙๘๖ พวกเขาไม่เคยหวนกลับมาที่นี่อีกเลย ห้องที่เด็กเล็กๆเคยใช้นอนกลางวัน
บัดนี้ทรุดโทรม ประตูหน้าต่างผุพัง หากทว่าเป็นห้องที่ยังคงมีชีวิต
ฝูงนกบินเข้าออกและจับอยู่ตามพนัก แม้แต่นกฮูกก็ยังเข้ามาอาศัยในนี้
สัตว์ที่มีความสามารถดำรงคงอยู่ได้แม้ไร้มนุษย์นั้นมีอยู่หลายประเภท
เช่น พิราบที่เราเคยเห็นว่ามีชีวิตผูกพันใกล้ชิดมนุษย์ เมื่อมนุษย์จากไป
และทิ้งร้างไว้แต่อาคารปรักหักพัง นกพิราบก็จะอาศัยอยู่ตามอาคารเหล่านี้ได้
ประหนึ่งดังเป็นหน้าผาจำลอง อันเป็นสถานที่อยู่ดั้งเดิมจริงๆของมัน
แมลงสาบล่ะ มันคงตระหนกมากซิน่ะเมื่อไม่มีมนุษย์
มันจะหาเศษอาหารได้จากไหน อีกทั้งมันเป็นสัตว์ที่ชอบความอบอุ่น
และแฝงอยู่ในอาคารได้อาศัยไออุ่นจากความร้อนที่มนุษย์ผลิตขึ้น
เคยเชื่อกันว่ามันไม่อาจมีชีวิตได้ในเมืองที่หนาวจัด หากทว่าแท้จริงแล้ว
แมลงสาบสามารถปรับตัวได้ดีมาก มิฉะนั้นมันคงไม่อาจอยู่ลนโลกนี้
ได้มานานถึง ๓๐๐ ล้านปีมาแล้ว ในช่วงแรกของฤดูหนาว
จะแลเห็นแมลงสาบจำนวนหนึ่งตายเกลื่อน แต่ก็ยังมีอีกเยอะแยะที่หลบลง
ใต้ดินเพื่อหาความอบอุ่นจนกว่าอากาศจะดีขึ้น ยิ่งเป็นเมืองร้างไร้มนุษย์ก็ยิ่งดี
เพราะจะปราศจากยาฆ่าแมลง พืชผักอุดมสมบูรณ์ ระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น
มีความชื้นที่เหล่าแมลงสาบโปรดปราน เรียกว่าเป็นยุคทองของมันเลยแหละ
แมลงสาบเพียงแค่ก่อให้เกิดความรำคาญ แต่หมาป่านั้นร้ายกาจ
มนุษย์จึงไล่ล่ามันอย่างไม่ปรานี ตอนที่ชนยุโรปกลุ่มแรกมาถึงอเมริกานั้น
เชื่อกันว่ามีหมาป่าในถิ่นนี้อยู่ราวครึ่งล้านตัว พอถึงศตวรรษที่ ๒๐
สัตว์ชนิดนี้ก็กลายเป็นสัตว์หายากไป ทีนี้ถ้ามนุษย์สูญไปจากโลก
ประชากรหมาป่าก็จะเพิ่มขึ้นราวหกเท่าในแต่ละปี และภายใน ๒๕ ปี
ก็จะมีฝูงมันครึ่งล้านตัวเหมือนเดิมออกเพ่นพ่านอีกครั้ง
สัตว์กระจ้อยร่อย อีกอย่างที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วยามไร้มนุษย์
มันคือปลวก อาคารเหล็กกับคอนกรีตนั้นยั่งยืนอยู่ได้อาจนานถึง ๔๐ ปี
แต่บ้านในชานเมืองซึ่งก่อสร้างด้วยไม้ จะโดนปลวกโจมตี บ้านร้างที่ไม่มีการ
ทาสีซ่อมแซม ปลวกจะยิ้ม อาหารหลักของปลวกได้แก่เซลลูโลสที่เป็นโครงสร้าง
หลักของพืช ปลวกจะกินกันอย่างไม่หยุดยั้ง ปลวกบางฝูงจะหม่ำไม้ได้ถึง
พันปอนด์ในหนึ่งปี
ศัตรูของไม้อีกอย่างก็คือ จุลินทรีย์ ที่กินไม้จนผุ ตรงจุดข้อต่อของไม้
จะมีน้ำขังอยู่ได้ เมื่อไม้เปี่อยก็ตกเป็นอาหารของจุลินทรีย์ สุดท้าย
อาคารไม้ทั้งหลังก็ล้มครืน
อิฐและหินของอาคารไม้โบราณอาจคงทนมาได้นานนับพันปี
เช่น รางละเลียงน้ำ หรือ เอควาดักท์ (aqueduct) ของโรมัน
แต่นั่นก็หมายถึงว่ามนุษย์ดูแลบำรุงรักษา หากไร้มนุษย์เสียแล้ว
มันก็อาจพังครืนได้เช่นกัน ทั้งนี้จากการที่มีฝุ่นความเค็มของเกลือ
ปลิวมาสะสมกัดกร่อน ว่ากันว่าตัวสฟิงส์ที่เฝ้ามหาพิรามิดนั้น
ถูกขุดขึ้นมาบูรณะตั้งแต่ครั้ง ๑,๔๐๐ ปีก่อนค.ศ.และคงอยู่จนเดี๋ยวนี้
แต่ว่าถ้าไม่ใช่เพราะมนุษย์คอยอนุรักษ์ไว้ละก็ การกัดกร่อนโดนเกลือ
และกระแสลมจะทำให้มันเหลือเป็นกองฝุ่นภายในชั่ว ๕๐๐ ปีเท่านั้น
สะพานขึง (Suspension bridge) นั้นอยู่ได้ด้วยสายเคเบิลโลหะ
เคเบิลแต่ละเส้นสามารถรับแรงดึงได้ถึง ๒๐๐,๐๐๐ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ซึ่งจักว่ามหาศาล แต่แม้จะแข็งแกร่งเพียงใดโลหะนั้นก็มาจากแร่ในธรรมชาตินั่นเอง
เมื่อสัมผัสกับความชื้นนานๆไป มันก็จะมีความโน้มเอียงที่จะกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ดังเดิม จากเถ้าสู่เถ้า จากฝุ่นสู่ฝุ่น
สะพานบรุคลิน (Brooklyn Bridge) สร้างเสร็จในปี ค.ศ. ๑๘๘๓
หลังจากสร้างเสร็จก็ต้องมีการทาสีใหม่ทุก ๑๒ ปี และสะพานโกลเดนเกต
(Golden Gate) อันโด่งดังของซานฟานซิสโกก็ต้องมีช่างเหล็ก ๑๗ คน
กับช่างทาสี ๓๘ คน อยู่ประจำทำงาน ถ้าขืนปล่อยให้สนิมกินเมื่อใด
สะพานก็จะยุบลงมาเมื่อนั้น
หอไอเฟล (Eiffel Tower) แห่งกรุงปารีส ก็เป็นโครงสร้างอีก
แห่งหนึ่งซึ่งต้องมีการทาสีใหม่ทุกๆเจ็ดปี
ครับ จะเห็นได้ว่าถ้ามนุษย์หายสาบสูญไปจากโลกเมื่อไร
สิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ก็จะพินาศภินท์พังในเวลาไม่นาน
แต่ธรรมชาติกลับตรงกันข้าม ทั้งพืชและสัตว์จะอุดมสมบูรณ์
สมดังคำเปรียบเปรยที่ว่า
มนุษย์นั้นเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024